สมาร์ทแบนด์สำหรับคนรักสุขภาพ ไม่ว่าคุณจะออกกำลังมากหรือน้อยที่มีหน้าจอสวยที่สุดในกลุ่มได้กลับมาแล้ว นั่นก็คือ Samsung Gear Fit2 Pro ที่เปิดราคามาได้เย้ายวนใจเพียง 6,500 บาท แถมยังได้รับการอัพเกรดความสามารถใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการออกกำลังกาย การทนน้ำทนฝุ่นที่รอบนี้จัดหนักถึง 5ATM หรือดำน้ำลงไปได้ถึง 50 เมตร หน่วยความจำภายมีเนื้อที่พอให้บรรจุเพลงลงไปได้ถึง 500 และยังสามารถเชื่อมต่อกับ Bluetooth ไปวิ่งโดยไม่รต้องพกมือถือก็ได้ มีเซนเซอร์วัดการเต้นหัวใจ GPS ในตัวและอื่นๆ อีกมาก นับว่า Gear Fit2 Pro เครื่องนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว

อุปกรณ์ในกล่อง Gear Fit2 Pro

Gear Fit2 Pro นั้นมาในดีไซน์จอโค้งแนวตั้งเป็นหน้าจอ Super AMOLED สีสันสดใส สวยและคมที่สุดในกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ซึ่งรูปแบบการใช้งานนั้นก็ไม่ได้ยากเพราะเป็นหน้าจอสัมผัสและมีปุ่มด้านข้างสำหรับกดย้อนกลับหรือเปลี่ยนเมนูได้ แต่ก่อนจะเริ่มทดลองใช้งาน เรามาดูอุปกรณ์ต่างๆ ในชุดขายกันก่อนดีกว่า

ภายในกล่อง Gear Fit2 Pro นั้นนอกจากตัวเรือนแล้ว ก็จะมีสายเปลี่ยนมาให้อีกหนึ่งเส้น (ในชุดขายจริงมีสายเส้นเดียว) พร้อมกับแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก และคู่มือการใช้งาน

แกะกล่องออกมาแล้วใช้ได้เลยไหม ยังครับ ต้องบอกก่อนว่าด้านหลังบริเวณของตัววัดอัตราการเต้นหัวใจนั้นมีพลาสติกปิดเอาไว้เอยู่ เราก็ต้องจัดการลอกมันออกก่อนนะ ไม่งั้นใส่ไปแล้ววัดอัตราการเต้นหัวใจไม่ได้ จะไปคิดว่าตัวเองตายไปแล้วอันนี้ก็ไม่ถูก

ส่วนจุดสีทองๆ สองจุดแนวตั้งนั่นแหละคือขั้วสำหรับชาร์จแบตให้กับ Gear Fit2 Pro ซึ่งวิธีการชาร์จก็แค่เอาไปวางแหมะลงบนแท่น

อันนี้จะวางด้านไหนก้ได้นะครับ เพราะตรงแทนชาร์จนั้นมีขั้วเผื่อไว้ให้ทั้งสองด้าน พอวางลงไปแล้วมันก็จะมีแรงดูดของแม่เหล็กเบาๆ ให้เข้าล็อค

ส่วนสายนั้นสามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยวิธีการเปลี่ยนก็ไม่ยาก กดสวิชแล้วเลื่อนออกมาได้เลย ไม่ต้องใช้ไขควงหรืออะไรมาแงะทั้งนั้น ซึ่งจากที่ทดสอบดุตัวล็อคนั้นทำงานได้แน่นหนาดี ถึงแม้จะดูเหมือนแกะง่าย แต่ระหว่างใช้งานไม่มีทางหลุดแน่นอน ซึ่งในต่างประเทศเห็นมีสายลายสวยๆ เพียบเลย ไม่รู้บ้านเราจะมีเข้ามาขายหรือเปล่า

การเชื่อมต่อ Gear Fit2 Pro กับมือถือ Android

เช็คตัวเครื่องเรียบร้อยแล้วก็มาเปิดกันเลย Gear Fit2 Pro รองรับภาษาไทยด้วยนะครับ เลือกได้จากหน้าแรกตั้งแต่เปิดเครื่องมาเลย

ส่วนการเชื่อมต่อกับมือถือนั้น Gear Fit2 Pro ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้กับ Android เครื่องไหน ยี่ห้ออะไรก็ได้ ซึ่งก็อาจจะต้องมีการติดตั้งแอป Samsung Gear และ Samsung Accessories เพิ่มเติม แต่การใช้งานนั้นฟีเจอร์ครบเหมือนกับที่ใช้บน Galaxy เพราะฉะนั้นจะใช้ Android ยี่ห้อไหนก็สามารถเชื่อมต่อกับ Gear Fit2 Pro ได้

ได้รหัส Passkey การเชื่อมต่อผ่าน bluetooth มาแล้วก็รอการยืนยันนิดหน่อย ครั้งแรกมันก็จะนานนิดนึง แต่พอมันรู้จักกันแล้วต่อไปก็ไม่ยุ่งยากแล้วครับ

พอเชื่อมต่อได้แล้ว อย่างแรกที่ต้องตั้งค่าเลยคือการแจ้งเตือน เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้แอปไหนสามารถส่งการแจ้งเตือนมายังบน Gear Fit2 Pro ได้บ้าง อันนี้ก็เลือกปิดเปิดได้ตามสะดวก ซึ่งบางแอปยังรองรับการตอบกลับแบบเร็วๆ ด้วย เช่นการกด Like หรือส่ง emoji กลับไปจากบนข้อมือได้เลย

นอกกจากนั้นเรายังสามารถเลือกปรับเปลี่ยนหน้าปัด หรือ Watch Face ได้ผ่านแอป Samsung Gear บนมือถือ ที่มีให้เลือกปรับแต่งมากมาย รวมถึงยังแอปต่างๆ ให้ดาวน์โหลดด้วย และหากต้องการจะโหลดเพลงไปเก็บไว้ใน Gear Fit2 Pro ก็ต้องเข้ามาทำในนี้ด้วย

การวัดอัตราการเต้นหัวใจของ Gear Fit2 Pro

ผู้ใหญ่บางหรือลูกๆ บางคนก็มีความรู้สึกอยากได้อุปกรณ์ wearable มาเพื่อวัดอัตราการเต้นหัวใจเท่านั้น เช่นในผู้สูงอายุหรือปู่ย่าตายาย ซึ่งถ้าเราไม่ได่ตั้งค่าอะไรเป็นพิเศษ มันก็จะมีการเก็บข้อมูลให้เป็นช่วงเวลาในแต่ละวัน ซึ่งเป็นการตั้งค่าแบบ Auto

อย่างในภาพนี้ก็แสดงผลอัตราการเต้นหัวใจของผม (จริงๆ ต้องใส่ไว้ที่ข้อมือนะถึงจะวัดได้ แต่ผมถอดออกมาถ่ายรูปเฉยๆ) อยู่ที่ 88 ครั้ง

ในกรณีที่เราต้องการตรวจสอบการเต้นของหัวใจเป็นพิเศษ ก็สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเป็น Always ได้ เพื่อให้มีการตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจอย่างต่อเนื่อง แต่ก็จะส่งผลกับอายุการใช้งานเครื่องในแต่ละวันด้วย

 

Play video

การใช้งาน Gear Fit2 Pro ความสามารถเบื้องต้นสำหรับคนที่อยากได้แค่สมาร์ทวอช

ขอแยกขั้นตอนการใช้งานเป็น 2 ส่วน เพื่อความเข้าใจง่ายเพราะเชื่อว่าบางคนอาจจะไม่ได้มีเวลาออกกำลังกายขนาดนั้น แต่อยากได้สมาร์ทวอชหรือ wearable เอาไว้ใส่ช่วยเตือนความจำ นับก้าวเดินดูแคลอรี่เล็กน่อย รวมไปจนถึงดูอัตราการเต้นหัวใจ

จากหน้าจอหลัก หากเราลากนิ้วจากด้านซ้ายไปขวาก็จะเป็นการเข้าสู่หน้าของการแจ้งเตือนทั้งหมดทั้งมวล โดยเราสามารถไถหน้าจอขึ้นลงเพื่อเลื่อนอ่านได้

ด้วยจอ Super AMOLED ที่มีขนาดใหญ่และความละเอียดสูงในขนาดที่กำลังเหมาะ ทำให้ตัวหนังสือต่างๆ บนหน้าจอนั้นคม อ่านง่าย

ซึ่งแน่นอนว่ามันรองรับการแจ้งเตือนต่างๆ เป็นภาษาไทยด้วย และก็สามารถอ่านได้ง่ายไม่แพ้ภาษาอังกฤษ อาจจะมีตัดคำมึนๆ บ้าง แต่สระไม่ลอยนะ

และในแต่ละวันก็จะมีการเก็บข้อมูลการเดินให้ด้วย ซึ่งเดินมากเดินน้อยก็จะนำมาคำนวนกับแคลอรี่ที่สูญเสียไปในแต่ละวัน รวมถึงยังมีการแจ้งเตือนให้ขยับตัวบ้าง ในบางครั้งที่เราอยู่นิ่งๆ นานเกินไป เช่นระหว่างนั่งทำงานอาจจะมีบอกให้บิดตัวไปมาเป็นเซ็ท หรือลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายซะหน่อย อันนี้ชอบ

 

การใช้ Gear Fit2 Pro สำหรับคนที่ออกกำลังกายจริงจัง

สำหรับคนที่ต้องการใช้ Gear Fit2 Pro ให้คุ้มค่าและครบทุกฟังก์ชั่นของมันจริงๆ เช่นการออกกำลังกายแบบเป็นกิจจะลักษณะ รวมถึงการดูข้อมูลแบบละเอียดสุดๆ อันนี้ก็ต้องขอให้ไปตั้งค่าโปรไฟล์ลงใน Samung Health เช่นอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง ให้ครบ หากใครไม่ได้ใช้ Samsung ก็สามารถโหลด Samsung Health ได้จากใน Playstore เช่นกันครับ

ตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะทำการซิงค์ข้อมูลทั้งหมดลงไปในมือถือ ซึ่งเราสามารถย้อนกลับมาดูได้ในแต่ละวันว่าเรานอน เดิน วิ่ง ไปเท่าไหร่ อัตราการเต้นหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนกิจกรรมที่ Gear Fit2 Pro รองรับนั้นมีเยอะแยะมากมายให้เราสามารถเลือกประเภทการออกกำลังได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมที่ทำได้เองไม่ต้องใช้พื้นที่ เช่นการวิดพื้น ทำสควอช หรือซิทอัพ ซึ่งมันก็จะมีเซ็ทข่วยเรานับในแต่ละครั้ง และเซนเซอร์ใน Gear Fit2 Pro ก็จะเป็นตัวบอกว่าเราทำท่าได้ถูกต้องหรือยัง

ผมเองได้ลองทดสอบด้วยการทำซิทอัพ หรือครันช์ จะเห็นว่าบนหน้าจอมีบอกการทำท่าที่ถูกต้องมาด้วย และก็มีจำนวน 3 เซ็ท ต้องทำ 10 ครั้งต่อเซ็ท จากที่ลองไปในเซ็ทท้ายๆ ผมต้องทำเกินตลอดเพราะลุกขึ้นมาไม่ได้ระดับที่ Gear Fit2 Pro ต้องการ ถือว่าเป็นโค้ชส่วนตัวที่โหดเอาการเหมือนกัน และระหว่างเซ็ทก้จะมีเวลาให้พักด้วย

ออกกำลังเสร็จจบ ก็จะมีข้อมูลให้ดูได้ และค่าทั้งหมดนี้ก็จะซิงค์กลับไปที่แอป Samsung Health บนมือถือของเราอีกที

ส่วนนี่เป็นข้อมูลการวิ่งที่ผมได้ไปลองจ็อกๆ มาประมาณ 1 กิโล (ร่างกายไม่ฟิต ซัดไปเกือบ 9 นาที) หลังวิ่งเสร็จก็จะมีข้อมูลและรายละเอียดสรุปออกมาให้ ทั้งโซนของอัตราการเต้นหัวใจในแต่ละช่วงว่าเป็นอย่างไรบ้าง

โดยข้อมูลแบบละเอียดรวมถึงแผนที่การวิ่งที่จับได้จาก GPS ในตัวเครื่องก็จะถูกเก็บลงใน Samsung Health อีกที

ออกกำลังเสร็จแล้วก็สามารถแชร์สถิติหรือแต่งภาพเก๋ๆ ลงใน social ได้ด้วย แบบที่เราเห็นกันบ่อยๆ ^ ^

Gear Fit2 Pro กับความสามารถใหม่ในการนับสโตรคว่ายน้ำ

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาใน Gear รุ่นไหนๆ ของ Samsung ก็คือความสามารถในการนับสโตรคว่ายน้ำ เนื่องจากในรุ่นก่อนๆ นั้นมีค่า IP67-68 อาจจะไม่เพียงพอต่อการวาดมือกระแทกกับผิวน้ำแรงๆ ได้ แต่ใน Gear Fit2 Pro นั้นมาพร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำ 5ATM ซึ่งสามารถทนแรงดันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร การจะใส่ไปว่ายน้ำ หรือดำน้ำก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ซึ่งหากเอาไปใช้ในการว่ายน้ำก็จะต้องเปิด Water Lock โหมด เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าจอเราเลื่อนหรือสัมผัสโดยไม่ตั้งใจจากผิวน้ำ เพราะมันมีประจุไฟฟ้าที่สามารถจะแตะหน้าจอเราได้เหมือนนิ้วของเรานั่นเองครับ

Play video

ส่วนแอปที่ใช้ประกอบในการนับสโตรคว่ายน้ำ ทาง Samsung เองก็ได้ไปร่วมพัฒนากับ Speedo ที่สามารถจะนับสโตรคและรอบการกลับตัวได้แม่นยำมากขึ้น สำหรับใครที่ชอบว่ายน้ำอยู่แล้วและมองหาอุปกรณ์ที่ช่วยในการเก็บข้อมูลซึ่งในตลาดตอนนี้มีน้อยมากๆ หรือบางตัวก็มีในรุ่นแพงๆ ไปเลย ทำให้ Gear Fit2 Pro น่าจะเป็นอีกทางเลือกในราคาที่ประหยัดกว่า น่าเสียดายที่ช่วงทดสอบผมไม่ได้ไปว่ายน้ำเลย ก็เลยไม่มีสถิติมาให้ดู (ถ้ามีก็คงห่วยพอๆ กับวิ่งนั่นแหละ ช่วงนี้ไม่ฟิตเลยจริงๆ)

สรุปการใช้งาน Gear Fit2 Pro

จากที่ได้ลองใช้งาน Gear Fit2 Pro มาประมาณ 1 สัปดาห์ เรื่องแรกที่หลายๆ คนน่าจะถามกันเข้ามาคือเรื่องของอายุแบตเตอรี่ จากการใช้งานทั่วไปของผมการชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ได้นานสูงสุดคือ 3 วันครับ โดยในวันที่ 3 นั้นสามารถกลับมาชาร์จที่บ้านได้ทันในตอนค่ำ โดยที่ปรับค่าความสว่างหน้าจอไว้ที่ 5 และมีการใส่ระหว่างนอนเพื่อตรวจจับการนอนไปด้วย

แต่เพื่อความปลอดภัยถ้าไม่อยากให้แบตหมดระหว่างทางก็ชาร์จช่วงเย็นๆ วันที่ 2 ก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน เช่นถ้ามีออกกำลังหรือเอาไปวิ่งพร้อมกับฟังเพลงสัก 10 กิโล ก็อาจจะต้องขาร์จกันวันต่อวัน

ส่วนในเรื่องของการเชื่อมต่อ แจ้งเตือน นั้นถือว่าทำงานได้ดี หน้าจอใหญ่ช่วยให้อ่านตัวหนังสือได้ง่าย ส่วนหน้าจอสัมผัสนั้นช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นมากกว่านาฬิกาสปอร์ทวอชทั่วไป ที่บางรุ่นอาจจะไม่มีระบบสัมผัส ส่วนระบบการแจ้งเตือนให้เราคอยขยับบ่อยๆ และมีท่าออกกำลังง่ายๆ ให้ทำนี่ชอบเลย เพราะน่าจะช่วยให้หลายๆ คนไม่เป็นออฟฟิศซินโดรมหรือนอนติดเตียงจนเกินไปในวันหยุด ฮ่าๆ เรียกว่าในราคา 6,500 บาท นี่ถือว่าครบและก็คุ้มอยู่เหมือนกันสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังหรืออยากได้สปอร์ทแบนด์ที่ทำหน้าที่ได้เหมือนสมาร์ทวอชครับ