ตอนนี้มือถือราคาดีๆ ได้สเปคคุ้มๆ ในบ้านเรามีให้เลือกกันมากมายหลายยี่ห้อ หนึ่งในนั้นก็คือ Honor กับมือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ Honor 20 Lite เปิดราคาออกมาแค่ 7,990 บาท แต่อัดสเปคมาได้ดุเดือด ตั้งแต่เรื่องของหน้าจอไซส์ใหญ่ ความละเอียด Full HD+ แม้แต่กล้องหลังก็ยังจัดเต็มมาให้ถึง 3 ตัว แถมยังมีฟีเจอร์หลายๆ อย่างถอดมาจากรุ่นท็อปอีกต่างหาก ว่าแต่เรื่องการใช้งานจะเป็นอย่างไร และตอบโจทย์กลุ่มไหน ลองมาชมรีวิวจาก droidsans ไปพร้อมกันได้ครับ

แกะกล่อง HONOR 20 Lite

เครื่องรีวิว Honor 20 Lite ที่เราได้มานั้นเป็นสีแดง Phantom Red (อีกสีนึงคือน้ำเงิน Phantom Blue)  ทั้ง 2 สีนั้นจะมีการไล่โทนไปจบที่สีม่วงตรงท้ายเครื่องเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าชอบสีไหน จากที่ได้ไปเห็นมาสีแดงนั้นจะออกติดชมพูนิดๆ ส่วนสีน้ำเงินก็จะเป็นน้ำเงินโทนสว่างสีสดหน่อยๆ

อุปกรณ์ภายในกล่องนอกจากตัวงเครื่องก็มีสาย Micro USB หม้อแปลงจ่ายไฟ 5V 2A เข็มจิ้มซิม

เท่าที่เห็นจะไม่มีหูฟังและเคสมาในกล่อง (อันนี้ยังไม่ได้เช็คกับชุดขายจริงนะครับว่ามีมาให้หรือไม่ ใครซื้อมาแล้วยังไงฝากมาบอกด้วยนะ)

สเปค HONOR 20 LITE

  • หน้าจอ Dewdrop Display ขนาด 6.21 นิ้ว Full HD+ (1080×2340)
  • ชิป Kirin 710 Octa-Core
  • ชิปกราฟิก GPU Mali-G51 MP4 + GPU Turbo 2.0
  • RAM 4GB
  • ROM 128GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera 24MP + 8MP + 2MP รูรับแสง f1.8 + f2.4 + f2.4
  • กล้องหน้า 32MP พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ AI Portrait
  • แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0.1
  • Fingerprint Scanner สแกนลายนิ้วมือหลังเครื่อง
  • Face Unlock ปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • ถาดซิม Hybrid Slot รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด หรือ 1 ซิม + 1 Micro SD
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 2.4GHz , Bluetooth 4.2
  • พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0

ขนาดหน้าจอ 6.21 นิ้วนั้นตอนนี้เหมือนจะเป็นมาตรฐานกันไปหมดแล้ว คือเราได้เห็นมือถือจอใหญ่ประมาณ 6 นิ้วขึ้นไปในมือถือราคาต่ำหมื่นกันเยอะมากในปีที่ผ่านมา แต่มีไม่กี่รุ่นที่ใส่หน้าจอ Full HD+ มาให้ และ Honor 20 Lite ก็เป็นหนึ่งในนั้น เรื่องความละเอียดนั้นไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสีสันนั้นยังคงสดจัดจ้านตามสไตล์หน้าจอของ Honor เหมือนเดิม ซึ่งบางคนอาจจะมองว่ามันสดสีเข้มเกินไป แต่บางคนก็ชอบจอสีจัดๆ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าใช้ไปนานๆ แล้วจะแสบตา เพราะได้การรับรองจาก TUV Rheinland สามารถเปิด Eye Comfort โหมด ลดแสงสีฟ้า ถนอมสายตาได้

รุ่นนี้มีติ่งจอแบบ Dewdrop Display หรือหยดน้ำค้าง ซึ่งใส่กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซลมาให้เลยทีเดียว ซึ่งกล้องตัวนี้นอกจากใช้ถ่ายเซลฟี่แล้ว ก็ใช่ในการปลดล็อคด้วยใบหน้าด้วย

ด้านบนของตัวเครื่องยังมีช่องสำหรับถาดซิม ในรุ่นนี้จะเป็นถาดแบบไฮบริด ต้องเลือกเอาเองระหว่างใช้งาน 2 ซิม หรือ 1 ซิม + micro SD ส่วนตัวผมมองว่าหน่วยความจำที่ให้มาถึง 128GB ก็น่าจะเหลือๆ ในการลงแอป เกม ถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอแล้ว เพราะฉะนั้นเลือกใส่ใช้งาน 2 ซิมไปเลยก็ได้สำหรับคนที่มี 2 เบอร์ จะได้ไม่ต้องถือหลายเครื่อง แถม Honor 20 Lite ยังรองรับการเชื่อมต่อ 4G ทั้ง 2 ซิมด้วย

ปุ่มพาวเวอร์และปุ่มปรับเสียงนั้นอยู่ทางขวาของจอภาพ ตำแหน่งกำลังพอดีนิ้ว ส่วนฝาหลังนั้นนอกจากมีการไล่โทนสีแล้ว ยังมีการเล่นแสงที่มากระทบให้ลวดลายวิบวับเป็นริ้วเงางาม โดยสี Phantom Red นั้นได้แรงบันดาลใจจากตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า

พอร์ทเชื่อมต่อด้านท้ายเครื่องนั้นมีช่องหูฟัง 3.5 มม. ไมโครโฟน ตามมาด้วยช่อง micro USB และลำโพง

ถ้าพลิกมาดูเครื่องที่ด้านฝาหลังจะเห็นว่ามีการโค้งนิดๆ เพื่อให้สามารถจับถือได้ถนัดมือมากขึ้น ส่วนของข้างซ้ายขวาก็จะโค้งลงไปชิดกับตัวเฟรม

สแกนลายนิ้วมือของ Honor 20 Lite นั้นอยู่ที่ด้านหลัง เป็นตำแหน่งที่น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ส่วนกล้องหลัง 3 ตัว AI Vision Triple Camera นั้นประกอบด้วยกล้องหลัก 24 ล้านพิกเซล + กล้องช่วยวัดความลึก 2 ล้านพิกเซล และกล้องสำหรับถ่ายภาพ Ultra Wide มุมกว้างพิเศษ 8 ล้านพิกเซล ด้านล่างสุดมีไฟแฟลช LED

 

UI และการใช้งาน Honor 20 Lite

Honor 20 Lite นั้นมาพร้อมกับ EMUI 9 ที่ทำงานบน Android 9 Pie จากที่ได้ลองถือใช้งานมาสักระยะก็รู้สึกแปลกใจนิดๆ เพราะความลื่นไหลของมันทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ส่วนตัวแล้วจากที่ได้ลองมือถือชิป Kirin 710 มาหลายตัว โดยเฉพาะตั้งแต่รุ่นแรกๆ ที่เริ่มนำชิปตัวนี้มาใช้นั้นมักจะเจอปัญหาสะดุดๆ กระตุกๆ นิดหน่อยอยู่เรื่อยๆ แต่หลังจากมีการพัฒนา EMUI และเวอร์ชั่น Android มาต่อเนื่อง เหมือนว่าทางค่ายเองก็สามารถรีดเอาพลังของชิปออกมาได้เต็มที่มากขึ้น การเปิดแอปสลับไปมาเนียนดูดีกว่าเดิม

อาการกระตุกนั้นแทบจะไม่มีให้เห็นเลย UI ทำออกมาได้ลื่น และ CPU ก็รองรับได้ดี เท่าที่สังเกตุหากจะมีสะดุดนิดๆ คือจะเป็นเฉพาะตอนที่พยายามทดสอบแบบเปิดสลับไปสลับมาเยอะๆ เร็วๆ แล้วระบบกำลังเคลียร์ RAM ซึ่งจะปรากฏให้เห็นแบบสั้นๆ แต่หากเป็นการใช้งานทั่วไปนั้นน้อยมากที่จะเจอ

รูปแบบของหน้าจอ Home screen นั้นก็สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ในรูปแบบไหน มี App drawer หรือไม่ ส่วนพวกแอปโซเชียลต่างๆ สำหรับใครที่มีหลาย account หลาก ID เผื่อต้องใช้ซื้อขายของหรือมีเพื่อนคนละกลุ่มกัน ก็มี App twin สามารถแยกร่างแอปพวกโซเชียลออกมาให้ล็อคอิน 2 ไอดีได้

ส่วนสีสันบนหน้าจอหากใครคิดว่ามันสดเกินไปหน่อย ก็สามารถเข้ามาปรับตั้งค่าได้ในส่วนของ Display หรือการแสดงผลนั่นเองครับ

ฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอตอนนี้แทบทุกรุ่นที่เป็น Android 9 Pie จะใช้การแตะไปที่ด้านบนของหน้า recent apps ที่จะมีไอคอนแบ่งหน้าจอแทบทั้งหมด

ซึ่ง Honor 20 Lite ก็ใช้วิธีการเดียวกัน โดยจะมีไอคอนสำหรับแบ่งจอเป็นรูป 4 เหลี่ยมซ้อนกัน 2 อัน จากนั้นก็จะเลือกแบ่งหน้าจอได้

นอกจากนั้นยังมี Gesture control ใช้ท่าทางในการสั่งงานได้ ไม่ว่าจะเป็นการจับภาพหน้าจอด้วยการใช้ 3 นิ้วลากพร้อมกัน ซึ่งสะดวกกว่าแบบกดปุ่ม power + vol down หรือการคว่ำเครื่องเพื่อปิดเสียงเรียก และหน้าจอเครื่องก็จะติดขึ้นมาได้หากเราทำการหยิบเครื่องขึ้นมา

หากต้อวงการจะเคลียร์ RAM เคลียร์ Mem ก็มีตัวช่วยอย่าง Phone Manager ที่มาจัดการล้างหน่วยความจำ เร่งประสิทธิภาพเครื่องให้กลับมาได้ รวมถึงจัดการเรื่องบล็อคเบอร์ดโทร เช็คและควบคุมการใช้งานเน็ต และยังสามารถสแกนพวกไวรัสหรือมัลแวร์ได้

เรียกว่าทาง Honor เปิดให้เราปรับตั้งค่าการใช้งานได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกเปิดหรือปิดอะไร และเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับเราที่สุด

 

การเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อในเรื่องของซิมนั้นสามารถรองรับการใช้งาน 4G ทั้ง 2 ซิมได้ และเปิด Dual 4G พร้อมกันได้เลย แถมยังมีให้สลับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากอีกซิมแบบอัตโนมัติได้ หากอีกซิมหนึ่งกำลังใช้รับสายอยู่ (สามารถเลือกเปิด/ปิดได้) ส่วน WiFi นั้นรองรับ 2.4GHz แต่ยังไม่รองรับ 5GHz นะ

 

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

นอกจากประสิทธิภาพการทำงานของชิป Kirin 710 จะดีขึ้นแล้ว ตอนนี้เหมือนว่า GPU Turbo 2.0 ก็เริ่มแสดงพลังให้เห็นในหลายๆ เกมเพิ่มขึ้นด้วย อย่างใน ROV นั้น แม้จะยังไม่รองรับโหมดเฟรมเรทสูง แต่ก็สามารถเปิดกราฟิคสุดได้ แถมเฟรมเรทก็ทะลุเพดานอยู่ที่ 30-32 เฟรมเกือบตลอด ตอนบวกกันหนักๆ เฟรมเรทก็ยังนิ่งจนแปลกใจ

ส่วน PUBG นั้นแม้ว่าระบบจะแนะนำกราฟิคระดับกลางมาให้ แต่เราก็สามารถเลือกเปิดในระดับสูงได้ และจากที่ลองก็เล่นได้เนียนๆ จนจบเกม จากทั้งหมดที่ทดสอบมามีสะดุดไปแค่หนึ่งจังหวะเท่านั้น

แต่อันนี้ต้องบอกก่อนว่าเราเลือกเปิดเร่งประสิทธิภาพเกมใน App Assistant เอาไว้แล้วนะครับ แล้วก็เลือกปิดแจ้งเตือนไม่ให้เกิดการรบกวนระหว่างเล่นด้วย

ส่วนคะแนนทดสอบประสิทธิภาพของชิปเซ็ตและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในก็ตามนี้เลยครับ

ฝั่งของ Antutu ได้ไป 124493 คะแนน ส่วนหน่วยความจำนั้นทดสอบจาก Androbench ก็ได้ความเร็วในการอ่านที่ 290 MB/s แะลการเขียนที่ 219 MB/s

 

ลองกล้อง Honor 20 Lite

กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลของ Honor 20 Lite นั้นนอกจากความละเอียดสูงแล้ว พลังบิวตี้ก็ขาวใสวิ้งกันไปเลย ค่ามาตรฐานที่ตั้งเอาไว้นั้นเกลี่ยหน้าเนียนมาก และเร่งความขาวพอสมควร ซึ่งตรงนี้ก็เลือกปรับตามใจชอบได้

ส่วนการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั้น แม้จะเป็นกล้องเดี่ยวก็ยังสามารถเปิดใช้งานได้ มีโหมดปรับแสงที่มากระทบใบหน้าได้หลายแบบ และเบลอหลังได้ค่อนข้างดี ถ้าถ่ายหน้าเปล่าๆ จะตัดขอบหน้าเราได้เนียนกว่าเวลาใส่แว่น เพราะหากเจอโจทย์ยากสีกลมกลืนกับฉากหลังไปหน่อย แว่นก็อาจจะโดนจับเบลอไปด้วย

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า Honor 20 Lite

 

กล้องหลัง 3 ตัวของ Honor 20 Lite นั้นกล้องหลักมีความละเอียดสูงสุด 24 ล้านพิกเซล สามารถเปิด AI ช่วยในการระบุฉากและซีนต่างๆ ได้ ทั้งเรื่องของการปรับสีให้ดูสดและอิ่มขึ้น อันนี้ขอแนะนำว่าให้เปิดเอาไว้เลย เพราะจากที่ไปลองถ่ายมาหลายๆ สภาพแสงนั้น หากแสงจัดๆ สีและความคมจะดีมาก แต่ถ้าแสงเริ่มตุ่นๆ มีเมฆมากนี่ความเข้มของสีจะค่อยๆ หายไป การเปิด AI เอาไว้จะช่วยในเรื่องนี้ได้

การถ่ายภาพ Portriat หน้าชัดหลังเบลอของกล้องหลังนั้นทำได้ดีกว่ากล้องหน้าเยอะ แน่นอนว่าเพราะมีกล้องช่วยวัดความลึก 2 ล้านพิกเซลเพิ่มเข้ามานั่นเอง

 

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง Honor 20 Lite

ส่วนเลนส์กว้าง Super Wide นั้นก็ช่วยให้เก็บภาพแนว Landscape หรือ Panorama ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องขยับหรือถอยหลังเยอะ แต่ความคมนั้นจะยังสู้กล้องหลักไม่ได้ และสีจะติดแดงบางๆ ต่างจากกล้องหลักแบบถ้าลองเทียบกันก็จะพอเห็นได้

ซึ่งจากที่ไปลองถ่ายมาก็ถือว่าเก็บมุมได้กว้างสะใจ 120 องศา แค่ยืนอยู่ที่เดิมก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างได้ของภาพได้แล้ว

เปรียบเทียบภาพเลนส์กว้างของ Honor 20 Lite

ส่วนการถ่ายภาพโหมดกลางคืนนั้น หากใช้โหมด Auto Night สีสันและรายละเอียดจะสู้ภาพที่ได้จาก Night Mode โดยตรงไม่ได้ ยังไงลองเลือกเปิดใช้งานกันดู อาจจะต้องรอสัก 2-3 วินาที แต่งานนี้ไม่ต้องใช้ขาตั้ง ภาพก้สว่างขึ้นได้

จากภาพตัวอย่างจะเห็นเลยว่าตอนถ่ายด้วย Auto นั้นรายละเอียดแทบจะเป็นวุ้นซะส่วนใหญฐ่เพราะแสงน้อย แต่ด้วย Night Mode ทำให้ได้สีสันที่ครบครันขึ้น และได้ความคมกลับมา แม้โดยรวมจะยังสู้ Night Mode ของเรือธงอย่าง Honor V20 ไม่ได้ (ก็ราคามันต่างกันตั้งเยอะ) แต่ก็นับว่าเป็นโหมดที่มือถือต่ำหมื่นยังไม่ค่อยมีให้ใช้งานกันครับ

 

สรุปผลการใช้งาน

สงครามมือถือในข่วงราคา 6-8 พันบาทนั้น ตอนนี้ในตลาดมีตัวเลือกมากมาย และแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นค่อนข้างแตกต่างกันออกไป บางรุ่นเน้นแบต บางรุ่นเน้นจอ บางรุ่นเน้นสเปค ซึ่งการจะเลือกรุ่นที่ถูกใจเราจริงๆ นั้นก็บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีจะหยิบรุ่นนั้น มันก็จะขาดฟังก์ชั่นนั้น หรือฟีเจอร์นี้

แต่จากที่ได้เล่นมาประมาณ 4-5 วันรวมๆ ผมว่า Honor 20 Lite เป็นมือถือที่ครบเครื่องและลงตัวเลยรุ่นนึง หน้าจอ Full HD+ คมชัด ชิป Kirin 710 + GPU Turbo 2.0 นั้นให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าที่เคยสัมผัสในรุ่นก่อนๆ RAM 4GB นั้นเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว ส่วน ROM 128GB นั้นให้มาเยอะกว่าหลายรุ่นที่ราคาแพงกว่านี้ซะอีก

กล้องหน้ารุ่นนี้ถือว่าเด่นในเรื่องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลัง 3 ตัวนั้นก็มีลูกเล่นทั้ง AI การถ่ายภาพมุมกว้าง และภาพกลางคืน ส่วนแบตเตอรี่ 3400 มิลลิแอมป์กับการใช้งานหนึ่งวันนั้นเป็นอะไรที่สบายมากสำหรับชิป Kirin 710 ถ้าใครใช้ไม่เยอะเผลอๆ อาจจะอยู่ได่ 2 วันเลย

เรียกว่า Honor 20 Lite นั้นอาจจะไม่ได้โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ แต่เรียกว่าเป็นรุ่นที่สเปคครบ ได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ จากรุ่นใหญ่ มีความลื่นไหลและลงตัวรุ่นนึง ที่มาในราคา 7,990 บาทครับ

สำหรับใครที่สนใจอยากสั่งมาลอง สามารถไปกดกันได้ที่นี่เลยนะครับ https://bit.ly/2H0zmnr ของแถมเพียบ

  • HONOR Sport Bluetooth มูลค่า 1,290 บาท
  • และ Gift Set มูลค่า 690 บาท
  • ผ่อน 0% 10 เดือน