เพิ่งวางขายอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมากับ Huawei Mate 10 Pro มือถือตัวท็อปของหัวเว่ยในปีนี้ แต่ด้วยความที่ผมได้จับตัวจริงก่อนชาวบ้านตั้งแต่วันเปิดตัว ณ ประเทศเยอรมัน จนถึงตอนนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นระยะเวลาราวเดือนเศษๆไปเรียบร้อย จึงคิดว่าน่าจะเป็นระยะเวลาพอสมควรที่จะมารีวิวแบบเต็มๆทุกอณูให้เพื่อนๆ droidsans ได้ทราบกันประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อครับ
พื้นที่โฆษณา
ใครใช้ dtac อยู่ ตอนนี้เค้ามีจัดโปรเฉพาะสำหรับ Huawei Mate10 Pro อยู่นะผูกโปร 599 หรือ 899 ติดสัญญา 12 เดือน แล้วเลือกรับส่วนลด 4,000 / 6,000 บาท ท็อปอัพขึ้นไปอีก 1,500 บาท ถ้าย้ายค่ายมาเรียกว่าลดรวมแล้วสูงสุดได้ถึง 7,500 บาท และยังมีโปรผ่อน 0% 10 เดือนด้วย แต่เดี๋ยวก่อน โปรนี้มีความไม่ธรรมดาที่ ปกติโปรแบบนี้เราต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า ซึ่งเอามาผ่อนรวมไม่ได้ แต่ของดีแทค เค้าจับให้เอาค่าบริการล่วงหน้านั้นไปผ่อน 0% รวมกันไปเลยได้ด้วย เรียกว่าถูกใจลูกค้าสายผ่อนกันแน่นอน
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลยนะ
ก่อนเริ่ม อันนี้เป็นการแชร์จากประสบการณ์ตรงของผมนะ บางคนลองใช้แล้วเจอว่ามีอะไรต่างออกไปอยากจะบอกเพื่อนๆคนอื่นมาเขียนเล่ากันได้ในคอมเม้นเลยนะครับ
ทวนสเปคกันเบาๆ
- หน้าจอ OLED 6.0 นิ้ว 2160 x 1080 FHD+ อัตราส่วน 18:9, รองรับ HDR10
- CPU Kirin 970 + Neural-network Processing Unit
- GPU Mali-G72 MP12
- RAM 6GB, ROM 128GB
- กล้องหลังคู่ 12MP RGB+ 20MP Monochrome รองรับ OIS, AI Object Recognized
- กล้องหลังเลนส์ SUMMILUX, F/1.6
- กล้องหน้า 8 MP
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหลังเครื่อง
- Bluetooth 4.2, aptX HD, LDAC
- Wi-Fi 2.4G/5G, 802.11a/b/g/n/ac
- Dual SIM รองรับ Dual LTE 4G พร้อมกัน 2 SIM
- USB Type-C, DisplayPort 1.2, ไม่มีช่อง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh, รองรับ SuperCharge
- Android 8.0 + EMUI 8.0
- กันน้ำกันฝุ่น IP67
- สัดส่วน 154.2 x 74.5 x 7.9 มม.
- น้ำหนัก 178 กรัม
ดีไซน์ขนาดน้ำหนักดีงาม
ความรู้สึกแรกจับ : สวย งานประกอบดี ของครบ
หน้าตาของ Huawei Mate 10 Pro น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนต้องสะดุดตาหันมามอง ด้วยวัสดุงานประกอบต่างๆที่ทำออกมาได้ลงตัว เลือกใช้วัสดุกระจกทั้งหน้าหลัง ขอบข้างโลหะดูแข็งแรง น้ำหนักจับถนัดพอดีมือ หน้าจอขอบไม่โค้งแสดงผลเต็มตาเข้ามือดีมากๆ และมีแปะฟิล์มกันรอยมาให้เลย ไม่ต้องไปวิ่งหามาติดเพิ่มให้วุ่นวายและเปลืองเงิน และในกล่องยังมีแถมเคสใสมาให้อีกต่างหาก เรียกว่าครบจบตั้งแต่เปิดกล่องกันไปเลย
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : ควรติดฟิล์มเปลี่ยนเคส
นั่งเล็งนั่งมองมันก็ยังสวยอยู่เหมือนเดิม แต่ฟิล์มที่ติดมาให้จะเริ่มขึ้นรอยอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้หน้าจอดูหมองๆไปนิด ถ้าใครอยากให้มันเนียนตาเช่นเดิม คงต้องเปลี่ยนฟิล์มใหม่หรือติดกระจกแทน ซึ่งกระจกของ Huawei Mate 10 Pro ก็ไม่ได้หายากมากนัก ส่วนด้านหลังที่เป็นกระจกยังคงความเงางามมันวาวได้ดี เคสที่ให้มายังไม่เปลี่ยนสี ถ้ามีฝุ่นเข้าไปอาจสร้างรอยให้ตัวเครื่องได้อยู่ แต่ยิ่งใส่เคสแล้วยิ่งอยากถอดเพราะเครื่องมีความสวยงามเกินเคสมาก และอยากถอดเครื่องออกมาวางโชว์ มากกว่าใส่เอาไว้ในเคส ซึ่งถ้าถอดออกมาแล้วก็ต้องหมั่นเช็ดนิดนึงเพราะจะติดรอยนิ้วมือง่าย แต่ก็เช็ดออกได้ไม่ยากเพราะเคลือบกันรอยเอาไว้ดี แต่ก็เพราะตัวเคลือบนี้เอาที่ทำให้ตัวเครื่องลื่นมากกกกกกกกก แบบว่าพื้นผิวเอียงนิดหน่อยอาจมีลื่นตกพื้นได้ โปรดระวัง!!
Mate10 Pro เธอควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้
Fingerprint ปลดล็อครวดเร็ว ใช้งานสะดวก
ความรู้สึกแรกจับ : ปลดล็อครวดเร็ว ตำแหน่งพอดีนิ้ว
Huawei เค้าบอกว่าการรักษาความปลอดภัยของเครื่องด้วยแสกนลายนิ้วมือถืออะไรที่ดีที่สุดในตอนนี้ เลือกที่จะ(ยัง)ไม่ใส่ทั้งแสกนม่านตา หรือใบหน้าออกมา เพราะเชื่อมั่นในลายนิ้วมือมากกว่า ทั้งเรื่องความเร็วในการปลดล็อค ความสะดวกของการใช้งาน และความปลอดภัย ส่วนตำแหน่งของเซนเซอร์ที่วางไว้ด้านหลังก็สามารถเอื้อมนิ้วขึ้นไปแตะปลดล็อคได้ไม่ยากเย็นอะไร ไม่มีปัญหาแตะพลาดเพราะไปอยู่ใกล้แฟลชหรือเลนส์
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : ใช้งานดี ไม่โหยหาระบบอื่น
ถือ Mate 10 Pro ใช้คู่กับรุ่นอื่นๆที่มีทั้ง Iris Scanner หรือ Face ID ไม่ได้รู้สึกว่าการใช้ Fingerscan ด้านหลังจะทำให้มีปัญหาอะไร ด้วยความที่มันปลดล็อกได้รวดเร็ว ยังไม่เจอที่มันปลดล็อกไม่ได้สักครั้ง ต่างจากการล็อกอื่นๆที่มีผิดพลาดบ้าง แต่เซ็งๆนิดหน่อยที่หากวางอยู่บนโต๊ะ และต้องการแค่ลากๆดูอะไรนิดหน่อยมันต้องยกเครื่องขึ้นมาคลำหาที่แสกนเนี่ยแหละที่อาจจะถ่วงการใช้งานไปนิดนึงครับ
ชิปเซท ความแรงไม่เป็นสอง รองรับการทำงานหนักๆสบายๆ
ความรู้สึกแรกจับ : เร็ว รู้สึกไม่ต่างจากรุ่นท๊อปตัวอื่น
ได้ข่าวเรื่องความแรงของ Kirin 970 มาสักพักก่อนเปิดตัว ว่ามันทำสกอร์ออกมาได้แรงมาก เรียกว่าดีกว่าทุกชิปเซตบนแอนดรอยด์ ลองจับครั้งแรกอาจจะบิกอะไรไม่ได้มากนักเพราะเรื่องความลื่นไหลของ UI เป็นเรื่องของ firmware มากกว่า hardware ไปแล้ว และ EMUI บน Mate 10 Pro ก็ทำมาได้ลื่นไหลไม่ต่างกันในสายตาของคนทั่วไป ใช้งานทั้วไปก็ลื่นไหลโหลดแอปต่างๆขึ้นมาได้รวดเร็ว ดีไม่ต่างจากเรือธงตัวท็อปอื่นๆ เปิดโหมดใช้งานสองจอหรือต่อออกทีวีก็ยังทำงานได้สบายๆ มีจังหวะหน่วงเบาๆ หากมีการโหลด-ประมวลผลข้อมูลหนักๆ รวมๆคือแรงเร็วใช้งานดี
เปรียบเทียบ AnTuTu Benchmark กับเครื่องอื่น
- Huawei Mate10 Pro : 174306
- Samsung Galaxy note 8 : 171061
- Xiaomi Mi6 : 166017
- Samsung Galaxy S8 : 164873
- Sony Xperia XZ Premium : 161773
ทุกตัวที่ทดสอบข้างต้นนี้ใช้ หน่วยความจำเป็น UFS2.1 ทั้งสิ้นนะครับ
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : ยังเร็ว แต่มีเจอปัญหาบ้าง
ไม่เจอปัญหาเรื่องความแรงความเร็วในการโหลดแอปต่างๆ ยังทำได้ดีและเกาะกลุ่มเครื่องที่โหลดเร็วที่สุดในแต่ละแอป จะมีเจอเรื่องแอปปิดตัวบ้าง เครื่องร้อนตอนเล่นเกมหนักๆ อากาศนอกห้องแอร์ ถ้าร้อนหนักๆหน่อยมีสิทธิ์ทำให้ซีพียูลดประสิทธิภาพลงเพื่อกันความเสียหายได้ จากซีพียูร้อนกลายเป็นหัวร้อนแทน เพราะเฟรมเรตจะตกหนัก เล่นเกมแทบไม่ได้กันไปเลย
PC mode – ไม่ได้ใช้งานเลยครับ คือแกะมาทดสอบเฉยๆ แต่ถึงเวลาจริงๆไม่มีโอกาสในการใช้งานจริงเลย
ระยะเวลาในการโหลดเกมนะครับ mollx (Note 8), Tharkorn (S8), Gimme(Mate10)
Huawei Mate 10 Pro เล่น RoV แล้วเป็นอย่างไร
- เปิดโหมดเฟรมเรทสูง เอฟเฟกต์ตั้งสุดทุกอย่าง พร้อมอัดคลิปไปด้วย ลงไปต่ำสุดที่ราว 45fps
- มีอัพเดทเฟิร์มแวร์ และอัพเดทของเกมทำให้เล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
- มีเฟรมเรตตกจังหวะบวกหนักๆให้เห็นบ้าง
- มีเจอปัญหาแอปเด้งอยู่ทีนึง ลองปิด power-intensive prompt ก็ยังไม่เป็นอีกเลย
- ต้องเปิดโหมดเฟรมเรตสูงถึงจะเล่นได้ลื่นๆ
- เครื่องร้อนๆเฟรมเรตตกหนักมาก
- แบตจะหมดต่ำกว่า 10% เมื่อไหร่ เฟรมเรตตกหนักที่สุด (ลดประสิทธิภาพเครื่องไม่ถามเราสักคำ)
AI ที่ใส่เข้ามาไม่เห็นถึงประโยชน์ชัดเจนนัก
Huawei บอกว่ามีการใส่ NPU (Neural Processing Unit) หรือหน่วยประมวลผล AI มาให้ที่จะช่วยสร้างประโยชน์การใช้งาน AI 4 ด้าน คือ
- วิเคราะห์การใช้งานเครื่อง ให้ทำงานได้เร็วอยู่เสมอ
- วิเคราะห์เสียงสนทนา ให้เสียงเราดังฟังชัดเสมอ แม้อยู่ในที่เสียงดัง
- วิเคราะห์ภาพถ่าย ปรับแต่งสีสันความคมชัดให้เหมาะกับวัตถุที่ถ่าย
- แปลภาษาใน Microsoft Translate
ซึ่งจากที่ลองใช้งานดูพบว่าในการจัดการเครื่องเราให้มีความเร็วอยู่ตลอดเวลานั้น ในช่วงเดือนแรก ยังไม่ได้รู้สึกว่าเครื่องช้าลงแต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจาก Android เครื่องอื่นๆที่ออกมาในปัจจุบัน ที่ปกติใช้ไปนานๆแล้วก็จะยังไม่เจออาการเอ๋อค้างแต่อย่างใด สิ่งนึงที่แอบหงุดหงิดจากการปรับแต่งเครื่องเราตลอดเวลาบน Huawei Mate 10 Pro คือการเคลียร์แอปให้เองอัตโนมัติ จนมีเมมเหลือใช้ราว 3GB ตลอดเวลา คือไม่รู้ว่าเกิดจาก AI หรืออะไร แต่เซ็งว่าแล้วแบบนี้จะให้เมมมาเยอะถึง 6GB ทำไม ถ้าเกิดว่าจะเคลียร์ทิ้งตลอดเวลาขนาดนี้
ใช้เหลือเกือบสามจนงงเลยว่าจะให้มาทำไม 6GB ใช้ให้เหลือน้อยกว่านี้ เก็บให้สลับแอปได้มากกว่านี้ก็จะดี
ส่วนด้านอื่นๆของ AI ส่วนตัวก็ยังเห็นผลไม่ชัดเท่าไหร่ เรื่องวิเคราะห์เสียงสนทนาก็ไม่ได้รู้สึกว่าดีชัดเจนต่างจากรุ่นที่ทำ Noise Cancellation ดีๆ ส่วนการแปลภาษาก็ไม่ได้เห็นผลชัดเจน ความเร็วไม่ได้ต่างจากรุ่นอื่นที่ไม่มี NPU เท่าไหร่นัก
กล้อง AI ดีแค่ไหนไม่สำคัญ ผลลัพธ์คือที่สุด
ความรู้สึกแรกจับ : มันก็โอเคนะ
ทางหัวเว่ยได้ป้ายยาในงานถึงความสามารถกล้อง Mate 10Pro เอาไว้เยอะมาก ซึ่งในปีนี้พัฒนาขึ้นกว่าเดิมในเรื่องรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.6 และมีการปรับแต่งช่วยเหลือจาก AI ที่สามารถจำแนกภาพที่เรากำลังถ่ายได้ว่าเป็นภาพแบบไหน portrait, landscape, สุนัข, แมว, ฯลฯ และปรับภาพให้เหมาะสมได้ อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้มันจะเจ๋งแค่ไหนก็ขึ้นกับภาพสุดท้ายที่ถ่ายมาแล้วจะสวยหรือเปล่าเท่านั้น และทางเราก็ได้ทดสอบเปรียบเทียบเอาไว้แล้ว ไปลองดูกันเอาเองนะครับ
AI มีผลอย่างไร มาดูภาพตัวอย่างกัน
สำหรับการตั้งค่าในโหมดโปร สามารถทำได้ตามนี้นะครับ
- ถ่าย RAW ได้
- ISO 50-3200
- Speed Shutter 30s – 1/4000
- ชดเชยแสง ±4
- ปรับสมดุลแสงขาวได้ 2800 – 7000 K
- เปลี่ยนจุดวัดแสง เฉลี่ยทั่วจอ หนักกลาง หรือเฉพาะจุด
ส่วนเสริม
จริงๆการจำแนกภาพและปรับแต่งให้เหมาะสมตามภาพที่ถ่ายนี้ ต้องบอกว่าทาง Huawei ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำนะครับ แต่เป็น Sony ที่ยัดเอามาให้อยู่นานหลายรุ่นแล้ว แต่ว่าอาจจะถ่ายออกมาได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก จนมาช่วงปีนี้ที่มีการใส่ตัว RGB sensor แก้ปัญหาเรื่อง W/B เพื้ยนไป จนสีดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากนั่นเองครับ
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : ถ่าย RAW มันดีมากเลย
ถ้าใครเป็นสายชอบภาพธรรมชาติๆ ไม่ยัด contrast หนักๆ sharpen น้อยๆ อาจจะไม่ได้ถูกโฉลกกับ Mate 10 สักเท่าไหร่นัก ตามภาพทดสอบที่พี่ HD_Mania ได้ทำเอาไว้ละเอียดยิบดีแล้ว แต่ก็ไม่ต้องห่วงไปเพราะ Mate 10Pro นี้รองรับการถ่ายภาพ RAW ด้วย ลองใช้ Lightroom ในการถ่ายภาพและแต่งภาพแล้วจะแบบ โอ้โหหหหหหห สวยงามตามเกินท้องเรื่องมากเลยล่ะครับ แต่ความสะดวกอะไรพวกนี้ก็ลดลงไปเยอะเหมือนกันครับ
ลองจับเอาภาพที่ถ่ายด้วยแอปกล้องมาลองเปรียบเทียบกับภาพที่ถ่าย RAW แล้วแต่งต่อจาก Lightroom ขจัดเรื่องความตุ่น และลดปัญหา sharpen ที่หักมากลงไปได้เยอะ
ภาพที่ Mate 10 Pro ทำได้ไม่ค่อยดีนักคือภาพที่มี contrast หนักๆ ส่วนมืดจะดูสีตุ่นๆกว่ารุ่นอื่นเยอะเลย
ลองปรับโหมด Vivid ดูแล้วจะรู้สึกได้ว่าภาพจะมีความสดใสขึ้น แต่ต้องระวังถ้าถ่ายภาพคน สีผิวอาจจะมีเพี้ยนได้
สำหรับสายวิดีโอต้องบอกว่า Huawei ยังคงไม่ได้เน้นมากนักเพราะยังทำเรื่องกันสั่นมาไม่ดีเท่าไหร่ การซูมก็ยังไม่เนียน หากจับไปเทียบกับคู่แข่งจะยังเห็นความต่างค่อนข้างชัดมาก
ถ่ายวิดีโอที่กลางคืน
หน้าจอความละเอียดไม่ใช่ปัญหา แต่ความสดและคอนทราสเยอะไปหน่อย
ความรู้สึกแรกจับ : เป็น AMOLED ที่สีค่อนข้างสด
Mate 10 Series มีหน้าจออยู่สองแบบคือ RGBW(Mate 10) และ OLED(Mate 10Pro) ซึ่งรุ่นที่ขายไทยก็จะต้องใช้ OLED กันไปตามระเบียบ และทาง Huawei ไม่ได้มีการพูดบรรยายสรรพคุณอะไรของ OLED ตัวนี้มากนัก ในงานเปิดตัวก็ดูจะเน้นแค่จอ RGBW ซะมาก และตัว OLED ที่ใช้นี้ก็จะเป็นความละเอียดเพียง FHD+ เท่านั้น ไม่ได้เป็น QHD อีกต่างหาก คือถ้าใช้งานทั่วไปก็จะไม่ได้รู้สึกอะไร ต้องเพ่งๆหรือใช้จอยี่ห้ออื่นที่ดีกว่ามากๆมาเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่ามันแปลกๆ
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : เป็น AMOLED ที่สีสดเกินไปนะ
ใช้ไปเรื่อยๆสำหรับบางคนอาจจะรู้สึกชินตา แต่ส่วนตัวที่ถือคู่กับ iPhone X ซึ่งหน้าจอเรียกว่าดีมาก และได้รับการยกย่องว่าเป็นหน้าจอที่ดีที่สุด ทำให้เห็นความต่างค่อนข้างเยอะทีเดียว และตอนแรกคิดว่าภาพที่ถ่ายได้จาก Mate 10Pro ด้อยกว่า iPhone สวยไม่เท่า แต่พอนำภาพออกจากเครื่องเอาขึ้นมาเทียบบนจอคอมแล้ว กลับกลายเป็นว่าสวยไม่ต่างกันมากนัก ถึงได้เริ่มลองเอามาวางเทียบภาพกันจึงรู้ว่าจอของ Mate 10 Pro นั้นมีการตั้งค่า Contrast, Saturation, Sharpen ไว้หนักกว่าเครื่องอื่นเยอะเลย และจะเพี้ยนหนักขึ้นหากปรับแสงหน้าจอน้อยๆครับ
ถ่ายภาพมาให้ดู อาจจะดูความต่างยากหน่อย อาจจะต้องจับเครื่องจริงวางเทียบกันถึงจะชัดครับ
ระบบเครือข่ายที่เหนือกว่า รองรับ 4G ทั้งสองซิม
ความรู้สึกแรกจับ : ดีงาม 4G ได้ทั้งสองซิม ไม่รู้สึกกินแบต
Mate 10Pro เป็นรุ่นที่ชูจุดขายเรื่องเครือข่ายเอาไว้เต็มที่มาก ทั้งความเร็วสูงสุดที่ทำได้ และ dual-SIM ที่เหนือกว่าใคร โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้นั้นขึ้นหลัก Gbps ด้วยการผสาน 3CA + 4x4MIMO + 256QAM (ถ้างงว่าคืออะไร กดไปอ่านปัจจัยความเร็ว 4G) ส่วน Dual-SIM ก็น่าจะเป็นอะไรที่หลายๆคนรอคอยกับการใส่ซิมและแสตนบาย 4G ได้พร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่สามารถใช้งาน VoLTE ได้พร้อมกันด้วย
ทำความรู้จัก 2CA / 3CA, 4×4 MIMO และเทคโนโลยี 4G LTE ต่างๆที่เป็นปัจจัยของความเร็วเน็ตมือถือ
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : จับสัญญาณดี ความเร็ววิ่งไม่เคยสุด มีบั๊กนิดหน่อย
หนึ่งเดือนที่ใช้งานมาไม่มีปัญหาเรื่องการจับสัญญาณ เกี่ยวคลื่นมาใช้งาน 2CA/3CA ในแต่ละพื้นที่ได้ดี ทำความเร็วได้โอเค แต่ในประเทศไทย(หรือเกือบทั่วโลก)น่าจะไม่ได้ใช้ที่ความเร็วแบบเต็มความสามารถของ Mate 10Pro ในเร็ววันนี้ ไปอเมริกาหรือยุโรป จะวิ่งให้เกิน 50Mbps เหมือนเมืองไทยยังยากเลย ส่วนเรื่อง Dual-SIM ใช้งานมาไม่เจอปัญหากินแบตนะ แต่เจอเรื่อง Ping เหวี่ยงแทน โดยเวลาเล่น RoV ที่ต้องการ Streaming data ตลอดเวลาและ Ping ต้องต่ำเพื่อการควบคุมที่ดีที่สุดนั้น จะโดนวาร์ปอยู่เสมอ ใส่สองซิมออนเป็น 4G ทั้งคู่แล้ว Ping มาแบบบ้าบอมาก พอปิดการแสตนบาย 4G ทั้งคู่เท่านั้นแหละ อาการหายไปเลยครับ ซึ่งอาการนี้ได้ทำการแจ้ง Huawei ไปแล้ว ต้องรอดูว่าจะมีการแก้ไขปัญหานี้ในเร็ววันหรือไม่ครับ
แบตเตอรี่ที่อึดทนใช้งานได้นานข้ามวัน
ความรู้สึกแรกจับ : จะทนขนาดไหนนะ
มาพร้อมกับแบต 4,000 mAh ที่ใหญ่ที่สุดในระดับเรือธงด้วยกันเอง มีการทดสอบกันมากมายว่าแบตอึดจริงใช้งานได้ยาวนาน จับครั้งแรกๆก็รู้สึกได้ทันทีว่าใช้ได้ยาวกว่ารุ่นอื่นแต่ไม่ได้เยอะแบบเท่าตัวข้ามวัน มีเจอปัญหาแบตไหลเพราะ Google Play Service ทำพิษในช่วงเปิดตัว ซึ่งหลังจากตอนนั้นแล้วก็ไม่เจอปัญหาแบตไหลอีกเลย มีฟีเจอร์ป้องกันปัญหานี้ไว้ค่อนข้างดี
หลังผ่านไปหนึ่งเดือน : แบตอึดจริง ใช้น้อยอยู่ถึงวันที่สองสบายๆ
ช่วงแรกที่ได้ใช้งานมีอาการเห่อ ใช้เยอะตลอดเวลาเลยอาจจะทำให้แบตหมดเร็ววันเดียวร่วง แต่เมื่อใช้ไปสักพักเลิกเห่อก็เหลือการใช้งานตามปกติ ทำให้แบตเหลือถึงวันที่สองราวๆ 50% ถ้าใช้ประหยัดหน่อยก็อาจจะพ้นวันไปได้แบบปริ่มๆวัน แต่ก็ไม่แนะนำให้ทำอยู่ดีนะ เพราะอาจจะไม่พอได้
สำหรับการชาร์จแบตของ Huawei Mate10 Pro ก็ยังคงมีการใช้ระบบ SuperCharge ชาร์จไว แค่ชม.เศษๆก็แบตเต็มแล้ว ถ้าแบตหมดชาร์จแค่ครึ่งชม.ก็ได้แบตคืนมาราว 50% ซึ่งความปลอดภัยนี่ก็หายห่วงเพราะมีการส่งเข้าแล็ปของทางประเทศเยอรมันให้รับรองความปลอดภัยมาด้วย ซึ่งด้วยการทำระบบการชาร์จพิเศษของตัวเองขึ้นมานี้ก็จะมีเงื่อนไขการใช้งานเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติมขึ้นมาอีกหน่อยที่เราจะไม่สามารถเปิดการใช้งานระบบชาร์จไวด้วยหัวชาร์จยี่ห้ออื่นได้ หรือเรียกว่าไม่รองรับมาตรฐาน QuickCharge ที่แบรนด์อื่นๆเค้าใช้กันนั่นแหละ ถ้าไปใช้หัวชาร์จไวของ Samsung, Sony, Moto, Aukey, ฯลฯ จากปกติที่จะได้ไฟราว 15-18w ก็จะได้รับไฟเข้าไปเพียง 10w ตามปกติเท่านั้น
อื่นๆที่น่ารู้ก่อนซื้อ Huawei Mate 10Pro
ว่าด้วยเรื่องเสียง ลำโพง ไมค์
ลำโพงสเตอริโอ เสียงดังดี : เสียงดีในระดับของมือถือแต่ไม่ถึงกับอลังการงานสร้าง เสียงออกเป็นสเตอริโอชัดเจนเมื่อวางอยู่ในแนวนอน ความดังของลำโพงที่หูสนทนาเสียงจะแปลกๆหน่อย คุณภาพสู้บริเวณด้านล่างของเครื่องไม่ได้ ถ้าวางในแนวตั้งให้เสียงออกจากลำโพงล่างเป็นหลักจะได้คุณภาพดีขึ้นนิดนึง แต่ก็จะลดทอนมิติของเสียงไป
ไม่มีช่องหูฟัง 3.5mm : ในกล่องจะมีแถมหูฟัง USB Type-C มาให้ด้วย คุณภาพระดับกลางๆ แต่ส่วนตัวหัวแปลงเห็นว่ามีแถมมาให้ ใครมีหูฟังเจ๋งๆอยู่แล้วสามารถเอามาเสียบเพื่อรับอรรถรสที่ดีที่สุดได้เลยครับ
ไมโครโฟน : รับเสียงเราได้ชัดเจนดี เอามาใช้อัดเสียงพูด สัมภาษณ์คนอื่นได้ดี โดยสามารถเลือกให้รับเสียงได้ว่าจะเอาทิศทางใด เพื่อให้เสียงที่มาจากทางนั้นชัดเจนที่สุดครับ
ตัวอย่างคุณภาพเสียงที่อัดออกมา
ลงแอปในเครื่องเราแบบไม่ได้รับการอนุญาต
อันนี้เป็นความป่วยของ Mate 10Pro ที่น่าหงุดหงิดและไม่โอเคเอาซะมากๆ คือ วันดีคืนดีตื่นขึ้นมาคนที่ใช้ Mate 10Pro จะพบว่ามีแอปอะไรที่เราไม่ได้ใช้ ไม่รู้จักโผล่ขึ้นมา จนคิดว่านี่เราโดนมัลแวร์อะไรรึเปล่า จนมีข่าวออกมาว่าทาง Huawei ได้ทำการติดตั้งแอปลงมาในเครื่องเราให้เองโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ส่วนตัวเจอกับตาโดนกับตัวมาแล้ว 2 แอป
- Quik : แอปตัดต่อจาก GoPro
- SwiftKey Keyboard : คีย์บอร์ดที่แถมมาให้
ตื่นมาตอนเช้าก็จ๊ะเอ๋กันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
บางคนอาจจะบอกว่ามันคือแอปที่ดีอะไรก็ว่าไปนะ แต่จะดีแค่ไหนก็ตามแต่อยู่ดีๆมาลงเครื่องให้เลยแบบไม่บอกกล่าวยังไงก็ไม่โอเค ตัว SwiftKey นี่ก็ทำการ Uninstall ไปแล้วรอบนึงก็ดึงกลับมาใหม่ แปะไอคอนขึ้นหน้าแรกให้เลย คือผิดหวังและหัวร้อนมากที่เจอแบบนี้
GPS แม่นดีไว้ใจให้นำทางได้ : ทางหัวเว่ยบอกว่า GPS ดีกว่าเดิมมากๆ จนเรียกว่าดีกว่ายี่ห้ออื่น มาลองใช้จริงก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆของหัวเว่ยเอง ส่วนถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้วยังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างแบบชัดเจนนัก แต่ดูคร่าวๆเหมือนจะดี แม่นยำ และจับตำแหน่งได้เร็วกว่า iPhone X
มีโหมด PiP (Picture in Picture) เป็นฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Android 8.0 ย่อขนาดหน้าจอของแอปให้เล็กลง พร้อมใช้งานแอปอื่นร่วมกันได้ แอปที่ใช้งานบ่อยๆและรองรับก็จะมี Google Maps กดนำทางแล้วกดปุ่ม Home เพื่อใช้งาน PiP ได้เลย แต่ตัวที่หลายคนอยากให้มีฟีเจอร์นี้อย่าง YouTube ยังไม่ยอมทำให้นะ
คลิปนี้อัดเอาไว้ก่อนที่จะอัพเดทเฟิร์มแวร์ แต่เฟิร์มแวร์ล่าสุดเจอปัญหามีความเพี้ยนละ
IR Blaster : รุ่นท็อปยี่ห้ออื่นไม่ให้ แต่หัวเว่ยยังให้อยู่ ใช้แทนรีโมททีวี แอร์ที่บ้านสบายๆ
สั่นเบาไปหน่อย : โทรเข้าไม่ได้รับไปหลายสายเพราะมันสั่นเบาเนี่ยแหละ
ไม่มี microSD : เมม 128GB เอาอยู่นะ ใช้ได้ไม่หมด รูปเยอะๆก็จับ Backup ขึ้น Google Photos
มีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะ
ยังเจอปัญหาแอปเด้ง ต้องปิด power-intensive prompt
เสียบ Rabbit SIM ใช้แทนบัตร Rabbit (BTS) ได้ไม่มีปัญหา แต่ว่าตัวเครื่องปิดการทำงานของ NFC ถ้ากดปิดจอไป ต้องปลุกขึ้นมาก่อนถึงใช้งานได้ (ไม่ต้องปลดล็อคก็ได้)
สามารถแบ่ง 2 หน้าจอได้
สรุป Huawei Mate10 Pro ซื้อใช้ได้ใช้ดีไม่น่าผิดหวัง
ถ้าคุณเป็นคนที่หลงไหลในดีไซน์ของ Huawei Mate10 Pro ชอบในความเป็นกล้อง Leica โทนสีที่ได้ ความคมชัดที่ใช่ เล็งเรื่องการใช้งานทั่วไปนิ่งๆเสถียรๆ ต้องบอกว่า Huawei Mate 10Pro ตัวนี้โอเคเลย มีการซัพพอร์ทหลังบ้านที่ดี เจอปัญหาด้านซอฟท์แวร์ก็มีการออกแพทช์อัพเดทแก้ปัญหาได้รวดเร็วดีครับ หลังๆมาก็มีการซัพพอร์ทหลังการขายที่ใช้ได้ด้วย ซื้อถือยาวๆได้อยู่ครับ ส่วนปัญหาอื่นๆผมก็ได้ลิสต์เอาไว้ในรีวิวทั้งหมดให้ละ ยังไงลองพิจารณากันดูเอานะครับว่า Mate10 Pro คือโทรศัพท์ที่ใช่สำหรับคุณรึเปล่า
ถ้าใครมีคำถามหรืออยากรู้ส่วนไหนเพิ่มเติมอย่างไร สามารถส่งเข้ามาถามได้ในคอมเม้นเลยนะครับ
แอดมินได้พบปัญหาการไม่ push notification ตอนที่เครื่องนิ่งๆไม่ได้ใช้งานไหมครับ
ผมเจอทุกวัน ทุกเวลา ยิ่งช่วงไหน วางมือถือนิ่งๆนี่ พอจับเปิดหน้าจอ noti นี่เด้งพรวดๆเลยครับ
.
.
อีกเรื่องคือ พอใส่หูฟังแล้วเสียงเบากว่ามือถือรุ่นอื่นๆพอสมควรครับ เวลาใช้หูฟังนอกสถานที่นี่ต้องเปิดเสียงดังเกือบสุดตลอดเลย ><
ไม่ push นี่เป็นฟีเจอร์ตัว doze ของ android เองเลยครับ -_-
ส่วนเรื่องหูฟังนี่เดี๋ยวลองอีกที ไม่ค่อยได้ใส่ครับ
ชอบรีวิววิจาร์ตรงๆไม่หมกเม็ด แบบนี้มากครับ เป็นกำลังใจให้ทำต่อไป
ตอนนี้ราคาลงมาเยอะแล้วค่ะ ใช้โค้ดลดราคาได้อีก ไม่ติดสัญญาด้วย ลองดู http://smarturl.it/huawei-mate10-sale
.
.
สะกิดใจส่วนของ Rabbit SIM ตอนนี้มีรุ่นไหนใช้ได้บ้างครับ แล้วพวกเครื่องจีนใช้ได้มั้ยครับ
ตอนนี้ต้องลองรุ่นต่อรุ่นเลยครับ บอกยากจริง AIS ก็ไม่ยอมอัพเดทรายชื่อ เครื่องที่มี NFC ส่วนมากหลังๆใช้ได้หมดนะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
ใช้ ais rabbit ตอนเดินเข้าbtsนี่ต้องเข้าapp ais rabbit ด้วยไหมครีบ หรือว่าเอาไปทาบที่เครื่องอ่านขณะที่หน้าจอปิดอยู่ได้เลยครับ
ไม่ต้องเข้าแอปครับ แต่ว่าต้องปลุกหน้าจอนิดนึง ไม่ต้องปลดล็อคก็ได้ เพราะ Mate10 Pro เหมือนว่ามันจะปิดการทำงานของ NFC ถ้าหน้าจอไม่เปิดครับ
ถ้าเป็นแบบนี้สำหรับผมไม่ work ที่ต้องมากดเปิดหน้าจอทุกครั้งที่จะ scan
ปล.ใช้ Note 5 กับ Rabbit SIM สามารถ Scan ผ่านเข้าออก BTS ได้เลยแม้จะปิดหน้าจออยู่ก็ตาม
เยี่ยมยอดไปเลย
เรื่องแอปปิดตัวเองผมนึกว่าเป็นเฉพาะ p9, p10 ซะอีก อันนี้ทำไงก็ไม่หาย wipe ก็ยังเป็น ต้องรอ update patch อย่างเดียวครับ
ส่วนเรื่องติดตั้้งแอปเองผมนึกว่ามาพร้อมกับ patch นะ ไม่นึกว่าจะส่งตรงถึงที่นอนตอนเช้าแบบนี้ 😛
กลัวอย่างเดียวคือ รอมที่ผ่านการปรับแต่งมาเนี่ยแหละ
MIUI, Flyme เคยใช้มา 2 ยี่ห้อนี้
มันแต่งจนบางอย่างมันทำงานไม่สมบูรณ์ เช่น ไลน์ไม่เตือนเพราะระบบ Kill App ไปแล้ว
บางครั้งมันก็ค้าง หรือใช้ระบบหนักเกินความจำเป็น ไม่รู้ว่า EMUI จะเป็นแบบนั้นมั้ย
เห็นสเป็ก แต่ไม่กล้าซื้อใช้ ระแวง
ผมมีปัญหากับ app nike+ เวลาวิ่งอ่ะครับ
คือปกติเปิดแล้วยุบให้ run in background
แต่ตั้งแต่มาใช้ mate 10 pro ทำแบบนี้แล้ว พอหน้าจอดับ หรือไปใช้แอปอื่น ตัว GPS มันจะไม่จับตำแหน่ง วิ่งไป 3 รอบ เปิดดูอีกที ระยะยทางไม่ไปไหนครับ ต้องเปิดหน้าแอปตลอด และห้ามให้จอ sleep ด้วย GPS จึงจะทำงานตลอด
มันตั้งได้นี่ครับว่าจะให้ แอป ไหนรันแบคกราว หรือ หยุดทำงานถ้าปิดหน้าจอ ปล.ผมยังใช้P9อยู่นะ 555 รอp11ค่อนเปลี่ยน อิอิ
รุ่นนี้เปลี่ยนโฮมสกรีนยังไงคะ รบกวนด้วยคะ
ผมขอถามแบบโง่ๆเลย นะครับ ถ้าเทียบกับ Sony Xperia Premium ไม่นับหน้าจอ ดีกว่าไหมครับโดยรวม การใช้งาน
ขอสอบถามหน่อยครับ กล้องหน้าถ่ายดีไหม และเป็น auto focus หรือว่า fix focus ครับ
อยากให้รีวิวการใช้งาน pc mode ด้วยครับ
คือจะใช้แค่ excel เอง ไม่รู้มันสามรถทำได้มั้ย
ตัวนี้ใช้ถ่ายวีดีโอแบตเตอรี่อยู่ได้นานแค่ไหนหรอครับ
ตัวนี้รองรับ 5G ไหมอ่ะ