ในที่สุดก็มาแล้ว Huawei Mate 30 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นล่าสุดที่อัดสเปคมาเต็มพิกัด ชูพลังชิปเซ็ต กล้องถ่ายภาพ และกล้องวิดีโอกับชุดเลนส์และเซนเซอร์ใหม่ที่ร่วมพัฒนากับ LEICA แต่งานนี้เหมือนว่าชื่อของ LEICA นั้นแทยจะช่วยอะไรไม่ได้เลยเพราะการขาดหายไปของชื่อ Google กับบริการ GMS หรือ Google Mobile Service ซึ่งผมเองก็จะมา รีวิว Mate 30 Pro ตัวนี้แบบที่ไม่มี GMS นี่แหละครับ

แจ้งให้ทราบก่อนว่าการรีวิวรุ่นนี้อาจจะมีความแปลกแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ เพราะอาจจะแบ่งเขียนเป็น 3 วัน และจะคอยมาอัพเดทความเคลื่อนไหวเรื่อยๆ ว่าตอนนี้มันสามารถทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ แอปตัวไหนที่ใช้งานได้สบายๆ ตัวไหนยังเจอปัญหา ตามแนวทางที่ Huawei ต้องการจะผลักดัน HMS หรือ Huawei Mobile Service ให้เกิดขึ้นให้ได้นั่นเองครับ

ใช่ครับตอนนี้ยังพอมีวิธีในการติดตั้ง GMS เพื่อใช้งาน Google Service แล้ว สำหรับผู้ใช้งานนั้นถือเป็นความสะดวกสบายแน่นอน แต่นั่นยังไม่ใช่ทางออกและไม่ใช่สิ่งที่ Huawei กำลังจะมุ่งไป เพราะถึงแม้จะจับมือกับสหรัฐได้ขึ้นมาวันไหน เอา GMS กลับมาไม่ยาก แต่ไม่มีอะไรมาการันตีว่าจะไม่เกิดการแบนขึ้นอีก เพราะฉะนั้น HMS คือสิ่งที่ต้องพัฒนาและผลักดันออกมาให้ได้

แกะกล่อง Mate 30 Pro

เครื่องนี้ทาง droidsans ไปจัดมาในงาน Huawei Red Carpet ที่ได้ของแถมมาเยอะๆ นั่นแหละครับ คือนอกจาก Mate 30 Pro แล้วยังได้ OSMO Mobile 3 แล้วก็ Huawei Freelace มาด้วย

แน่นอนว่าเป็นเครื่องศูนย์ไทย 100% อุปกรณ์ในกล่องก็มาตามนี้เป๊ะๆ หม้อแปลง Super Charge 40W, หูฟัง USB C, สายชาร์จ USB C เคสใส

ด้วยหน้าจอที่โค้งมาเป็น Horizon Display นั้นไม่มีฟิล์มกันรอยแปะมานะครับ แต่เห็นเริ่มมีพวกฟิล์มกระจก UV มาแล้ว ซึ่งผมเองไม่แน่ใจว่ามันจะแปะได้เป๊ะแค่ไหน

ด้านหน้ามีกล้องเซลฟี่และเซนเซอร์สแกนใบหน้าและใช้จับความเคลื่อนไหว เพราะว่ามันมี Gesture ตรวจสอบลักษณะท่าทางการสั่งงานด้วยมือได้ เช่นจับภาพหน้าจอ หรือเลื่อนหน้าฟีด ส่วนช่องลำโพงสนทนาไม่มีเพราะเป็นการฝังเอาไว้ใต้จอ

ด้านบนมีพอร์ท Infrared ที่เรียกกันว่า IR Blaster เอาไว้ใช้งานเป็นรีโมทได้เหมือนเดิม

ลำโพงรุ่นนี้มีตัวเดียวที่ด้านล่าง ถัดไปคือช่อง USB C ส่วนถาดซิมเป็นแบบ Dual Nano ใส่ได้ 2 ซิมหรือจะเลือกเติมเมมด้วย NM Card ในช่องซิม 2 แทนก็ได้

ตัวเครื่องสวยหมดจด หรูหราจริงๆ อันนี้คือสีดำ ใครอยากเห็นสีเงินต้องไปดู แกะกล่องพรีวิว Mate 30 Pro นะ

 

ประสบการณ์วันที่ 1

Huawei ID กับการ Sync ข้อมูล

เปิดเครื่องมาครั้งแรกก็อึ้งไปหนึ่งรอบ ด้วยความเคยชินที่เรา sync ข้อมูลกับ Google มาโดยตลอด รายชื่อ ตารางนัดหมาย email รวมถึงโน๊ตต่างๆ การขาดหายไปก็ทำเอาลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะต้องไปทำการ sync เอาข้อมูลทั้งหมดออกมา

วิธีการง่ายที่สุดคือ Phone Clone ที่เป็นแอปในการย้ายข้อมูลของ Huawei ซึ่งเราก็สามารถดึงข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่ามาได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น Android รุ่นไหนๆ หรือ iPhone iPad อุปกรณ์ iOS ก็ได้หมด

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือ.. ข้อมูลต่างๆ ที่คุณเคย Sync เอาไว้กับ Google ที่เปิดเช็คดูได้ทุกเครื่อง หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ดูได้อย่างพวกปฎิทินหรือตางรางนัดหมายนั้นหายไปแล้ว และหากมีการเพิ่มนัดหมายหรือเบอร์ใหม่ๆ เข้าไป มันก็จะ sync เข้ากับ Huawei ID ของคุณเท่านั้น (แต่ดูเหมือนว่ายังสามารถใช้งานกับ Microsoft Exchange ได้อยู่ จุดนี้ยังไม่ได้ลอง)

ส่วนการใช้งาน Gmail นั้นถึงแม้ตัวแอปจะติดตั้งไม่ได้ แต่เรายังมี Huawei Mail ที่ยังสามารถจะตั้งค่าและดึงข้อมูลจาก server มาได้ครับ

 

AppGallery ที่ตอนนี้แทบไม่มีอะไรให้โหลด

ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าทาง Huawei ได้พยายามผลักดัน AppGallery ในการโหลดแอปแทนที่ Google Play มาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่ากว่าจะพร้อมนั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว เพราะ่จากที่ลองโหลดแอปต่างๆ มาติดตั้ง ไม่ใช่ทุกแอปที่อยู่ใน AppGallery จะรองรับการทำงานของ HMS โดยสมบูรณ์

หลายๆ แอปยังเด้งออกมา ใช้งานไม่ได้ บางแอปนี่เปิดเข้าไปได้ แต่บางฟังก์ชั่นก็ไม่สมบูรณ์ สรุปก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี

และที่ลำบากไปกว่านั้นคือแอปยอดฮิต โซเชียลลต่างๆ เกมดังๆ นั้นไม่มีให้โหลดเลยด้วยซ้ำ ค้นหาแอปชื่อไหนไปก็ไม่เจออะไรเลย แอปบางตัวที่เห็นแนะนำกันอย่าง TubeMate เพื่อให้่ใช้แทน YouTube นั้นก็ไปเจอแอปปลอม กดเข้าไปกลายเป็นเกม และมีโฆษณาเด้งรัวๆ อีกต่างหาก

 

ทางออกคือ App Store รายอื่นๆ

ในงานวันรับเครื่องทาง Huawei เองก็ได้มีการแนะนำ รวมไปถึง bookmark บน Huawei Browser ก็มี AppTaken, ApkPure และ ApkMonk เป็นทางเลือกให้โหลดแอปอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่ม

ซึ่งแน่นอนว่าพอเป็น 3rd party app store ก็จะมีความเสี่ยง และวุ่นวายมากขึ้นไปอีก เช่น

  • ตัวไฟล์ APK นั้นอาจจะโดดตัดแต่งงัดแงะมาแล้วก็เป็นได้ เพราะเราไม่รู้มาตรการและความปลอดภัยของสโตร์นั้นๆ
  • ไฟล์ APK ที่โหลดมานั้นพัฒนาเพื่อรองรับ GMS ไม่ใช่ HMS โอกาสแอปจะเด้งมีสูง
  • แอปและเกมบางตัวนั้นมาจาก Store ในต่างประเทศ ทำให้ใช้งานหรือเล่นในไทยไม่ได้

จอด้านซ้ายคือที่โหลดมาจาก AppGallery ที่ลองโหลดมาติดตั้งดู แอป Wongnai เข้าได้ แต่หาตำแหน่งร้านไม่ได้, BugabooTV ดูได้ปกติ, Wallet ใช้ได้, Mello ดูไม่ได้, K Plus ได้, TMB ได้, Viu ดูได้, TikTok ได้ ส่วน TubeMate เหมือนจะเป็นแอปปลอม เปิดมามี่แต่โฆษณาเด้งๆ และมีเกมให้เล่นแทน

จอด้านขวานั้นติดตั้ง APKPure แทนและลองโหลดแอปโซเชียลต่างๆ มาลอง LINE ตัวเต็มเด้ง LINE Lite เปิดใช้งานได้ ส่วน Netflix อุปกรณ์ไม่รองรับ (น่าจะเจอปัญหา SafetyNet ที่ดูเรื่องระบบลิขสิทธิ์)

 

พา Mate 30 Pro กลับสู่โลกโซเชียลได้ยังไง ทางไหนบ้าง

แม้ว่าจะไม่มี Google Mobile Service ก็จริง แต่บางบริการก็ยังสามารถโหลดและใช้งานบน Android ได้สบายๆ เพราะแอปบางตัวก็ไม่ได้ใช้ Google Service นั่นเอง อย่างเช่นตระกูลของ Facebook นั้นก็พัฒนา API ของตัวเองขึ้นมา เพราะฉะนั้นผมสามารถเล่น บริการเหล่านี้ได้สบายๆ ไม่เจอปัญหาอะไร

  • Facebook
  • Messenger
  • Instagram
  • WhatsApp
  • TikTok
  • LINE Lite
  • WeChat

แต่บางบริการเช่น LINE นั้นก็ต้องเป็น LINE Lite เท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ หดหายไปเพียบเลยทีเดียว จะเหลือแค่ความสามารถหลักๆ ในการแชท โทร อะไรแบบนั้นไป

 

ไม่มี Google Mobile Service แต่ยังใช้แอปของ Google ได้อยู่นะเออ

ต้องบอกว่าแอบมีเซอร์ไพรส์เล็กน้อย รู้ทั้งรู้ว่าไม่มี GMS บน Mate 30 แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจวา่าไอ้พวกแอปเล็กๆ ตระกูล Go นั้นมันต้องใช้ Google Service หรือเปล่า เลยลองไปโหลดมาดู ผลปรากฎว่าไม่ไ้ด้ ฮ่าๆ แต่กลายเป็นว่ามีบางแอปของ Google ที่ยังสามารถใช้ได้นะครับ นั่นก็คือ

  • Google Chrome
  • Google Maps

ตัว Chrome ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่แอบงงในตอนแรกคือ Google Maps ที่สามารถใช้งานได้หาตำแหน่ง นำทาง มีสภาพการจราจรโชว์ด้วย แต่ที่ขาดหายไปคือเราไม่สามารถ sign-in แปะรีวิว หรือใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ของ Maps เพิ่มได้ แต่สำหรับหลายๆ คนเท่านี้ก็น่าจะพอเพียงอยู่นะ

หลายสิ่งหลายอย่างต้องทำผ่าน Chrome

วันแรกผ่านไป ก็ต้องบอกว่าใช้เวลาในการเซ็ตอัพเครื่องนานกว่าปกติ เพราะต้องไปไล่หาข้อมูลต่างๆ มากมาย อะไรที่ซิงค์มาได้/ไม่ได้บ้าง การกลับมาเชื่อมต่อโซเชียลหลายๆ ตัวได้ก็ถือว่าน่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คนได้อยู่ ส่วนการเช็ตตารางนัดหมายต่างๆ ผมก็เข้า calendar ผ่าน Chrome ดู YouTube ก็ผ่าน Chrome ไปก่อน

เล่นเกมกับเพื่อนไม่ได้

ปัญหาที่เจอในช่วงท้ายของวันแรกคือตอนที่จะเล่นเกมกับเพื่อนนี่แหละครับ PUBG ไม่มีปัญหา สามารถโหลดแอปจาก 3rd patry ได้ปกติ sing-in ด้วย facebook ได้อยู่ ข้อมูลในเกมมาเหมือนเดิม

แต่พอมาเป็น ROV ปุ๊บ ของประเทศไทยมีเวอร์ชั่นของ Garena งานนี้ผมหาโหลดไม่ได้ อดเล่นไปเลยจ้า เลยลองย้ายไป Call of Duty เจอปัญหาแบบ ROV คือหลังจาก login ไปแล้วบอกว่าเราเข้าไปเล่นไม่ได้ เพราะเกมยังไม่เปิดในประเทศไทย..

 

แอปที่ยังไม่มีให้โหลด/ใช้งานไม่ได้ ที่อาจมีผลกับใครหลายๆ คน

ตอนนี้ Mate 30 Pro ยังรองรับแอปของธนาคารไม่ครบทุกค่ายนะครับ (เห็นว่าจะครบช่วงปลายปีนี้) ส่วนแอป เป๋าตุง ชิมช็อปใช้ นั้นยังไม่มีให้โหลดเช่นกัน ส่วนแอป All Member ของ 7-11 ยังใช้งานไม่ได่นะครับ

 

ประสบการณ์วันที่ 2

วันนี้ได้พาเจ้า Mate 30 Pro ออกไปเป็นเครื่องหลักในการใช้งานนอกบ้าน ต้องวิ่งไปงาน 2-3  ที่ เบื้องต้นตอนนี้ก็ยังใช้ Chrome ไม่ก็ Huawei Browser ในการเข้าถึงข้อมูลจาก Google Calendar และพวกเอกสารต่างๆ ใน Google Drive อยู่เลย  แต่หลังจากลองไปหลายๆ ท่า ก็เหมือนจะพอมีทางออก

Microsoft Outlook แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ตัวผมเองนั้นใช้ Windows เป็นคอมพ์ในการใช้งาน และมีการใช้ Microsoft OneDrive (ซึ่งตอนนี้ราคาถูกกว่า Google Drive) และเห็นว่าทาง gmail นั้นสามารถเชื่อมต่อกับ Microsoft Account และบริการของ Outlook ได้ เลยได้ท่าใหม่ในการใช้งานมาแล้ว โดยเลือกโหลดแอป Outlook มาทำการซิงค์ gmail ครับ ซึ่งข้อดีคือมันได้ทุกอย่างมาครบมาก ทั้ง email, รายชื่อใน contact และตารางนัดหมายในปฏิทินก็มาด้วย เรียกได้ว่าแทบจะหัวเราะออกมาดังๆ ด้วยความดีใจ และก็น้ำตาไหลไปพร้อมๆ กัน

   

จากวันแรกที่ต้องเปิด browser ทั้งวัน พอมีแอปอย่าง Outlook มาช่วย ขีวิตก็ง่ายขึ้นเยอะ จะติดปัญหานิดหน่อยก็คือเราไม่สามารถจะ sync รายชื่อและตารางนัดหมายไปใส่กับแอปรายชื่อของโทรศัพท์ หรือแอปปฏิทินของเครื่องได้ เพราะถ้าจะทำแบบนั้นเราต้องมี Microsoft Exchange Account แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว การค้นหารายชื่อโทรออก สามารถทำได้ในแอป รวมถึงการอัพเดทตารางนัดหมายต่างๆ ด้วย

อาจจะมีบางคนทักท้วงว่า Microsoft ก็เป็นของอเมริกา แต่เนื่องจาก Outlook มันเป็นแค่แอปโดดๆ เท่านั้น ไม่น่าจะโดนแบนอะไรในช่วงนี้แน่นอนครับ

 

ดูหนังฟังเพลงทางไหนได้บ้าง

แอปสายเอนเตอร์เทนนั้นยังใช้งานได้เกือบหมด จากที่ลองทดสอบกับ Spotify ใช้ได้ไม่มีปัญหา รวมถึง Apple Music และ JOOX

ส่วนบริการสตรีมมิ่งจากที่เปิดให้บริการในบ้านเราตอนนี้จะมี Netflix ทื่ดูไม่ได้ คือจะติดที่ขั้นตอนการเปิดแอป แนวๆ อุปกรณ์ไม่รองรับ แถมยังไม่ยอมให้ดูผ่านหน้าเวบด้วย

เช่นเดียวกับ AIS Play และ True ID ที่แอปเด้งทันทีเพราะไม่มี Google Service ส่วน iflix เปิดได้ แต่กดเล่นหนังไม่ได้ จะมีก็แค่ viu ที่ดูได้ปกติครับ

 

อุปกรณ์เสริม Wearable ต่างๆ

สำหรับใครที่มีการใช้พวกสมาร์ทแบนด์ สมาร์ทวอช ถ้าเป็นของฝั่งจีนอย่าง Huawei, Xiaomi หรือ Honor อันนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปได้ปกติครับ แต่พอเป็นของ Garmin ตอนนี้หาแอปมาลอง sync ไม่ได้ เลยยังไม่ทราบ ส่วนของ Fitbit นั้นแอปเด้งไปเลย เข้าไม่ได้ ที่ยังไม่ได้ลองอีกอย่างคือของ Samsung พวก Galaxy Watch เพราะมันต้องติดตั้งหลายบริการมาก และหาโหลดใน App Store นอกได้ไม่ครบ

 

อัพเดทสถาณการณ์แอปต่างๆ ในไทย

หลังจากได้คุยกับทางทีมของ Huawei ประเทศไทยแล้วก็ได้ข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับแอปต่างๆ ตอนนี้ก็เลยทราบกำหนดการแบบคร่าวๆ ของแอปธนาคารทั้งหมด จะรองรับ HMS และมีให้ดาวน์โหลดใน AppGallery ภายในปีนี้ครับ ส่วนแอปของเครือข่ายก็เช่นกัน ซึ่งตอนนี้ทางทีมยังไม่สามารถยืนยันวันอย่างเป็นทางการได้ เพราะเป็นการทำงานของหลายภาคส่วน

 

ประสบการณ์วันที่ 3

VMOS คืออะไร ใช้ทำอะไร?

เนื่องจาก Mate 30 Pro ไม่มี Google Play Service การจะใช้บริการของ Google แบบครบ 100% จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย (นอกจากไปติดตั้ง GMS ด้วยวิธีการอื่นๆ ซึ่งมีคนลองแล้วมันก็ไม่สมบูรณ์ 100%) แต่มันก็ยังพอมีวิธีการที่จะใช้งานได้อยู่บ้าง ผ่านระบบ VM หรือ Virtual Machine โดยเจ้า VMOS นั้นจะทำการสร้างระบบ Android จำลองขึ้นมาใน Mate 30 Pro ของเรา ซึ่งในนั้นเราสามารถ sign-in เข้า Google Play และใช้บริการต่างๆ ได้ แต่… มันก็จะไม่ใช่ Mate 30 Pro ของเรา เพราหน้าตาและ UI ต่างๆ ก็จะเป็น VMOS ไปทั้งหมดเลย แถมยังใช้งานกล้องหรือเรียกดูหน่วยความจำจากในเครื่องไม่ได้ด้วย (เหมือนจะพอมีวิธีเรียกหน่วยความจำในเครื่อง แต่ผมยังไม่ได้ไปลองหาว่าทำยังไง)

ซึ่งจากที่ได้ลองติดตั้งดูแล้วก็พบว่าระบบ VM ที่สร้างขึ้นมานั้นจะเป็น Android 5 จำลองเครื่องเป็น vivo และชิปจำลองขึ้นมาเป็น Exynos ซึ่งประสิทธิภาพในการเล่นเกมนั้นถือว่าดีกว่าที่คาด โหลด ROV ไทยได้ เปิดกราฟิกสูงๆ ได้

แต่ UI ของตัวระบบนั้นแอบช้านิดๆ และหลังจากที่ลองเล่นเกมบน VMOS ไปสักพัก ก็พบว่าเครื่องร้อนกว่าที่เล่นเกมบน EMUI ของ Mate 30 Pro ซะอีก เพราะตามหลักการมันใช้พลังประมวลผลของ CPU เพิ่มขึ้นนั่นเอง ส่วนใครที่หวังจะเอาไปเล่นพวกเกม AR อย่าง Pokemon Go อันนี้ลองค้นหาแล้วไม่มี่นะครับ

การใช้งาน Mate 30 Pro บนหน้าจอแบบ Horizon Display

เครื่องสวย จอไร้ขอบแบบน้ำตกมันก็สวยจริงๆ ส่วนเรื่องของการใช้งานนั้นแรกๆ คิดว่าจะยาก แต่ก็ไม่ลำบากเลย เพราะขอบจอนั้นถูกบล็อคระบบสัมผัสมาแล้วระดับนึง ทำให้เวลาถือเครื่องหรือเวลาพิมพ์นั้นไม่ยาก อุ้งมือจะโดนขอบบ้างก็ไม่เป็นไร

แล้วขอบจอมันใช้ทำอะไรได้ นอกจากความสวยงาม? ต้องบอกว่ามันมีฟังก์ชั่นซ่อนอยู่ครับ คือการปรับเพิ่มลดเสียงที่ตอนนี้ปุ่ม volumne rokr นั้นไม่มีแล้วใน Mate 30 Pro แต่เราก็สามารถเคาะขอบข้างช่วงบนของหน้าจอใช้แทนได้ โดยสามารถทำได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งพอชินแล้วก็จะถนัดขึ้น แต่ถามว่าดีกว่าปุ่มแบบกดๆ ไหม แน่นอนว่ามีปุ่มมันง่ายกว่าเยอะครับ

นอกจากใช้เป็นปุ่มปรับเสียงแล้ว มันยังสามารถใช้เป็นปุ่ม shoulder หรือที่เรียกว่าปุ่ม L และ R ในเกมได้ด้วย อันนี้ก็สามารถไปตั้งค่าในแต่ละเกมได้ เช่นใน PUBG ผมก็ตั้งเป็นปุ่มยิงไปเลย และในโหมดกล้องถ่ายภาพก็สามารถเซ็ตให้ทำหน้าที่เป็นปุ่มชัตเตอร์ได้ด้วย

 

เซนเซอร์สแกนนิ้ว และสแกนใบหน้า

ผมคาดว่าด้วยกล้องหน้าชุดใหม่ของ Mate 30 Pro ที่ใส่เซนเซอร์ต่างๆ ฝังเข้าไปเพียบนั้นน่าจะรวมเอาระบบสแกนหน้าแบบ 3D เข้ามาเป็นระบบ biometric หรือชีวภาพใน Android 10 แล้ว (แบบเดียวกับ Pixel 4) แต่น่าเสียดายว่าพอไม่มี App ที่รองรับมาทดสอบ ก็เลยยังสรุปไม่ได้ว่ามันสามารถใช้งานแทนสแกนลายนิ้วมือได้เลยหรือไม่ จากที่ทดลองการสแกนใบหน้าทำได้รวดเร็ว การปลดล็อคก็ได้ทุกมุม ไม่ว่าจะหมุนเครื่องเป็นแนวนอนก็ไม่มีปัญหา และยังมีระบบตรวจสอบใบหน้าอัตโนมัติ ถ้ามีหน้าคนอื่นโผล่มาด้วยเราสามารถตั้งค่าให้มันล็อคเครื่องเลยก็ได้ เรียกว่าถ้ามีคนมาแอบดูหน้าจอไปพร้อมกับเรามันก็จะล็อคทันที อันนี้เจ๋ง!

อ้อ เจ้าชุดเซนเซอร์นี้นยังทำหน้าที่ในการควบคุมการหมุนหน้าจอด้วย โดยมันจะตรวจสอบลักษณะของดวงตาเราว่าดูในแนวไหนอยู่ แล้วจะหมุนหน้าจอตามไปแบบอัตโนมัติ ส่วนของการสแกนนิ้วบนหน้าจอก็ทำได้รวดเร็วตามมาตรฐานครับ

 

ระบบเสียง

หลังจากที่ Huawei เลือกฝังลำโพงสนทนาเอาไว้หลังจอภาพแล้ว พลังของลำโพงสเตอริโอที่กระหึ่มก็ได้หายไป ตั้งแต่ P30 Pro ก็โดนบ่นไปรอบนึงแล้ว Mate 30 Pro ก็อาการเดียวกันครับ มีเพียงลำโพงโมโนที่ท้ายเครื่องตัวเดียวเท่านั้น

 

แบตเตอรี่

ยังคงเป็นเรือธง Android ที่แบตอึดสุดเหมือนเดิม และก็ยังเป็นรุ่นที่เน้นการ kill service เพื่อประหยัดพลังงานมากสุดเช่นกัน LINE Lite ผมไม่เคยเด้งแจ้งเตือนเลย ดีเลย์ไปหลายนาที เช่นเดียวกับ Messenger ที่เด้งช้ากว่าเครื่องข้างๆ กัน หรือบางทีก็เงียบสนิทจนต้องเปิดเครื่องดูถึงรู้ว่ามีข้อความมา

 

กล้อง Huawei  Mate 30 Pro

ขอเริ่มจากกล้องหน้าก่อนละกันนะครับ อันนี้ในโหมดกล้องถ่ายภาพปกติระยะเลนส์กว้างดี ถ่ายภาพเซลฟี่ วีฟี่ กันหลายๆ คนได้ ไม่ต้องเบียด มีเอฟฟเฟคบิวตี้และเบลอฉากหลังมาให้หลากหลายรูปแบบ และยังมีโหมดเซลฟี่กลางคืนในที่แสงน้อยด้วย

ส่วนโหมดการถ่ายวิดีโอของกล้องหน้าถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD 30fps เท่านั้น มีลูกเล่นเอฟเฟคเป็นการแต่งสี และ AI HDR ไม่มีโหมดวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ และหากเปิดบิวตี้ไปด้วยจะเกิดอาการหลอนๆ นิดๆ เพราะภาพในกล้องจะดีเลย์กว่าปกติ

กล้องหลังของ Mate 30 Pro นั้นถือว่าครบเครื่องกว่าเยอะมาก ด้วยพลังของ Super Sensing 40MP + Ultra-wide Cine 40MP หลักๆ ที่เห็นคือภาพและสีสันของเซนเซนเซอร์ RYYB นั้นมีการแก้ไขเรื่องสีมาแล้ว ดูดีและเป็นธรรมชาติขึ้น (เหมือนคนที่ใช้ P30 Pro บอกยังไม่แก้ของเดิมเลย ยังไงฝากไปอัพให้ด้วยนะครับ)

โหมดแสงน้อยยังเทพเหมือนเดิม รอบนี้สามารถดันทั้ง ISO ของกล้องถ่ายภาพและกล้องวิดีโอไปได้สูงสุดๆ ในฝั่งมือถือแล้ว ส่วนโหมดสโลโมชั่นก็สูงสุดที่ 7680fps (ถามมาแล้วเค้าบอกใช้ AI ช่วยจาก 960fps > 7680fps) ตัวอย่างคลิปวิดีโอยังไงรอรีวิวทาง YouTube นะครับ น่าจะขึ้น 1-2 วันนี้

Play video

บทสรุป

Huawei Mate 30 Pro ยังเป็นมือถือเรือธงที่ครบเครื่องทั้งสเปคของชิปเซ็ต วัสดุ งานประกอบ มีพร้อมหมดทั้งความหรูหรา พรีเมี่ยม แรง เรียกได้ว่าไม่แพ้ใคร แต่สิ่งที่ขาดหายไปอย่าง GMS นั้นมันกระทบการใช้งานของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันพอสมควรเลยทีเดียว เหมือนกับหลายๆ คนเข้ามาเม้นท์กันว่าเหมือนกลับไปใช้ Windows Phone อย่าง Nokia Lumia ที่ hardware เทพไม่แพ้ใคร แต่ไม่มีแอปใดๆ ให้โหลดเหมือนชาวบ้าน ซึ่งโดยรวมแล้วสถานการณ์ของ Mate 30 Pro ยังดีกว่ามาก เพราะแอปโซเชียลดังๆ ที่อิตในบ้านเรานั้นไม่ขาดหาย แต่บริการหลายๆ อย่างที่ตอนนี้ย้ายมาบนมือถือทั้ง ช้อปปิ้ง ออนไลน์แบงกิ้ง นั้นยังมาไม่ครบหมดใน AppGallery แล้วไหนจะเรื่องของเกมต่างๆ อีก ซึ่งประเด็นนี้ก็ต้องรอดูความเร็วในการผลักดัน HMS ของ Huawei ว่าจะเกิดได้เร็วแค่ไหน เพราะจากจุดนี้ผมเองก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรกับเครื่องที่อยู่ในมือผมต่อไปดี..

แถมท้าย side story

ทีมงานอีกคนที่ไปสอย Mate 30 Pro มาพร้อมกัน หลังจากฝืนใช้ HMS ไปหนึ่งวัน เค้าทนไม่ไหว ลง GMS ไปตั้งแต่วันที่ 2 แล้วครับ ซึ่งมันก็สามารถใช้งานได้ 98%-99% นะครับ เพราะจากที่หลายๆ คนในกรุ๊ปหลังจากลง GMS ไปแล้วก็เจอปัญหาหลักๆ คือ

  • LINE ไม่สามารถแชร์โลเคชั่นได้
  • พวก Widget หลายๆ ตัวมีอาการเอ๋อ โหลดข้อมูลไม่ขึ้น
  • แอป Google บางทีจะค้นหาข้อมูลตัว Keyboard ไม่เด้งขึ้นมาให้พิมพ์ ให้สั่งด้วยเสียงเท่านั้น

ก็ขอปิดการ รีวิว Mate 30 Pro ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานจริงเป็นหลักว่าต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง หลังการขาดหายไปของ Google Service เอาไว้เท่านี้นะครับ ขออภัยที่อาจจะเลทนิดๆ กว่าจะเสร็จจริงๆ ก็เลย 3 วัน มาปิดจบได้ในวันที่ 4 ครับผม