Infinix NOTE 11s ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ (เกือบเท่าไซส์แท็บเล็ต) รีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตสายเกมมิ่ง Helio G96 จาก MediaTek กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh แถมชาร์จไวให้อีก 33W ว่าแต่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันครับ

หาจุดเด่นยากจริง ๆ สำหรับ Infinix NOTE 11s เพราะทางค่ายถือว่าอัดสเปคมาให้แบบจัดเต็ม เพราะเด่นไปซะทุกด้าน ทั้งที่เปิดราคามาเพียงแค่ 6,299 บาทเท่านั้น โดยเรามาทบทวนสเปคของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันเลยทีเดียวที่ด้านล่างครับ

สเปค Infinix NOTE 11s

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.95 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • ชิปเซ็ต MediaTek Helio G96
  • RAM 8GB
  • ความจุ 128GB สามารถใส่ microSD Card เพิ่มได้ 2TB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • Wide: 50MP AF
    • Bokeh: 2MP
    • Macro: 2MP
  • กล้องหน้า 16MP
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องรวมกับปุ่ม Power
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G/5G
  • เซ็นเซอร์ : G-SENSOR, E-COMPASS, GYROSCOPE, LIGHT SENSOR, PROXIMITY SENSOR
  • ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W

แกะกล่องเช็คของและสำรวจตัวเครื่อง

นอกจากจะมีตัวเครื่อง Infinix NOTE 11s อยู่ในกล่องแล้ว ทางบริษัทฯ ยังมีการแถมเคสใส สาย USB-C หนึ่งเส้น และหัวชาร์จความไว 33W มาให้ด้วย เรียกว่าจัดว่าให้แบบเต็มที่จริง ๆ แทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม

หน้าจอของ Infinix NOTE 11s ให้มาขนาดใหญ่แบบสะใจจริง ๆ ที่ 6.95 นิ้ว คืออีกนิดก็แทบจะเป็นแท็บเล็ตได้แล้วอะ มีการเจาะรูเอาไว้ตรงกลางสำหรับใส่กล้องหน้า

ด้านขวามือจะมีปุ่ม Power ที่ควบรวมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังเอาไปด้วย และปุ่มเพิ่ม – ลดเสียง

ส่วนฝั่งซ้ายมือจะมีเพียงแค่ถาดใส่ซิมเท่านั้น เป็นแบบ Triple Slot ใส่ได้สองซิมพร้อมกัน และเพิ่ม microSD Card ได้อีกที

ถาดใส่ซิมมีซีลกันน้ำใส่มาให้ด้วย 

ด้านหลังของ Infinix NOTE 11s จะทำมาจากพลาสติก Texture จะด้าน ๆ หน่อย ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย ตรงนี้ตอนจับถือแอบมีลื่น ๆ นิดนึง ต้องใส่เคสเอาไว้ถึงจะถนัดมือยิ่งขึ้น โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP

หน้าจอแสดงผล 

Infinix NOTE 11s ให้หน้าจอชนิด IPS LCD ขนาด 6.95 นิ้ว ใหญ่มาก ๆ ดูอะไรชัดเต็มตาสุด ๆ ขอบจอบาง (ยกเว้นขอบล่างที่หนากว่าส่วนอื่นๆ) มีการเจาะรูเอาไว้ตรงกลางสำหรับใส่กล้องเซลฟี่เอาไว้ถ่ายภาพสวย ๆ เท่ ๆ

หน้าจอมีความสว่างมากพอที่จะสามารถนำไปใช้งานในสถานที่แดดจัด ๆ ได้แบบสบาย ๆ รวมถึงมีฟีเจอร์ Eye Care ที่จะเข้ามาตัดแสงสีฟ้าที่เป็นอัตรายต่อสายตาเราออกไป แต่ข้อเสียก็คือจอมันจะออกอมเหลืองหน่อย ซึ่งตรงนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล แต่ส่วนมากผมมักจะชอบเปิดแค่เฉพาะตอนเล่นมือถือในห้องมืด ๆ ตอนกลางคืนเท่านั้น

แม้ว่าหน้าจอของ Infinix NOTE 11s จะมีความละเอียด Full HD+ แต่เมื่อนำไปเช็คกับแอป DRM Info พบว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถเข้ารหัส Security Level ของ Widevine CDM ได้แค่ระดับ L3 เท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่สามารถรับชมหนังและซีรีส์บน Netflix ได้แบบ HD นั่นเอง

Infinix NOTE 11s มีฟีเจอร์ Eye Peak กันไม่ให้คนอื่นมาส่องหน้าจอของเราใส่มาให้ เลื่อนซ้ายขวาปรับความเข้มข้นได้ว่าจะให้มืดระดับไหน ขวาคือมืดสุด อันนี้ไม่ได้กันแค่คนอื่นนะ เราก็มองไม่เห็นส่วนถมดำนั้น ๆ ด้วย > <

อัตรารีเฟรชเรทของ Infinix NOTE 11s ให้มาที่สูงสุด 120Hz ปรับเป็นแบบ Auto ได้ ให้ระบบจัดการเองว่าคอนเทนต์ไหนควรแสดงผล 60Hz หรือ 120Hz เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงสุดและเป็นมิตรกับแบตเตอรี่มากที่สุด แต่จากที่ลองใช้งานมา ต้องบอกตามตรงว่า จอ 120Hz ของ Infinix NOTE 11s นี้ ยังไม่ค่อยลื่นตาเท่าไหร่ (แต่ก็ยังลื่นกว่ามือถือจอ 60Hz ทั่ว ๆ ไป)

ประสิทธิภาพตัวเครื่องและการใช้งานทั่วไป  

Infinix NOTE 11s ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Helio G96 จาก MediaTek สามารถทำคะแนนเมื่อทดสอบกับแอป Geekbench ไปได้ 517 แต้มแบบ Single-Core และ 1665 แต้มแบบ Multi-Core

และเมื่อทดสอบกับแอป AndroBench ก็จะพบว่าหน่วยความจำของ Infinix NOTE 11s สามารถทำคะแนนได้ตามภาพด้านล่างเลยครับ

การทดสอบกับแอป GPS Test ตรงนี้ Infinix NOTE 11s ทำได้ดีมาก ๆ จับดาวเทียมได้กว่า 35 ตัว และมีความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งบวกลบเพียงแค่ 1 เมตรเท่านั้น เอาไปใช้นำทางกับแอป Google Maps อะไรแบบนี้ได้สบาย ๆ

การใช้งานทั่วไปของ Infinix NOTE 11s ถือว่าทำผลงานออกมาได้แบบเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าชิปเซ็ตจะไม่ใช่ตัวแรงตัวท็อปอะไร แต่การเล่นโซเชียล ฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ ไม่มีอาการกระตุกหรือแล็คถามหาเลยครับ ลื่น ๆ ใช้งานมาสัปดาห์นิด ๆ แล้ว ยังไม่เจอกับอาการค้างอะไร

ฟีเจอร์ที่ส่วนตัวชอบมาก ๆ คือ App Shortcut ที่เลื่อนตรงขอบหน้าจอจะซ้ายขวาก็ได้ ระบบก็จะขึ้นแอปที่เราใช้งานบ่อยที่สุดมาให้ อันนี้สามารถปรับแต่งได้ด้วยอีกว่าจะเอาแอปไหนขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นแอปที่เราเปิดบ่อย ๆ เสมอไป

อย่างไรก็ตาม อย่างนึงที่ต้องติก็คือ UI ของ Infinix NOTE 11s มีแอป Bloatware ติดตั้งมาค่อนข้างเยอะ แต่ยังดีที่บางแอปสามารถถอนการติดตั้งทีหลังได้

ส่วนเรื่องการเล่นเกม สามารถปรับกราฟิกได้เกือบสุดทุกด้าน แถมเมื่อเอาไปเล่นจริงก็เล่นได้ลื่น ๆ ไม่มีกระตุก แม้ตอนบวกกันเยอะ ๆ แต่ติดตรงที่ RoV จะปรับเฟรมเรทได้สูงสุดเพียงแค่ 30FPS เท่านั้น

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

แต่เรื่องการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ส่วนตัวผมผิดหวังมาก ๆ เพราะต้องแตะนิ้วหลายรอบมากกว่าระบบจะปลดล็อคหน้าจอให้ คือมันต้องกดแรง ๆ อะ ตัวเซ็นเซอร์ถึงจะยอมสแกนให้ แตะเฉย ๆ เหมือนมันจะจับผิด ๆ ถูก ๆ

ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ

ในด้านของลำโพงนั้น Infinix NOTE 11s อัดมาให้แบบจัดเต็ม เป็นลำโพงคู่แบบสเตอริโอ เสียงดังกระหึ่ม แถมเวลาเปิดเต็มแม็กซ์ 100% ก็ไม่รู้สึกว่าลำโพงมันแตกหรืออะไรแต่อย่างใด แต่เรื่องของเสียงก็จะได้ความดังเป็นหลัก

กล้องถ่ายภาพ 

Infinix NOTE 11s มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 50MP, กล้อง Bokeh สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ 2MP และกล้องตัวสุดท้ายเป็น Macro ความละเอียด 2MP ว่าแต่เวลาเอามาใช้งานถ่ายภาพจริง ๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูภาพตัวอย่างด้านล่างได้เลยครับ

ภาพตัวอย่างจาก Infinix NOTE 11s 

ภาพตัวอย่าง Night Mode จาก Infinix NOTE 11s 

แบตเตอรี่ 

ต้องบอกว่าแบตเตอรี่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ Infinix NOTE 11s ที่ผมประทับใจมาก ๆ เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว ใช้งานทั่วไป เล่นแอปโซเชียล ท่องเว็บ ฟังเพลง ฯลฯ พบว่าแบต 5000 mAh สามารถอยู่ได้ 2 – 3 วัน อย่างไรก็ตาม อันนี้ต้องบอกนิดนึงว่าผมเป็นคนไม่เล่นเกม ถ้าเล่นเกมหนัก ๆ หรือดู YouTube / Netflix นาน ๆ แบตก็อาจจะอยู่ได้แค่วันนิด ๆ เท่านั้น

ส่วนเรื่องระบบชาร์จไว Infinix แถมหัวชาร์จความเร็ว 33W มาให้ อันนี้ในสเปคกระดาษอาจจะดูไว แต่พอถึงเวลาเอามาชาร์จจริง ๆ ก็ไม่ได้ไวอะไรขนาดนั้น ใช้เวลาชาร์จ 0% – 100% ประมาณชั่วโมงครึ่งนิด ๆ ส่วนหนึ่งมาจากขนาดแบตเตอรี่ที่มันใหญ่ถึง 5000 mAh นั่นเอง

สรุปการรีวิว Infinix NOTE 11s 

Infinix NOTE 11s ถือเป็น (หนึ่งใน) สมาร์ทโฟนที่มีสเปคค่อนข้างครบรุ่นหนึ่งในย่านราคา 6,000 บาท ทั้งหน้าจอ Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz กล้องหลังสามตัว 50MP ลำโพงคู่สเตอริโอ แบตเตอรี่ 5000 mAh แต่พอถึงเวลาใช้งานจริง ๆ มันก็อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ทั้งเรื่องเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่แอบมีอ๋อง ๆ อยู่หน่อย เน็ตฟลิกซ์ดูได้แค่ SD เท่านั้น ไม่ใช่ HD หรือจอ 120Hz ที่ส่วนตัวมองว่าไม่ได้ลื่นอะไรขนาดนั้น เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่น ๆ (แต่ก็ดีสุดในย่านราคานี้อยู่ดี)

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากค่าตัวเครื่อง 6,299 บาท ผมมองว่ารุ่นนี้แหละ Infinix NOTE 11s น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มตัวนึง หายากมาก ๆ ที่จะอัดสเปคมาให้ขนาดนี้ในย่านราคาเท่านี้

Play video