Infinix ได้เปิดตัว Note 30 Series ซึ่งรุ่นที่เราได้มาลองนั้น ก็คือ Infinix NOTE 30 5G คอลเลกชันพิเศษเอาใจแฟนเกมด้วยธีมตัวละครจาก ROV และเร็วแรงด้วยชิป Dimensity 6080 เล่นเกมสบาย ดูหนังไม่กระตุก กล้องหลัก 108MP ถ่ายภาพออกมาสวยละลายใจ ชาร์จไวด้วยระบบ Bypass แถมอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์อีกมากมาย ราคาเริ่มต้น 7,499 บาท

Infinix Note 30 5G มาในธีมตัวละคร Bright สกิน Hack Trasher สุดเท่ แกะกล่องออกมาก็จะมีเคสใสและสติ๊กเกอร์ของตัวละครมาให้ ส่วนธีม UI และ Wallpaper จะมีการเปิดให้อัปเดต OTA ในช่วงกลางเดือนเป็นต้นไปค่ะ

ดีไซน์สวย ละลายใจ 

เครื่องที่เราได้มารีวิวนั้น คือสี Interstellar Blue เป็นสีฟ้าที่สวยละลายใจสุด ๆ เมื่อเข้ามาดูใกล้ ๆ เครื่อง พบว่าวัสดุมีความระยิบระยับวิ้ง ๆ เล่นกับแสงสุด มีโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมใหญ่สวยโดดเด่น ซึ่งกรอบหลังของตัวเครื่องให้ความแตกต่างทั้งตอนอยู่ในร่มและกระทบกับแสงแดด ดีไซน์สี่เหลี่ยมขอบโค้ง มีความเพรียวยาวและบาง ดูพรีเมียม ไม่ก๊องแก๊ง และกรอบหลังสัมผัสแล้วเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก ใช้งานทั่วไปก็จับได้ถนัดมือ จะถือสายโทรศัพท์ เซลฟี่หรือจะเล่นเกมยาว ๆ ก็สบาย

ส่วนรอบ ๆ ตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม – ลดเสียงและปุ่ม Power จะอยู่ที่ด้านข้างด้านเดียวกันทั้งหมด ใต้เครื่องและมีรูหูฟัง 3.5 มม.มาให้ และลำโพงอีก 2 ตัว

จอ FHD+ รีเฟรชเรทลื่นสุด 

Infinix Note 30 5G ใช้จอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใหญ่เต็มตา พร้อมรีเฟรชเรทลื่น ๆ 120Hz ความสว่างสูงสุด 580 นิต ใช้งานกลางแดดจ้าได้ไม่มีปัญหา และยังมีโหมดถนอมสายตาอย่าง Eye-Care Mode มาให้ จะเล่นเกมยาว ๆ แค่ไหนก็ไม่ปวดตาค่ะ

สเปค Infinix Note 30 5G

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Dimensity 6080
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก ISOCELL HM6 108MP (f/1.75)
    – กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
  • ระบบ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.5 x 76.5 x 8.5 มม. / 205 กรัม

ชิป Dimensity 6080 เล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ  ได้

ด้วยความที่ Infinix Note 30 5G เค้ามาในธีม ROV แน่นอนว่าจุดเด่นแรกของเจ้าเครื่องนี้ ก็คือการเล่นเกมนี่แหละ ซึ่งด้วยพลังของชิป Dimensity 6080 ที่ช่วยให้เล่นเกมได้เร็วขึ้น 20% ความถี่ ARM Cortex-A76 สูงสุด 2.4 Hz ที่ทำให้แอปตอบสนองได้เร็วขึ้นและเล่นเกมได้ลื่นขึ้น 

ซึ่งได้ทดสอบทั้งดู Netflix, Youtube ความละเอียดสูง ๆ ก็ยังดูได้ ไม่มีสะดุด และก็ได้ทำการโหลดเกมมาเล่น ซึ่งผลที่ได้มีดังนี้

ROV

ทดสอบเล่นแบบเปิดลำโพงดังสุด หน้าจอ 50% พร้อมปรับกราฟิกสูงสุด ตัวเกมสามารถปรับภาพ HD, พาร์ติเคิล และแสงว่างไปสูงสุดได้ แต่…ตัวเครื่องไม่อนุญาตปรับจอแสดงผลไปที่สูงสุดได้ค่ะ ในการทดสอบได้เปิดเล่นในโหมด Rank ก่อน ผลลัพธ์ที่ได้คือ ตีป้อม ตีศัตรูได้สบาย มีกระตุกบ้างเมื่อเล่นไปได้ 15 นาที ซึ่งได้เล่นติดต่อกัน 3 ตาใน 30 นาที ก็สามารถเล่นต่อได้ยาว ๆ จนจบ แบตเตอรี่เมื่อตอนเริ่มเล่น 59% และจบลงที่แบต 45% ลดไปเพียง 14% เท่านั้น

จากนั้นได้ทดสอบต่อที่โหมด 10 vs 10 อีก 30 นาที ซึ่งตั้งค่าทุกอย่างเหมือนกับโหมด Rank เลย ก็ยังสามารถเล่นได้จนจบ มีหน่วงบ้างตอนที่โดนรุมเยอะ ๆ และจากตอนเริ่มเล่นแบตเตอรี่อยู่ที่ 42% และจบลงที่แบต 35% ลดไปเพียง 7 % เท่านั้น ในการทดสอบความร้อนของเครื่อง พบว่าผ่านไป 15-20 นาทีตัวเครื่องเริ่มอุ่น และอุณหภูมิอุ่นคงที่ตลอดที่เล่นเกม 1 ชั่วโมง 

Genshin Impact

จากนั้นก็เปิดเล่น Genshin Impact ต่อเลย ในการทดสอบเล่นแบบเปิดลำโพงสูงสุดและความสว่างจอ 50% ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งปรับกราฟิกสูงสุดทุกอัน ซึ่งจากที่ทดลองเล่นทำเควสต่าง ๆ แบบไม่พักเป็นเวลา 30 นาที มีความหน่วงอยู่ตอนที่เล็งธนูโจมตีในเวลาที่โดนรุม แต่ก็ยังสามารถเล่นได้จนจบภารกิจ จากแบตเตอรี่ในตอนเริ่มอยู่ที่ 35% ลดเหลือ 23% ลดไปเพียง 12% เท่านั้น ส่วนอุณหภูมิคือร้อนขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่มากจนรบกวนการใช้งาน และจะไปร้อนจี๋อยู่ตรงโมดูลกล้อง 

กล้องหลัก 108MP ถ่ายภาพสวยสะดุดตา

อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้เลย ก็คือกล้องถ่ายภาพนี่แหละ โดย Note 30 5G ให้กล้องหลังมา 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 108MP (f/1.75) กล้อง Depth 2MP (f/2.4) และกล้อง AI ที่เป็นตัวช่วยถ่ายภาพออกมาสวยสด จากที่ลองใช้งานดูเหมือนว่ากล้องจะแอบติดแดงนิดหน่อย แต่ข้อดีก็คือถ่ายภาพอาหารออกมาได้สวยสดน่ากินสุด ๆ 

นอกจากนี้ ยังถ่ายภาพ Portrait เบลอหลังออกมาให้สวยละลาย ตัวบุคคลยังคมชัด ซึ่งได้ปรับค่า F ที่ F1.0, F4.0 และ F16 ผลที่ได้ออกมาก็จะเบลอประมาณนี้เลย

ในโหมดการซูม infinix Note 30 5G สามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่า ซึ่งเราได้ทำการซูมแบบ 1x, 5x และ 10x สามารถเห็นต้นใบไม้บนต้นไม้ได้ชัดเป็นใบ ๆ 

กล้องหน้า 16MP เซลฟี่ทำออกมาได้ดี ซึ่งขอเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ระหว่างถ่ายกล้องธรรมดาแบบปิด AI เพิ่มประสิทธิภาพสี กับเซลฟี่แบบ Beauty ปรับค่าไปที่ 50% ทุกอัน ภาพที่ได้ก็จะสวยเนียนเป็นธรรมชาติประมาณนี้เลย

การทดสอบการเซลฟี่ในที่แสงน้อยแบบเปิด AI ซึ่งภาพที่ได้ออกมายังรอดอยู่ถึงแม้แสงจะดรอปไป และเซลฟี่ในที่แสงรำไรก็ยังไหว แต่ว่าผิวที่ได้จะออกมาดูฉ่ำมันชัดเจน ทั้งนี้อยู่ที่ผิวหน้าแต่ละคนแล้วว่าจะดูดิวอี้ หรือดูเหมือนคนเพิ่งออกกำลังกายมา 

โหมด Super Night เก็บภาพในที่มืดได้ครบ

ภาพถ่ายกลางคืนถ่ายออกมาได้คมชัด ด้วยโหมด Super Night เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนแม้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยมาก ๆ หรือในที่มืดสุด ๆ เลยก็ถ่ายออกมาได้เห็นเป็นรายละเอียดเช่นกัน ดูจากภาพคือ ในตอนแรกแทบไม่เห็นเลยว่ามีแมวเหมียวอยู่ในดงหญ้าตรงนั้นเลย แต่กล้องสามารถจับภาพได้ค่ะ

ส่วนการใช้โหมด Super Night ในที่แสงน้อย สีก็จะมีความซีดกว่าถ่ายโหมดปกติ แต่จะเห็นเป็นรายละเอียดต่าง ๆ อย่างครบถ้วน 

ฟีเจอร์แน่น ถ่ายสนุกด้วยกล้อง AI ทั้งงานภาพและงานวิดีโอ

กล้องมีฟังก์ชันให้เลือกค่อนข้างครบ มาพร้อม AI CAM สุดฉลาด ที่สามารถปรับภาพให้ออกมาสวยชนิดที่เราแทบไม่ต้องทำอะไรเอง ไม่ว่าจะถ่ายภาพบุคคลย้อนแสง ภาพอาหารหรือถ่ายภาพวิว แต่จุดที่น่าสนใจในฟีเจอร์กล้องก็คือการปรับ Beauty นี่แหละ สำหรับใครที่ไม่ได้แต่งหน้าแต่อยากเซลฟี่กับเพื่อน ทางโหมด Beauty เค้าก็มีฟิลเตอร์ Make Up ให้เรียบร้อย เลือกเลยว่าอยากจะแต่งหน้าแบบไหน โทนอะไร และที่ชอบสุด ๆ คือ เวลาที่เราใช้โหมดนี้ถ่ายรูปกับเพื่อน มันจะแยกการปรับแต่งให้ ซึ่งถ้าเพื่อนเราเป็นผู้ชายก็จะไม่มีขนตา หรือปากแดงโผล่มา

ในงานวิดีโอก็ทำออกมาได้ดี ภาพคมชัดทั้งวิดีโอแบบกลางวันและกลางคืน แต่ด้วยความที่กล้องไม่ได้มีกันสั่นมาให้ เวลาถ่ายวิดีโอตอนเดินจึงมีความสั่นไหวอยู่ตามปกติ 

Play video

Play video

สำหรับวิดีโอแบบ Portrait ก็ปรับเบลอมาให้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องเดินเข้าไปใกล้บุคคลที่ถ่ายในระยะเมตรครึ่งถึงจะเบลอให้ ส่วน Portrait แบบวิดีโอเซลฟี่ก็ออกมาดีเช่นกัน และถึงแม้จะอยู่ร่วมเฟรม 2 คน ก็เบลอให้เช่นกันค่ะ

Play video

 

นอกจากนี้ ยังมีโหมด Film ถ่ายวิดีโอสนุก เหมือนถ่าย MV อยู่ทุกที่ มีให้เลือกทั้งถ่ายวิดีโอวินเทจ, ภาพเคลื่อนไหว, วิดีโอปาร์ตี้, การเดินทาง, ครอบครัว, การจราจร, จังหวะ, กีฬา, งานเลี้ยง ฯลฯ เพียงแค่เลือกกดถ่ายเท่านั้น วิดีโอก็จะตัดต่อและใส่เพลงมาให้ พร้อมอัปลงโซเชียล

Play video

ลำโพงคู่ JBL Hi-Res

infinix Note 30 5G ได้ร่วมจับมือกับ JBL ที่จะมาช่วยปรับจูนเสียง มาพร้อมกับลำโพงคู่อยู่ในตำแหน่งด้านบนและด้านล่างของเครื่อง ให้เสียงดังกังวาน ซึ่งจากการทดสอบเปิดเสียงสุดวางเครื่องไว้ในห้องและเดินออกมาระยะห่าง 3 เมตร ก็ยังได้ยินเสียงอยู่ ตอนที่ดูหนังฟังเพลงด้วยเสียงระดับกลาง ก็พบว่าเสียงดีตามสไตล์ของ JBL คือเสียงใส ๆ ชัดเเจ๋ว

แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จไว 45W มีระบบ Bypass 

นอกจากจะให้แบตมาเยอะแล้ว ตัวเครื่องยังมาพร้อมจุดเด่นระบบชาร์จ Bypass ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่จ่ายไฟเข้าเครื่องโดยตรงแบบไม่ผ่านแบต ทำให้เครื่องไม่ร้อนในเวลาที่เล่นมือถือขณะที่ชาร์จแบตไปด้วย แถมยังเป็นการถนอมแบตไปในตัวด้วย นอกจากนี้ ยังรองรับ PD 3.0 สามารถใช้อแดปเตอร์อื่นชาร์จได้สูงสุด 35W

ด้านความอึดของแบตเตอรี่ จากที่ชาร์จเต็ม 100% ก็ได้นำมาใช้งานทั่วไป ทั้งดูหนัง เล่นเกม ด้วยการเปิดแสงจอ 50% และลำโพง 50% แล้วก็มีออกไปถ่ายรูปบ้าง โดยใช้งานรวมในระยะเวลา 23 ชั่วโมง พบว่างานแบตเตอรี่ลดไป 50% เท่านั้น จากนั้นก็ใช้งานสแตนด์บายเครื่องไว้ตอบข้อความ ดูคลิปใน Tiktok บ้าง ยาว ๆ ถึง 1 วัน 6 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดเหลือ 35% และสามารถชาร์จไวด้วยความเร็ว 45W ชาร์จจากแบตเตอรี่ 15% – 50% ในเวลาเพียง 30 นาทีค่ะ 

การใช้งานแบตเตอรี่เมื่อผ่านไป 23 ชั่วโมง

การใช้งานแบตเตอรี่เมื่อผ่านไป 1 วัน 6 ชั่วโมง

สรุปการใช้งาน

Infinix Note 30 5G ทำออกมารองรับการใช้งานทุกรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ถ่ายรูป แอปโซเชียลต่าง ๆ, ดูหนังฟังเพลง YouTube, Tiktok, Netflix ตลอดจนเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ซึ่งถือว่ารุ่นนี้เป็นอีก 1 มือถือระดับกลางตัวคุ้ม ที่ให้ฟังก์ชันมาคุ้มราคาจริง ๆ เหมาะกับทุกกลุ่มการใช้งานเลย ทั้งวัยรุ่น วัยทำงานที่เป็นสายเกม สายถ่ายรูป หรือสายคุ้มที่ต้องการใช้มือถือ 5G แรง ๆ แต่ราคาไม่สูง แถมชาร์จไว เสียบสายแปปเดียวก็พร้อมลุยงานต่อได้สบาย ตอบโจทย์ชีวิตในยุคเร่งรีบแบบนี้สุด ๆ

ข้อดี

  • ฟังก์ชันครบในราคาประหยัด
  • ตัวเครื่องจับถนัดมือ
  • ถ่ายรูปสวย
  • ฟีเจอร์ถ่ายรูปให้มาครบ
  • สุดยอดโหมดถ่ายภาพกลางคืน
  • เล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ได้ เครื่องไม่ร้อนจี๋
  • ฟังก์ชันชาร์จแบตจัดเต็ม
  • ลำโพงเสียงใส
  • วัสดุเครื่องทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยาก

ข้อสังเกต

  • กล้องถ่ายภาพออกมาติดโทนแดงนิดหน่อย
  • ใครเป็นสายใช้งานกลางแจ้งจ๋า อาจรู้สึกว่าจอให้ความสว่างน้อยไปหน่อย

ราคาจำหน่าย 

Infinix Note 30 5G นำเข้ามาจำหน่ายในไทย 2 สี คือ Magic Black และ Interstellar Blue เปิดตัวมาในราคาและรุ่นความจุดังนี้

  • 8GB + 128GB ราคา 7,499 บาท
  • 8GB + 256GB ราคา 7,999 บาท

Play video