ใครที่เป็นสายเกมมือถือตัวจริง และอยากได้มือถือสเปคโหด ๆ พร้อมฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ แถมยังมีดีไซน์ดุดันแบบเห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าไม่ใช่มือถือธรรมดา ๆ แน่นอน…วันนี้เรามีรุ่นเด็ด ๆ สเปคโหด ๆ อย่าง Lenovo Legion Phone Duel 2 มารีวิวให้ดูกันเต็ม ๆ ไปเลยว่ามันจะแรงขนาดไหน จะเทพขนาดไหน แล้วพวกฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ให้มาจะช่วยให้เล่นเกมดีขึ้นได้ยังไงครับ

สเปค LENOVO LEGION PHONE DUEL 2

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.92 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 144Hz
  • CPU : Snapdragon 888
  • GPU : Adreno 660
  • RAM (LPDDR5) : 12GB / 16GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (f/1.9)
    – กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16MP (f/2.2)
  • กล้องหน้าป๊อปอัพ : 44MP (f/2.0)
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอคู่ด้านหน้าแบบแม่เหล็ก 7 ชิ้น, Dolby Atmos, ไมโครโฟน 4 ตัว พร้อมระบบลดเสียงรบกวน, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint sensor (ใต้จอ), 3D Motion Sensor, E-Compass, Gyroscope, Proximity, Ambient Light, Quad Ultrasonic Shoulder keys, Dual Capacitance keys, Dual Force Touch Sensor
  • แบตเตอรี่ : 5500 mAh (2750 mAh 2 ก้อน) รองรับชาร์จไว 90W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย ZUI 12.5
  • ขนาด / น้ำหนัก : 176 x 78.5 x 9.9 มม. (12.56 มม. กลางเครื่อง) / 256 กรัม

มีอะไรในกล่องบ้าง

Legion Phone Duel 2 มาในกล่องสี่เหลี่ยมดำทะมึนพร้อมโลโก้ Legion แปะอยู่ด้านหน้า เมื่อเปิดมาก็จะเจอกับตัวมือถือพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเคสพลาสติกใส, ตัวแปลง USB-C > 3.5 มม., ที่ชาร์จ 90W แบบ 2 พอร์ต, สาย USB-C จำนวน 2 เส้น…ให้มาทำไมตั้ง 2 เส้น??? เอาไว้เดี๋ยวจะบอกอีกทีครับ

ดีไซน์ตัวเครื่องไม่ธรรมดา

Legion Phone Duel 2 มองแค่แว้บเดียวก็รู้เลยว่ามันไม่ใช่มือถือธรรมดา ๆ แน่นอน ด้วยดีไซน์แบบเกมมิ่งจ๋า ตัวเครื่องด้านหลังที่มีตรงกลางนูนขึ้นมา, มีไฟ RGB เป็นโลโก้ Legion, พัดลมระบายอากาศ และกล้องหลังที่แหวกแนวสุด ๆ เพราะมาอยู่ตรงกลางเครื่องหมดเลยทั้ง 2 ตัว + แฟลชอีกดวง

บริเวณขอบเครื่องตรงกลางที่นูนออกมายังเป็นปุ่มสัมผัสไว้ใช้ในการเล่นเกมได้อีก

ขอบเครื่องด้านขวามีปุ่ม Power ที่ซ่อนกล้องป๊อปอัปเอาไว้ด้วย ซึ่งการออกแบบโดยให้กล้องเซลฟี่มาอยู่ด้านข้างแบบนี้ก็เพราะว่ามันเน้นใช้ในการแคสท์เกมนั่นเอง เวลาจับเครื่องเล่นเกมแนวนอนแล้วกล้องก็จะได้มุมตรงหน้าพอดี

ปุ่ม Power อยู่บนกล้องเซลฟี่

ส่วนตรงหัวกับท้ายของขอบเครื่องด้านซ้ายจะมีปุ่มสัมผัส L1, L2, R1, R2 สำหรับเอาไว้ใช้ในเกมต่าง ๆ

ขอบเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB-C และถาดใส่ซิม ขอบเครื่องด้านซ้ายก็มีปุ่มปรับเสียง กับพอร์ต USB-C อีก 1 พอร์ต ไม่ต้องงว่าให้มาทำอะไรถึง 2 พอร์ต…เพราะมันเอาไว้เสียบชาร์จพร้อมกันกับสาย USB-C ที่ให้มา 2 เส้น กับหัวชาร์จที่มี 2 พอร์ต เพื่อเร่งพลังชาร์จสูงสุด 90W นั่นเอง

หน้าจอที่มีขอบไม่บางซักเท่าไหร่แม้ว่าจะไม่ต้องเว้นที่เอาไว้วางกล้องเซลฟี่แล้ว แต่จริง ๆ ตือเหลือที่เอาไว้สำหรับวางลำโพงสเตอรีโอ 2 ตัว บน-ล่างนั่นเอง ดีไซน์โดยรวมและการจับใช้งานบอกตรง ๆ ว่าไม่ค่อยเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป (ซึ่งแน่นอน เพราะมันออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ) เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และหนา (มาก) แถมน้ำหนักก็ไม่ใช่เล่น ๆ ตั้ง 256 กรัม เวลาพกใส่กระเป๋ากางเกงถ้าไม่ใช่กระเป๋าฟิต ๆ เวลาเดินหรือวิ่งนี่แกว่งตีขาปุ้กปั้ก ๆ กันเลย

หน้าจอรีเฟรชเรทสูง 144HZ

Legion Phone Duel 2 มีหน้าจอขนาดใหญ่ยักษ์ถึง 6.92 นิ้ว ใช้พาเนลแบบ AMOLED ให้สีสันที่สดใสและสว่างสู้แดดได้สบาย ๆ แบบไม่ต้องห่วงเลย ความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ ดูหนัง HD จาก Netflix ได้ไม่มีปัญหา

ส่วนจุดเด่นคือรีเฟรชเรทที่สูงปรี๊ดถึง 144Hz เพิ่มความลื่นไหลให้กับหน้าจอเวลาไถฟีด หรือไถหน้าเว็บต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี หรือหากเล่นกับเกมที่รองรับรีเฟรชเรทสูง ๆ ด้วย จะยิ่งเนียนตามากจนไม่อยากกลับไปใช้มือถือหน้าจอรีเฟรชเรทต่ำกว่านี้เลยล่ะ

แต่แน่นอนว่ารีเฟรชเรทยิ่งสูงมันก็ยิ่งกินแบตเตอรี่มากตามไปด้วย หากใครไม่ได้ต้องการความเนียนมากมาย แต่ต้องการให้ใช้งานได้นาน ๆ ก็เข้าไปเลือกปรับรีเฟรชเรทได้ มีให้เลือกทั้ง 60 / 90 / 120 / 144Hz หรือจะเปิดระบบ Smart high refresh rate เอาไว้ให้มันเปลี่ยนเองอัตโนมัติเวลาเข้าเกมที่รองรับรีเฟรชเรทสูงก็ได้

สเปคแรงสูงเล่นได้ทุกเกม

ด้วยขุมพลัง Snapdragon 888 ทำให้ Legion Phone Duel 2 สามารถเล่นเกมในปัจจุบันได่ทุกเกมอย่างไม่มีปัญหา จะปรับกราฟิกขั้นสุดก็ตามสบาย ไม่ว่าจะเป็น ROV, LOL, PUBG, Genshin Impact,  MARVEL Future Revolution เรียกว่าจะเกมอะไรก็มาเถอะ…ไม่ต้องพูดกันให้เยอะเลย

ฟีเจอร์สำหรับเล่นเกม

เนื่องจากมันเป็นมือถือเกมมิ่ง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยเพราะจัดฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมมาให้แบบแน่นเอี้ยด เล่นเกมสนุกกว่ามือถือทั่วไปแน่นอน โดยเมื่อเราเข้าเล่นเกมอะไรก็ได้ เมื่อลากขอบจอด้านบนลงมาก็จะเจอกับเมนู การตั้งค่าเกมต่าง ๆ ให้เราเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มพิเศษ ที่มีให้ตั้ง 6 ปุ่ม, กล้องเซลฟี่พร้อมโหมดแคสท์เกมที่เปลี่ยนหน้า + พื้นหลังได้, การปรับค่าประสิทธิภาพเครื่องต่าง ๆ ให้แรงจัด, เปิด-ปิดพัดลม หรือจะเป็นไฟ RGB ที่ปรับแต่งการกระพริบได้ตามชอบ (ไม่ได้ช่วยอะไรเกี่ยวกับการเล่นเกมเลย แต่เพื่ออารมณ์เกมเมอร์ล้วน ๆ)

ไฟ RGB

มือถือเกมมิ่งรุ่นไหนไม่มีฟีเจอร์นี้มาให้เรียกว่าเสียชาติเกิดกันเลยทีเดียว โดย Legion Phone Duel 2 สามารถเลือกปรับสีและจังหวะกระพริบของไฟ RGB ได้ทั้งตรงที่เป็นโลโก้ Legion และตรงพัดลมระบายอากาศด้วย

พัดลมระบายอากาศในตัว

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัวเครื่อง Legion Phone Duel 2 มีขนาดใหญ่ และนูนขึ้นมาตรงกลางก็เพราะว่ามันมีพัดลมระบายอากาศมาให้ถึง 2 ตัว (อยู่ด้านในตัวนึง กับโชว์อยู่ด้านนอกอีกตัวนึง) โดยเราสามารถปรับโหมดพัดลมเองได้ระหว่าง Quiet Mode, High-Speed Mode, Auto Mode และปิดไปเลย

พัดลมระบายอากาศจะทำงานอัตโนมัติ (ยกเว้นถ้าเลือกปิดไปเลย) เมื่อเครื่องมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากการใช้งานหนัก ๆ หรือแม้แต่ตอนชาร์จแบตเตอรี่ด้วยสาย USB-C ทั้ง 2 เส้นพร้อมกัน ทำให้เครื่องทำงานได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงชาร์จไฟได้แบบเต็มกำลังด้วย

พัดลมระบายอากาศก็มีไฟนะ

ปุ่มพิเศษสำหรับเล่นเกมทั้งหมด 8 ปุ่ม

ถูกใจเกมเมอร์กันแน่นอนสำหรับฟีเจอร์ปุ่มพิเศษสำหรับเล่นเกม เพราะนอกจากจะมีปุ่ม L1 / L2 / R1 / R2 ที่อยู่ตรงขอบเครื่องให้เราสามารถตั้งค่าได้ว่ากดปุ่มเหล่านั้นแล้วจะเท่ากับการกดหน้าจอตรงไหน อย่างเช่นตั้งให้ปุ่ม L1 เป็นปุ่มเล็ง, R1 เป็นปุ่มยิง เป็นต้น

นอกเหนือจากปุ่ม L R ด้านบนแล้ว ตรงด้านหลังเครื่องบริเวณขอบของส่วนที่นูนออกมา ยังเป็นปุ่มสัมผัส M1 / M2 ให้ใช้ได้อีก (ต้องเข้าไปที่เมนู Y-Trigger เพื่อตั้งค่า M1 / M2 ShortCut ให้กลายเป็น Y-Triggers ก่อน)

และถ้ายังไม่พอใจ ก็สามารถตั้งค่าให้บริเวณหน้าจอด้านซ้ายขวากลายเป็นปุ่ม Force Touch ที่มี L3 กับ R3 ได้อีก รวมแล้วกลายเป็น 8 ปุ่มเลยทีเดียว (ใช้หมดทุกปุ่มมั้ยไม่รู้ แต่มีเยอะเอาไว้ก็ดี 555)

กล้องเซลฟี่ป๊อปอัพ ด้านข้าง พร้อมเอฟเฟ็คท์สำหรับสายแคสท์

กล้องเซลฟี่ของ Legion Phone Duel 2 มีความละเอียดสูงถึง 44MP ซึ่งหากว่าตอนที่เราเล่นเกมแล้วอยากจะไลฟ์ให้คนอื่นได้ดูไปด้วย ก็ให้เปิด Stream Mode เพื่อยืดกล้องขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะไลฟ์ผ่าน YouTube หรือ Twitch นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเกร๋ ๆ อย่างเช่นหน้ากาก AR, ตัว Avatar ที่เราสร้างไว้ หรือจะลบฉากหลังออกให้เหลือแต่หน้าของเราก็ได้

ใส่ AR ได้ ตัดฉากหลังได้

แต่หากใครที่อยากจะถ่ายเซลฟี่ทั่วไป อาจจะต้องปรับความเคยชินกันซะก่อน เนื่องจากกล้องมันอยู่ในแนวนอนนั่นเอง ถ้าจะถ่ายเซลฟี่แบบแนวตั้งก็จะต้องถือเครื่องให้มันต่ำลงมาหน่อย (กลัวหลุดมือ)

กล้องหลัง

แม้ว่า Legion Phone Duel 2 จะเป็นมือถือที่เกิดมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่กล้องหลังก็ไม่ได้แย่ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและถ่ายวิดีโอเลยนะ ซึ่งมือถือรุ่นนี้มีกล้องมาทั้งหมด 2 ตัว คือกล้องหลัก 64MP และกล้อง Ultrawide 16MP ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดระดับ 8K 24fps

แต่ (อีกแล้ว) เนื่องจากกล้องหลังทั้ง 2 ตัวของ Legion Phone Duel 2 อยู่ตรงกลางเครื่อง ทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีการถือเครื่องใหม่ คือถ้าถ่ายแนวนอนปกติอาจไม่มีปัญหา แต่หากจะถ่ายแนวตั้งก็ต้องถอยมือจับตัวเครื่องให้ต่ำลงมาจะได้ไม่บังกล้อง

สำหรับตัวอย่างการถ่ายวิดีโอเข้าไปดูกันได้ในคลิปรีวิวกันเลยจ้า

Play video

ลำโพงคู่เสียงแน่น

ลำโพงของมือถือรุ่นนี้จะอยู่ที่ขอบจอด้านบนและด้านล่าง หันหน้าเข้าหาตัวทำให้เวลาเล่นเกมแล้วมือไม่ไปบังช่องลำโพงให้เสียงอู้อี้ ซึ่งลำโพงของ Legion Phone Duel 2 บอกเลยว่าเสียงดังและทรงพลังมาก เร่งจนสุดก็เสียงไม่แตกไม่เพี้ยนเลย แถมยังมีระบบ Dolby Atmos เข้ามาช่วยเพิ่มมิติของเสียงเวลาเล่นเกมหรือดูหนังให้สมจริงมากขึ้นไปอีกด้วย…บอกเลยว่าชอบลำโพงของมือถือรุ่นนี้มาก

แบตเตอรี่ถึกทน + ชาร์จไวโหด ๆ 90W

แบตเตอรี่ของ Legion Phone Duel 2 ให้มาถึง 5500 mAh สำหรับการใช้งานทั่วไปออกนอกบ้านใช้ 5G เล่นเน็ตบ้าง เล่นเกมบ้าง ดู YouTube บ้าง พร้อมกับใช้แอปแชทอยู่เรื่อย ๆ บอกเลยว่าอยู่ได้ทั้งวันสบาย ๆ ขอทดสอบแบบโหด ๆ ด้วยการเปิด Squid Game ดูตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้าย (ใส่ซิม, ต่อ WiFi, แสงหน้าจอ 50%, ลำโพง 50%) Screen-on time ประมาณ 7 ชม. กว่า ๆ พบว่าแบตเตอรี่เหลืออยู่อีกตั้ง 24 – 25% เลยทีเดียว

ส่วนการชาร์จด้วยสายคู่ก็เร็วแบบสุด ๆ ชาร์จจาก 5% – 100% ได้ในเวลาแค่ราว ๆ ครึ่งชม. เท่านั้น แต่ตัวเครื่องก็จะมีความร้อนพอประมาณ ซึ่งพัดลมระบายอากาศก็จะเริ่มทำงานด้วย แนะนำว่าให้วางเครื่องคว่ำหน้าเอาไว้ระหว่างชาร์จ อากาศจากพัดลมจะได้ถ่ายเทครับ

นอกจากนี้ยังมากับระบบ Bypass Charge ที่เราสามารถเสียบสายชาร์จไปเล่นไปได้โดยที่เครื่องไม่ร้อน เพราะระบบนี้จะเป็นการส่งไฟเข้าเครื่องโดยตรงแบบไม่ผ่านแบตเตอรี่ก่อน ทำให้ไม่เกิดความร้อนจากการชาร์จไฟ แถมยังช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้อีกด้วย (ตอนเล่นเกมเมื่อเสียบสายชาร์จให้ลากหน้าจอด้านบนลงมาแล้วเลือกที่ Bypass Charge)

สรุป

ข้อดี

  • สเปคแรงจัดจ้าน เล่นเกมปรับกราฟิกสุดได้หมด
  • หน้าจอใหญ่สะใจ สีสันสดใส คมชัด
  • รีเฟรชเรทสูงปรี๊ด เนียนตา (ส่วนตัวปรับไว้แค่ 120Hz ก็โอเคแล้ว)
  • ฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมอัดแน่น และใช้ได้จริง
  • แบตเตอรี่อึดมาก
  • Dual Charge ไวสุด ๆ ไม่ถึงครึ่ง ชม. แบตเต็ม
  • ลำโพงเสียงดัง + เสียงดี

ข้อสังเกต

  • เครื่องใหญ่มาก หนา และหนัก
  • กล้องหลังและกล้องหน้าอยู่ในตำแหน่งแปลก ๆ ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานปกติ
  • กล้องหลังคุณภาพธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น
  • ถ่ายวิดีโอ 4K แล้วเครื่องร้อนไว
  • ถ่ายวิดีโอ 4K 60fps แล้วโฟกัสหลุดเอง (น่าจะเป็นบั๊ก)
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Lenovo Legion Phone Duel 2 เป็นมือถือที่เกิดมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว, หน้าจอขนาดใหญ่, รีเฟรชเรทสูง, ปุ่มพิเศษเพียบ, ลำโพงคู่สุดกระหึ่ม, ไฟ RGB และพัดลมระบายอากาศ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใช้งานทั่วไปอาจจะไม่สะดวกสบายกับการใช้งานมือถือที่ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากแบบนี้ แถมยังมีกล้องหลังและกล้องเซลฟี่ที่อย่ในตำแหน่งแปลก ๆ อีกต่างหาก

แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ตัวจริงที่ต้องการมือถือสเปคแรงจัด ๆ มีตัวเครื่องสุดเท่พร้อมฟีเจอร์เล่นเกมเพียบ และไม่เกี่ยงเรื่องน้ำหนัก + ขนาด บอกเลยว่า Legion Phone Duel 2 คือหนึ่งในมือถือเกมมิ่งที่จัดเต็มสุด ๆ แถมราคาก็ไม่แรงมากอีกต่างหากจ้า