เราได้เห็นหน้าจอใหญ่เต็มตาสวยๆ แบบ Waterdrop Screen กันไปก่อนหน้านี้ในรุ่น F9 ซึ่งหลายๆ คนน่าจะชอบกันเพราะติ่งหน้าจอที่เคยใหญ่โตมันหดเล็กลงเหลือนิดเดียวเท่านั้น และทาง OPPO ก็เลยเลือกใช้หน้าจอแบบนี้กับน้องใหม่ในตระกูล A อย่าง OPPO A7 ที่มาพร้อมกับ 2 สีใหม่สวยเงางาม Glaring Gold ทองอร่ามงามตา Glaze Blue น้ำเงินอมเขียวแปลกตาน่าค้นหา มาพร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ 4230 มิลลิแอมป์

ช่วงหลังๆ มานี่ OPPO เน้นเรื่องของดีไซน์และการออกแบบเป็นพิเศษ จะเห็นว่าลวดลายและสีสันตัวเครื่องนั้นแตกต่างกันออกไปหมดในทุกรุ่นที่วางขาย อย่าง OPPO A7 เองก็เลือกใช้สีทองที่แตกต่างไป และยังเสริมลายเส้นเข้าไปให้มีเอกลักษณ์ ส่วนสีน้ำเงินนั้นก็เลือกใช้โทนสีที่หากโดนแสงก็เปลี่ยนกลายเป็นเขียวไปได้แบบน่าสนใจ

แกะกล่อง OPPO A7

อุปกรณ์ในกล่องก็มีเคสใสมาให้ไม่ต้องไปหาซื้อ ฟิล์มบนหน้าจอติดมาแล้ว ไม่ต้องไปลอกออกติดใหม่ให้เปลืองเงิน สายชาร์จเป็น micro USB มาพร้อมกับหม้อแปลง 5V 2A ส่วนตัวหูฟัง small talk นี่รุ่นนี้ไม่มีแถมมาให้ (ซึ่งในตระกูล A ก็ไม่แถมอยู่แล้ว)

หน้าจอ 6.2 นิ้วใหญ่เต็มตามาก แอบกังวลเรื่องความละเอียด HD+ เหมือนกัน ว่ามันจะคมพอไหม แต่พอได้เห็นหน้าจอแบบชัดๆ แล้วขนาดเม็ดพิกเซลบนหน้าจอนั้นยังดูชัดเจนอยู่ ใครที่คิดว่ามันจะเบลอบอกเลยว่าไม่

ที่เลือกยากจริงๆ คือเรื่องของสีนี่แหละ นี่ขนาดวางคู่กันยังเลือกไม่ถูกเลย ว่าจะหยิบสีไหน เพราะมันสวยทั้งคู่เลย แล้วเทรนด์ตอนนี้ก็เหมือนสีทองกำลังจะกลับมาอีกครั้ง แต่ด้วยเฉดใหม่ออกแนวเงินๆ โครเมี่ยม ส่วนสีน้ำเงินเข้มนั้นแปลกตาจริง เรียกว่ายังไม่มีสีนี้ในตลาดมือถือให้เห็นเลย ตอนนี้เลยแอบเทใจไปให้สีนี้นิดๆ

สำรวจตัวเครื่อง OPPO A7

เริ่มกันที่หน้าจอหยดน้ำ ติ่งที่ซ่อนกล้องหน้าและลำโพงสนทนาเอาไว้ กล้องหน้ารุ่นนี้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มี AI Selfie มาให้ด้วย เรียกว่าเป็นกล้องหน้าที่ดีที่สุดในซีรีส์ A ของ OPPO ณ ตอนนี้ อ้อ และก็ใช้สแกนใบหนาปลดล็อคเครื่องได้ด้วยค่ะ

ขอบด้านข้างจะดูหนานิดนึง เพราะแบตเตอรี่ที่ให้มานั้นเยอะสะใจ 4230 มิลลิแอมป์ มีน้ำหนักนิดๆ ปุ่มต่างๆ วางมาดี แน่นหนา ไม่มีอาการโยกคลอน แต่ส่วนที่เชื่อมต่อกันของด้านหน้าและหลังนั้นลูบๆ ไปแล้วจะสะดุดอยู่นิดๆ ค่ะ ซึ่งถ้าชอบใส่เคสแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

ลำโพงถูกวางไว้ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง เสียงดังมากตามสไตล์ OPPO จากที่ลองใช้ไม่กล้าเปิดริงโทนสุดเลย คือถ้าเปิดสุดนี่คงได้ยินกันทั้งบ้าน สายชาร์จยังเป็น micro USB  ส่วนซ้ายสุดที่เห็นเบลอๆ ในภาพคือช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

กล้องหลังสวยดี ชอบ อันนี้หมายถึงส่วนที่มันทำขอบทองมานะคะ ทำให้จะบ่นเรื่องกล้องนูนก็บ่นไม่ได้ เพราะทำออกมาดูดี ความละเอียดของกล้องคู่ชุดนี้คือ 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซลที่ใช้วัดความลึกตื้นเวลาจะถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งตอนนี้เหมือนจะขาดไม่ได้กันไปแล้ว รุ่นไหนๆ ก็ต้องมีจริงๆ

ถาดซิมนั้นเป็นแบบ triple slot ใส่ทุกอย่างได้ครบ 2 นาโนซิมและหนึ่ง micro SD ระบบซิมคู่รองรับ Dual 4G รวมถึง VoLTE และ VoWiFi เป็นรุ่นเล็กแต่ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานโทรศัพท์ได้ครบทุกรูปแบบ

 

 

Color OS 5.2 บน OPPO A7

รูปแบบการใช้งานของ Color OS 5.2 นั้นก้ต้องบอกว่าเป็นการปรับปรุงระบบปละประสิทธิภาพเพิ่มเติมจากเดิมนิดหน่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทำงานในเบื้องหลัง ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นที่แล้วอย่าง Music Party และ Game Space ก็ยังมีมาให้เหมือนเดิมค่ะ

Music Party

หากมีเพื่อนๆ ที่ใช้ Color OS 5.1 ขึ้นไปเราสามารถสร้างปาร์ตี้ได้ด้วยโหมดนี้ โดยมือถือของทุกคนจะกลายเป็ยลำโพง เล่นเพลงไปพร้อมๆ กัน ลองแล้วก็เพลินดีอยู่นะ

Game Space

ส่วนที่มาเสริมให้การเล่นเกมดีขึ้น เปิดประสิทธิภาพได้มากกว่าเดิม ปิดกั้นการรบกวนจากการแจ้งเตือน และสามารถล็อคความสว่างหน้าจอได้ ไม่มีปัญหาจอวูบๆ วาบๆ ระหว่างเล่นแล้ว เย้~

Smart Sidebar

แต่ฟีเจอร์นึงที่เพิ่มเข้ามาใหม่เลยคือ Smart Sidebar ที่เราจะเห็นขอบๆ มันยื่นเข้ามาบนหน้าจอ ก่อนหน้านี้เราะจะเห็นมันซ่อนอยู่เวลาหมุนจอเป็นแนวนอน แต่ปุ่มมันดูเล็กไปสำหรับบางคนทำให้แตะลำบาก

รอบนี้เลยออกแบบมาให้ใหญ่ขึ้น พร้อมกับเพิ่มทางลัดในการเข้าแอปที่ใช้บ่อยๆ มาให้ด้วย สามารถเลิอกใช้ได้ทั้งหน้าจอแนวตั้ง หรือจะเลือกใช้เฉพาะจอแนวนอนก็ได้ค่ะ

จากหน้าจอหลัก เวลาเรียกออกมาก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้ สามารถเลือกแอปเข้าไปวางเพิ่มได้

ส่วนหน้าจอเวลาเล่นเกมก็จะลากจากด้านซ้ายของจอออกมา สามารถเปิดหน้าต่างแชทได้ ไม่ต้องออกจากเกม

 

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

คะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก Antutu และแอปต่างๆ ก็ได้ตามมาตรฐานของชิป Snapdragon 450 แต่ที่เห็นชัดคือได้คะแนน RAM สูงกว่ารุ่นน้อง A3s ที่สเปคพอๆ กัน ส่วนนึงก็น่าจะมาจาก RAM ที่เพิ่มขึ้นและ Color OS เวอร์ชั่นใหม่ ส่วนหน่วยความจำเป็น eMMC

ทดสอบ GPS รับสัญญาณได้ค่อนข้างเร็ว แต่ใช้เวลาในการเกาะนิดนึง ส่วนเซนเซอร์ต่างๆ ในการระบุทิศทางและตำแหน่งดีเลย มี Gyroscope มาด้วยครบๆ

จากที่ทดสอบ ROV มา ก็ยังลื่นได้อยู่ เฟรมเรทเฉลี่ย 27-30 ถ้าบวกหนักๆ แต่ถ้าปล่อยท่าแสดงพลังกันเยอะจริงๆ ก็อาจจะหล่นลงไปได้อีกนิด

แต่กราฟิคเปิดได้หมดเลยทั้งภาพ HD รายละเอียดต่างๆ ยกเว้นเฟรมเรทสูงที่ไม่มีให้เลือกค่ะ

ส่วนเกมที่ไม่เล่นไม่ได้แล้วและฮอตมากๆ ในตอนนี้ Ragnarok M : Eternal Love ก็เล่นได้จ้า ภาพลื่นใช้ได้ เปิดบอทตีสบายไม่มีปัญหาแน่นอน แต่เห็นมีเฟรมกระตุกเล็กๆ นานๆ ที

แต่โหมดที่เจ๋งสำหรับเกมอย่าง Ragnarok M คือใน OPPO A7 เราสามารถปิดหน้าจอได้นั่นเอง

หลังจากปล่อยบอทให้มันตีไปเรื่อยๆ แค่ผลัก Sidebar เข้ามาแล้วเลือก Play AFK มันจะเป็นการลดความสว่างหน้าจอลงแบบมืดๆ ประหยัดแบตมากกว่าเดิม ช่วยยืดเวลาในการใช้งานไปได้อีกเพราะจอมืดๆ ก็จะกินแบตน้อยลง

 

 

กล้อง OPPO A7

กล้องหลังคู่ 13MP + 2MP นั้นในโหมด Portrait นอกจากจะถ่ายคนให้หลังเบลอได้แล้ว ยังสามารถถ่ายสิ่งของต่างๆ ได้ด้วย การแยกเลเยอร์หน้าหลังทำได้ดีค่อนข้างน่าประทับใจเลยค่ะ ขอบตัดมาได้เนียน ฉากหลังดูเบลอธรรมชาติ ไม่ฝืน ยกเว้นสีใกล้กันจริงๆ จะมีปัญหานิดๆ

แต่ที่ชอบคือความคมและรายละเอียด ซึ่ง OPPO A7 นั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดี ภาพแสงน้อยยังพอมี noise ตามจุดมืดๆ หรือสีเข้มๆ เทาๆ ให้เห็นบ้าง ส่วนภาพ HDR ก็ทำได้ค่อนข้างดี

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง OPPO A7

 

กล้องหน้า 16MP ใสๆ งานดีเลย จะปิดโหมดบิวตี้ ปรับเป็นระดับๆ หรือว่าเลือกใช้ AI ก็ทำได้ตามใจ โหมดละลายหลังด้วยกล้องหน้าตัวเดียวก็ทำได้ดีไม่ด้อยกว่ากล้องหลังสักเท่าไหร่ แต่จะติดก้เรื่องเวลาตัดสีที่ใกล้เคียงกันค่ะ ซึ่งกล้องคู่หลังทำออกมาได้ดีกว่า

มีโหมดการถ่ายภาพมากมาย รวมถึง AR Sticker เก๋ๆ ที่ขยับดุ๊กดิ๊กได้ จะถ่ายเป็นภาพนึ่งหรือวิดีโอก็ทำได้ในแอปกล้อง พร้อมเอาไปแชร์ต่อได้ทันที

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า OPPO A7

 

สรุปการใช้งาน

ถ้าเทียบกับมือถือในช่วงราคาไล่ๆ กัน OPPO A7 อาจจะไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงที่สุด แต่เป็นความลงตัวในเรื่องของการใช้งานที่ยาวนาน ด้วยชิป Snapdragon 450 ที่ถือว่าเป็นชิปประหยัดพลังงานที่ดีมากๆ รุ่นนึง บวกกับหน้าจอ HD+ ที่คมชัดเพียงพอสำหรับหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว และแบตเตอรี่ขนาด 4230 มิลลิแอมป์ ที่เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วถือเป็นรุ่นแบตอึดมากๆ และยังมี AI ที่ช่วยควบคุมในเรื่องของพลังงาน สามารถดู YouTube ต่อเนื่องได้เกิน 20 ชั่วโมงเลยค่ะ (แต่จะลุกไปทำอย่างอื่นบ้างก็ดี แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกายนะคะ)

กล้องหน้าและกล้องหลังยังทำได้ดีตามมาตรฐานของ OPPO เรียกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องภาพจะไม่คม เซลฟี่แล้วจะไม่เนียนไปได้เลยค่ะ ส่วนเรื่องของการเล่นเกมนี่สามารลุยกับเกมฮอตๆ ของบ้านเราทั้ง ROV, PUBG และ Ragnarok M ก็พร้อมจัดได้แบบไม่เสียอารมณ์

Play video

สเปค OPPO A7

  • หน้าจอ 6.2 นิ้ว ทรงหยดน้ำ ความละเอียด HD+ 1570 x 720
  • CPU : Qualcomm® Snapdragon 450 (Octa-core, 14nm, 1.8 GHz)
  • RAM : 4GB
  • ROM : 64GB
  • แบตเตอรี่ : 4230 mAh
  • OS : ColorOS5.2 based on Android 8.1
  • ซิม : Dual nano-SIM + microSD card (สุงสุด 256 GB)
  • ขนาด : 155.9×75.4×8.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 158 กรัม
  • สี : ทอง Glaring Gold , สีน้ำเงิน Glaze Blue
  • ราคาเปิดตัว : 7,990 บาท

ในมือถือช่วงราคา 7,990 บาท นั้น OPPO A7 อาจจะไม่ใช่รุ่นที่แรงที่สุด แต่มันตอบโจทย์เรื่องแบตอึดใช้งานยาวนานได้ไม่แพ้ใคร รวมถึงเรื่องกล้องที่คมชัด เซลฟี่สวยไว้ใจได้เหมือนเดิมค่ะ