สำหรับ OPPO ซีรีส์ A ถือเป็นซีรีส์เริ่มต้นสุดคุ้มราคาประหยัด ยอดขายถล่มทลายมาตั้งแต่ A3s A5s ซึ่งคราวนี้ OPPO ก็สานต่อขยับสเปคขึ้นมาอีกขึ้นเป็นรุ่น OPPO A9 2020 ที่ใช้ CPU เป็น Snapdragon 665 รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกับจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้เลยคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ใช้งานทั้งวันสบายๆ เหลือๆ แถมได้ลำโพง Stereo เสียงดังซะใจอีกด้วย ส่วนรีวิวการใช้งานจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ

สเปค OPPO A9 2020

  • หน้าจอ : LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720) ใช้กระจก Gorilla Glass 3+  ความสว่าง 480 nit
  • CPU : Snapdragon 665
  • GPU : Adreno 610
  • RAM : 8GB LP DDR4x
  • ความจุ : 128GB UFS2.1 (เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB)
  • กล้องหลัง : 48MP (f/1.8) + 8MP (s/2.3) + 2MP (f/2.4) + 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
  • ระบบเสียง : ลำโพง Stereo, Dolby Atmos
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ซิงค์และชาร์จไฟ USB Type C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านหลัง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ซิมการ์ด : Triple Slot ใส่ได้ 2 ซิมแบบ Nano และ 1 MicroSD Card
  • แบตเตอรี่ : 5,000 มิลลิแอมป์ มีระบบ Reverse Charge ชาร์จไฟกลับให้อุปกรณ์อื่นผ่านสาย USB ได้
  • ขนาดตัวเครื่อง : 163.6 x 75 x 9.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 195 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie ครอบด้วย Color OS 6.0.1 +
  • สีที่วางจำหน่าย : สีเขียว Marine Green, สีม่วง Space Purple
  • ราคา 8,990 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่อง

OPPO A9 2020 เครื่องที่ทีมงานได้มารีวิวนั้นเป็นสีเขียวน้ำทะเล เงาๆ สะท้อนแสง 3D Aesthetics Design อารมณ์คล้ายกับตัวรุ่นท็อปตัวพี่ Reno ผิวสัมผัสที่ฝาหลังจะหนืดๆ มือไม่ลื่นมาก ถือใช้งานถือมือเดียวได้ถนัดไม่ลื่นหลุดมือง่าย แต่ฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อย ต้องคอยมันขยันเช็ดหรือใส่เคสที่แถมมากับเครื่องก็ได้

หน้าจอตัวเครื่องให้มาขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว มีติ่งกล้องหน้าเล็กน้อยแบบ Waterdrop ที่ให้สัดส่วนจอกับตัวถึง 89% เต็มๆ ตาไปเลย ส่วนด้านข้างตัวเครื่อง ฝั่งทางซ้ายจะมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงกับถอดใส่ซิมแบบ Triple Slot ฝั่งทางขวาจะมีปุ่มปลดล็อคเปิดปิดเครื่อง ด้านบนโล้นๆ ไม่มีอะไร ด้านล่างจะมีพอร์ตเชื่อมต่อรูฟัง 3.5 mm กับช่องเสียบสายชาร์จแบบ Type C  และด้านหลังจะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือกับกล้องสี่ตัวดีไซน์นูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย

ลำโพงตัวเครื่องที่เป็น Dolby Atmosd Dual Stereo Speakers ตัวลำโพงจะอยู่ด้านบนหน้าจอใกล้ๆ กล้องหน้า กับด้านล่างตัวเครื่อง ทำให้ได้เสียงรอบทิศทาง โอบล้อมได้อย่างมีมิติที่ดีเลยทีเดียว ส่วนงานประกอบโดยรวมถือว่าสอบผ่านฉลุย ทำได้ดีแน่นหนาแข็งแรงทุกส่วน

การใช้งานทั่วไป

เปิดเครื่อง OPPO A9 2020 มาครั้งแรก บนหน้าจอตัวเครื่องแปลกใจนิดหน่อยที่มีแอพภาษาเวียดนามติดตั้งมาด้วย แต่ก็สามารถลบได้ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับหน้าจอที่ให้ความละเอียดมา HD+ หลายคนอาจจะติเรื่องความละเอียดสูงพวก Full HD ไม่ได้ ซึ่งเอาเข้าจริงถ้าไม่เพ่งมองแบบจำผิดจริงจังก็มองไม่ค่อยออกเท่าไร อาจจะพอรู้สึกได้บ้างเรื่องความคมของภาพ แต่สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือสีหน้าจอค่อนข้างซีดกว่ารุ่นอื่นพอสมควร

ทดสอบใช้งานหลายแอพพื้นฐานไม่ว่า Facebook, Line, IG และ YouTube สามารถสลับเล่นไปมาได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด แต่ในเบื้องต้นตอนแรกทีมงานยังไม่ค่อยชินกับการใช้งานแบบลากนิ้วขึ้นเท่าไรนัก ชอบแบบมีปุ่มเสมือนด้านล่างมากกว่า (มีปุ่ม Back ปุ่ม Home) โดยสามารถไปได้ที่ ตั้งค่า -> ตัวช่วยเพิ่มความสะดวก -> ปุ่มการนำทาง

เคสที่แถมมาให้ในกล่องจะเป็นแบบ TPU สีใส คลุมมิดปุ่มด้านข้างซ้ายขวาและหนากว่ากล้องด้านหลังทั่วตัวเครื่อง ช่วยปกป้องรอยขีดข่วน กันกระแทกได้ดี เคสที่แถมมาคือดีใช้ได้เลย

การนำทางเมื่อเอาไปใช้งานข้างนอกเปิดใช้งาน GPS ถือว่าแม่นโอเคเลย ใช้นำทางได้สบายๆ และไม่ต้องห่วงเรื่องแบตไหลหมดเร็วด้วย

จากรูปด้านบนทีมงานนำไปทดสอบนำทางใช้งานกลางแดดตอนบ่าย จะเห็นว่าหน้าจอ OPPO A9 2020 สู้แดดได้ดี มองเห็นภาพได้แผ่นที่ได้โดยไม่ต้องเพ่งสายตา (ปรับแสงสูงสุด)

นอกจากนี้ตัวเครื่อง OPPO A9 2020 ภายในกล่องจะมีหูฟัง Smalltalk แถมมาให้ด้วยเป็นแบบ Earbud ลักษณะแอบคล้ายกับคล้ายผลไม้ คุณภาพเสียงจัดว่าแจ่มกว่าที่คิดไว้ตอนแรก เบสมาเต็ม ฟังเพลงดูหนังเล่นเกมได้โอเคเลย แต่เสียงอาจจะดูแห้งๆ ไปนิดหน่อย ซึ่งถ้าผ่านการเบิร์นสัก 10-20 ชั่วโมงเสียงคงนุ่มขึ้นกว่านี้ครับ

กล้องถ่ายภาพของ OPPO A9 2020

แน่นอนเรื่องกล้องของ OPPO A9 2020 ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ที่ให้ความละเอียดได้สูงสุด 48MP f/1.8 พร้อมทั้งเลนส์ Ultra Wide 119° ความละเอียด 8MP f/2.25 ที่สามารถถ่ายภาพ Panoramic เก็บได้ครบทุกรายละเอียด ส่วนกล้องหลังอีกสองตัวขนาด 2MP f/2.4 เป็นกล้อง Portrait + Mono ช่วยในการถ่ายภาพ Portrait ได้เก็บแสงสวยงาม และที่พิเศษคือมีโหมด Ultra Night Mode 2.0 ไว้สำหรับถ่ายภาพกลางคืนได้โดยไม่ต้องง้อขาตั้งกล้อง

สำหรับกล้องหน้าจะมีขนาด 16MP f/2.0 ที่มาพร้อมกับ AI Beauty 2.0 มีลูกปรับแปร่งเยอะมาก หน้าเรียวใส ตาโต คิ้วเข้ม ทำได้หมด

ในเรื่องของวิดีโอกล้องหลังนั้น A9 2020 มีกันสั่นแบบ EIS ช่วยให้ภาพสมูทไม่สั่นไหวเวลาถ่ายด้วยมือเปล่าได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะทำงานได้ในโหมด Full HD 1080p 30fps เท่านั้น หากปรับความละเอียดสูงสุด 4K ระบบ EIS จะไม่สามารถทำงานได้ ส่วนกล้องหน้าสามารถถ่ายได้สูงสุด 1080P 30fps ตามปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง OPPO A9 2020

รูป Night Mode

เปรียบเทียบภาพเลนส์ Ultra Wide กับ Wide

(ซ้าย Ultra Wide, ขวา Wide)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

เปรียบเทียบแต่ละโหมด

(เรียงจากซ้าย Auto > โหมดรูปคน > AI Beauty ปรับสด > ใส่ฟิลเตอร์ 05)

กล้องหน้าตัวเครื่องจะเป็นความละเอียด 16MP f/2.0 รูรับแสงถือว่าสว่างใช้ได้เลย เอาจริงใช้แค่โหมด Auto ก็สวยแล้ว โดยโหมด “รูปคน” จะเป็นการเบลอฉากหลัง โหมด “AI Beauty” จะเป็นเวอร์ชัน 2.0 ที่สามารถปรับคางเรียว หน้าใส ตาโต คิ้วเข้ม จมูกเล็ก ทำได้หมดจริงๆ (ในรูปปรับสุดทุกอย่าง) และอันสุดท้ายคือใส่โหมด “ฟิลเตอร์” เป็นสีโทนต่างๆ ครับ

ทดสอบประสิทธิภาพ

OPPO A9 2020 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 665 ระดับกลาง พร้อมให้ Ram มาถึง 8 GB แถมเป็น LPDDR 4x อีกด้วยแรงเหลือๆ ผลการทดสอบด้วย AnTuTu ได้คะแนนอยู่ที่ 134,931 คะแนน เพียงพอต่อใช้งานยุคปัจจุบัน ส่วน ROM นั้นใช้เป็นตัว UFS 2.1 ทดสอบออกมาแล้วมีความเร็วในการอ่าน 487.6 MB/s และการเขียน 195.07 MB/s ด้านความเร็วอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็รองรับการเขียนและอ่านพร้อมกัน ซึ่งก็จะดีกว่าหน่วยความจำแบบ eMMC

ทดสอบเล่นเกม ROV ปรับภาพกราฟิกระดับสูง เปิดโหมด High Framerate ได้ค่า FPS เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 55-60 FPS ตลอดนิ่งๆ ลื่นๆ บวกกันหนักๆ ก็ไม่มีปัญหา

ส่วนเกม PUBG ค่า default ที่เกมตั้งให้ตอนเล่นครั้งแรกกราฟิคตั้งค่ามาเป็นแบบ สมดุล เฟรมเรท กลาง ตัวเกมเล่นได้ลื่นไหล ทัชไม่เจอว่าเพี้ยน

สำหรับเรื่องของความร้อนตัวเครื่องเมื่อเล่นไปนานๆ บอกเลยว่าร้อนน้อยมาก เล่นต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมงสบายๆ แถมแบตถึกสุดๆ เล่น PUBG เฉลี่ยตาละ 20 นาทีแบตลดไปประมาณ 8%

แบตเตอรี่

ตัวเครื่อง OPPO A9 2020 ให้ความจุแบตเตอรี่มากถึง 5,000 mAh ให้มาเยอะมาก ผสานกับชิป Snapdragon 665 ขนาด 11 nm แน่นอนว่าใช้งานธรรมดาทั่วไป เล่นเกมบ้างบอกเลยว่าอยู่ได้เกินวันแบบสบายๆ  ซึ่งจากการใช้งานตลอดทั้งวันจากแบตเต็ม 100%  นำมาทดสอบเล่น Social เล่นเกม ROV + PUBG, ดู YouTube และเปิด GPS เอาไปนำทาง คือใช้งานหนักตลอดทั้งวันแบตเตอรี่ยังเหลือราว 55% คือจะเอาไปใช้ต่ออีกวันยังได้

นอกจากนี้ตัวเครื่อง OPPO A9 2020 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Reverse Charging คือชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ โดยใช้สาย OTG cable (ต้องซื้อแยก) สำหรับอะแดปเตอร์ที่แถมมาให้ในกล่องจะเป็น 5V 2A หรือขนาด 10W ทำให้เวลาชาร์จแบต OPPO A9 2020 จาก 0-100% เลยนานมาก ราว 3 ชั่วโมง และตัวเครื่องรองรับการชาร์จได้สูงสุดแค่ 10W

สรุป

OPPO A9 2020 ก็ถืออีกเป็นมือถือสเปคแน่นสายคุ้มที่น่าสนใจมากๆ อีกรุ่นหนึ่ง ณ เวลานี้เลย ด้วยสเปคที่ได้ทั้ง Snapdragon 665 + Ram 8 GB LPDDR4x + Rom 128 GB UFS 2.1 ซึ่งหาได้ยากมากในช่วงราคาประมาณนี้ สีสันลักษณะดีไซน์ก็ทำได้ดี ลำโพงเสียงดัง Stereo รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ดูหนังฟังเพลงได้โอเค กล้องหลังก็ให้มาถึง 4 ตัวใช้งานได้จริง สแกนนิ้วมือหลังเครื่องใช้งานได้ไวไม่มีปัญหา ซึ่งทั้งหมดนี้วางจำหน่ายในราคาแค่ 8,990 บาทเท่านั้น

ส่วนข้อสังเกตเท่าที่ใช้งานมาคือตัวเครื่องสีหน้าจอค่อนข้างจืดนิดๆ แต่สว่างสู้แสงดีเลย ถัดมาก็เรื่องฝาหลังที่เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก แนะนำว่าต้องใส่เคสไว้ตลอดไม่งั้นได้มีนั่งเช็ดทั้งวันแน่ๆ กับเรื่องชาร์จไวได้สูงสุด 10W ทำให้เวลาชาร์จแบตแต่ละครั้งจะใช้เวลาค่อนข้างนานครับ

ข้อดี

  • สเปคที่ให้จัดเต็มมาก Snapdragon 665 + Ram 8 GB LPDDR4x + Rom 128 GB UFS 2.1 คุ้มๆ เลย
  • กล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว มีโหมด AI Beauty 2.0 ปรับแต่งได้หลากหลาย
  • จอใหญ่ 6.5 นิ้ว ความสว่าง 480 nit ใช้งานสู้แดดได้สบายๆ
  • พอร์ตเชื่อมต่อเป็นมาตรฐานใหม่ USB type C
  • แบตเตอรี่ให้ความจุถึง 5,000 mAh ใช้งาน 2 วันสบายๆ แถมต่อ OTG ชาร์จให้รุ่นอื่นได้ด้วย
  • มีรูเสียบหูฟัง 3.5 mm ไม่ได้ตัดทิ้ง
  • เมื่อใช้งานหนักๆ นานๆ ตัวเครื่องแทบไม่ร้อน

ข้อพิจารณา

  • หน้าจอ HD และสีค่อนข้างจืดไปนิด
  • ตัวเครื่องมีไมค์มาให้ตัวเดียว ไม่มีไมค์ตัดเสียง
  • ฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก แนะนำควรใส่เคสตลอดเวลา

Play video