มือถือ 5G รุ่นเล็กจาก Redmi เพื่อการเข้าถึงเครือข่ายเร็วแรงของทุกคน กับ Redmi 10 5G น้องใหม่ที่เปิดตัวมาในราคา 5,999 บาท แต่ราคาพ่วงโปรเครือข่ายคือคุ้มสุดๆ แค่พันนิดๆ (บางค่ายก็ไม่ถึงพัน) สเปคโดยรวมถือว่าเอาเรื่องเลย ทั้งหน้าจอ 90Hz, ชิป Dimensity, กล้องหลัก 50MP แถมมีชาร์จไว 18W ให้ด้วย

ตัวเครื่อง ดีไซน์

ดีไซน์ของ Redmi 10 5G มาในทรงมาตรฐาน แต่แอบตัดขอบเหลี่ยม เพิ่มความคลาสสิคเข้ามาผสมกับความโค้งเล็กๆ ของฝาหลัง ที่มาพร้อมลายเส้นวงกลมและโทนสีเขียว Aurora Green ส่วนโมดูลกล้องหลังคู่นั้นยกขึ้นมาเล็กน้อย

หน้าจอ Redmi 10 5G นั้นมีขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองงรับ Refresh rate แบบ Adaptive 90Hz ความคมชัดดี สีสันได้ แต่เหมือนจะมีอาการเหลือบนิดๆ เวลาเอียงจอ มาพร้อมกับ Sunlight Display 2.0 ที่จะเร่งความสว่างขึ้นเวลาเจอแดด ส่วนกระจกหน้าจอนั้นเป็น Gorilla Glass 3

ตัวเครื่องยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ที่ด้านบน ข้างๆ กันคือ Infrared สำหรับใช้ผ่านแอป Mi Remote ซึ่งดูเหมือนหลังๆ มาบางรุ่นถูกตัดออกไปบ้าง

ปุ่มพาวเวอร์ใช้สแกนลายนิ้วมืออยู่ในตำแหน่งเกือบๆ กลางตัวเครื่องพอดี ถัดขึ้นมาเป็นปุ่มปรับเสียง อีกฝั่งเป็นถาดซิม รุ่นนี้เป็น Triple slot ใส่ได้ครบ 2 ซิม + 1 microSD พอร์ตชาร์จด้านล่างเป็น USB C รองรับชาร์จไว 18W

 

ระบบ MIUI 13

Redmi 10 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บน Android 12 ซึ่งการใช้งานทั่วไปโดยรวมลื่นไหลดี เครื่องรีวิวของเราเป็นรุ่น RAM 6GB มีระบบขยายได้อีก 2GB ส่วนหน่วยความจำ 128GB นั้นเหลือให้ใช้งานลงแอปลงเกมราวๆ 100GB

ระบบ Multitask ตอนนี้เหมือนทาง Redmi จะปรับระบบแบ่งหน้าจอหรือ Multiwindows ออกไปในบางรุ่น จากที่ลองเล่นมา ซึ่ง Redmi 10 5G ก็ไม่มีเช่นเดียวกัน จะเหลือแค่ floatig windows ที่เป็นหน้าต่างลอยเท่านั้น และก็ยังจำกัดแอปที่สามารถใช้งานไว้ด้วย

ฟีเจอร์พิเศษของ MIUI ในรุ่นนี้ยังมีให้ใช้งานทั้งแอปโคลน ที่สามารถเลือกก๊อปปี้แอปต่างๆ เพื่อใช้งาน 2 ID ในเครื่องเดียวได้ หรือพื้นที่ทับซ้อน ที่เราสามารถสลับ Profile สำหรับใช้งานทีส่วนตัว หรือที่ทำงานแยกกันได้ และยังสามารถตั้งรหัสได้ด้วยฃ

นอกจากนั้นยังมี Video Toolbox ที่มีเทคนิคพิเศษ เอาไว้ดู youtube แบบปิดหน้าจอได้แบบต่อเนื่อง เผื่อใครชอบนอนฟังหิวข่าว หรือพวกเรื่องเล่า เรื่องผี สะดวกกว่าเดิมแน่นอน

พร้อมกับ Game Turbo ที่ใช้ตั้งค่าต่างๆ ระหว่างเล่นเกมได้ ทั้งการอัดหน้าจอ หรือปิดการแจ้งเตือน

 

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

MediaTek Dimensity 700 นั้นถือเป็นชิป 5G ในกลุ่มเร่ิมต้น คะแนน Antutu ประมาณ 300,000 ในการทดสอบเกมต่างๆ ก็สามารถเล่นได้ ปรับเฟรมเรตสูงก็ได้ในบางเกม แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยการปรับความละเอียดกราฟิคลงมาเล็กน้อย

 

กล้อง Redmi 10 5G

ชุดกล้องหลังของ Redmi 10 5G นั้นแม้จะมีมาแค่ 2 ตัว แต่เอาจริงๆ ก็มีกล้องหลักที่เปิดใช้งานได้แค่ตัวเดียว (เพราะอีกตัวเป็นกล้องจับความลึก) ยังดีที่ให้ความละเอียดมาถึง 50MP ซึ่งมีส่วนช่วยในการถ่ายภาพ คือรวมพิกเซลให้สว่างขึ้นได้

ภาพที่ถ่ายในเวลากลางวัน หรือแสงพอนั้นออกมาดีกว่าที่คาดไว้ซะอีก ส่วนภาพในร้านอาหารก็จะพอสังเกตุเรื่องของความคมที่จะลดลงไปบ้าง ถ้าแสงเริ่มน้อย แต่ยังถือว่าให้สีสันได้ดี ไม่มีอาการตุ่นๆ ให้เห็น

ส่วนเวลากลางคืนนั้น เปิด Night Mode ช่วยได้ คือถ้าเป็นแสงเวลากลางคืนยังถือว่าดึงความสว่างขึ้นมาได้

 

ส่วนกล้องหน้า 5MP ยังคงต้องการแสงที่ดีสำหรับการเซลฟี่ที่ออกมาคมชัด สังเกตุได้ว่าแค่เปลี่ยนทิศการนั่ง แสงไม่เข้าหน้า ภาพก็จะเริ่มเบลอๆ ให้เห็นแล้ว ส่วนการเบลอฉากหลังใน Portrait Mode ถือว่าทำได้ดีเกินค่าตัวอยู่นะ

 

สเปค Redmi 10 5G 

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : MediaTek Dimensity 700 5G
  • RAM : 4GB / 6GB
  • ความจุ : 64GB / 128GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลัก ความละเอียด 50MP
    – กล้องจับความลึก ความละเอียด 2MP
  • กล้องหน้า : 5MP
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 18W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 13

ใครที่กำลังมองหามือถือสำหรับเอาไปใช้งาน 5G ในราคาประหยัด แถมสเปคโดยรวมก็ยังโอเค ทั้งหน้าจอ 90Hz กล้อง 50MP และชิป Dimensity 700 พอเล่นเกมได้ไม่ติดขัด Redmi 10 5G ก็มีความน่าสนใจอยู่เหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะราคาพ่วงโปรเครือข่ายที่ลดจาก 5,999 บาท เหลือค่าเครื่องแค่ราวๆ พันเดียวเท่านั้น