ปัจจุบันหูฟัง True Wireless กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับหลาย ๆ คน แต่พอเอามาใช้เล่นเกมก็มักจะเจอปัญหาดีเลย์ ทำให้หลายคนเลือกหันไปใช้หูฟังแบบครอบหูแทนเพื่อแก้ปัญหานี้ แม้ว่าใส่นาน ๆ แล้วอาจไม่สบายเท่าไหร่ ASUS จึงได้ออกแบบ ROG Cetra True Wireless SpeedNova เพื่อตอบโจทย์นี้ ด้วยการนำข้อดีของหูฟังทั้งสองแบบมารวมกัน ให้ความสะดวกแบบ TWS พร้อมเทคโนโลยีการส่งสัญญาณแบบหูฟังเกมมิ่งไร้สาย วันนี้ทีมงานจะพาไปดูว่าหูฟังรุ่นนี้จะมีอะไรเด็ด น่าโดนขนาดไหน เสียงดีหรือไม่กัน

ดีไซน์

สำหรับงานออกแบบของ ROG Cetra True Wireless SpeedNova เรียกได้ว่าเหมือนกับตัว ROG Cetra True Wireless รุ่นก่อนหน้านี้เลย จุดที่ต่างกันมีแค่ไฟ RGB ที่ตัวหูฟัง และ Dongle USB-C เท่านั้น

ตัวหูฟังยังคงใช้เป็นรูปทรงแบบหูฟังมีก้านเหมือน Galaxy Buds3 Pro และ AirPods Pro 2 เลยหรือเป็นแบบ In-Ear หูฟังแบบสอดที่มีจุกยาง ตัวก้านทำรูปทรงเป็นแบบเหลี่ยม ด้านหน้ามีโลโก้ ROG แบบสะท้อนแสงวิบวับ พร้อมไฟ RGB ด้านบน และไฟแสดงสถานะด้านล่าง

ใกล้ ๆ กันจะเป็นตำแหน่งของไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และด้านล่างเป็นที่อยู่ของไมโครโฟนหลักสำหรับใช้สนทนา ส่วนตำแหน่งขั้วชาร์จไฟจะอยู่ด้านในที่หันเข้าหาเรา ตัวจุกหูฟังสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย ๆ เหมือนกับหูฟัง In-Ear ทั่วไป มีมาให้ 3 ขนาด ต่างกับ Galaxy Buds3 Pro และ AirPods Pro 2 ที่ถอดเปลี่ยนยากกว่ามาก

แต่สำหรับใครจะเอาจุกหูฟังที่ขายอยู่ทั่วไปมาเปลี่ยนอาจจะต้องดูดี ๆ เพราะรูปทรงของท่อนำเสียงเป็นทรงรีไม่ใช่ทรงกลมแบบหูฟังทั่วไปนะ ซึ่งดีไซน์แบบนี้มีข้อดีในเรื่องของการเพิ่มพื้นที่การใส่แบตเตอรี่หรือเพิ่มพื้นที่ของไดร์เวอร์ชุดลำโพง และยังช่วยให้ไมโครโฟนขยับเข้ามาอยู่ใกล้ปากมากขึ้นด้วย

ด้านกล่องเก็บตัวหูฟัง ก็ดีไซน์มาโฉบเฉี่ยว มีเหลี่ยมสันที่ชัดเจนพร้อมโลโก้ ROG เห็นแล้วนึกถึงรถซูเปอร์คาร์เลย โดยด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะการชาร์จอยู่ 1 จุด ด้านหลังเป็นช่องชาร์จ USB-C และด้านใต้ตัวเครื่องจะมีข้อมูลชื่อรุ่นของหูฟังสกรีนไว้อยู่ โดยทั้งเซ็ตมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือสีดำ และสีขาว

เมื่อเปิดฝาออกมาสิ่งที่เด่นสะดุดตาที่สุดนอกจากตัวหูฟังที่นอนอยู่ในกล่องแล้ว คงเป็นเรื่องคงเป็นเรื่องของไฟ RGB ตรงกลางที่มีโลโก้ ROG ที่ทั้งตัวหูฟัง และกล่องเก็บ การหยิบขึ้นมาใช้หรือเอาหูฟังใส่คืนที่ทำได้ง่ายตามสไตล์ของหูฟังที่มีดีไซน์กล่องแบบฝาหอย (Clamshell) ตัวกล่องเก็บหูฟังใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีผิวแบบด้านยิงทรายแบบละเอียด จับแล้วรู้สึกดีใช้ได้เลย

เรียกได้ว่าออกแบบดีไซน์ออกมาได้ดูเกมมิ่งมาก ๆ ทั้งไฟ RGB และดีไซน์ที่ดูล้ำ ใส่เล่นเกมนี่เท่สุด ๆ สำหรับข้อสังเกตคงเป็นเรื่องของขนาดตัวหูฟังที่เมื่อเทียบกันแล้วมีขนาดใหญ่กว่าหูฟัง TWS รุ่นอื่นพอสมควร แต่ก็ไม่ได้รบกวนเวลาสวมใส่อะไรนะ ตัวฝากล่องเก็บหูฟังเปิดยาก เวลาเปิดตัวใช้สองมือถึงจะเปิดได้ และด้านล่างของกล่องเก็บหูฟังมีดีไซน์แบบโค้งมน เป็นหลังเต่า ทำให้เวลาวางแล้วไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่

การสวมใส่ และการใช้งาน

ROG Cetra True Wireless SpeedNova มีการเปลี่ยนดีไซน์เป็นหูฟังแบบมีก้าน ทำให้การกระจายน้ำหนักลงด้านล่างมีสมดุลมากกว่าเดิม มีความใกล้เคียงหูฟังปกติแบบสายที่เราคุ้นเคย น้ำหนักตอนสวมใส่ไม่รู้สึกว่าหนักเลย ใส่สบายมาก ไม่เกิดแรงดึงรั้งที่หูก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว แต่ทางแบรนด์ไม่ได้ระบุนะว่าน้ำหนักแต่ละข้างหนักเท่าไหร่ เราเลยนำไปชั่งเองพบว่าอยู่ที่ข้างละ 5.4 กรัม ถ้ารวมกล่องชาร์จจะอยู่ที่ 58.4 กรัม

ตัวก้านที่ยื่นออกมาช่วยให้คลำหาหูฟังได้ง่าย การสั่งงานสามารถทำได้ผ่านการแตะที่ตัวโลโก้ ROG ที่ตัวหูฟัง โดยจะมีรูปแบบการสั่งงานผ่านจำนวนครั้งที่แตะ เช่น แตะ 1 ครั้ง เป็นการเล่น และหยุดเล่น แตะ 2 ครั้งเป็นการเล่นเพลงถัดไป เป็นต้น โดยคำสั่งการแตะของหูฟังแต่ละข้างจะแยกกันดังนี้

หูฟังข้างซ้าย

  • แตะ 1 ครั้ง : เล่น/หยุดเพลง
  • แตะ 2 ครั้ง : เปิด-ปิด ANC
  • แตะ 3 ครั้ง : ลดเสียง
  • แตะ 4 ครั้ง : เพิ่มเสียง
  • แตะทั้งสองข้างค้างไว้ : Pair Bluetooth

หูฟังข้างขวา

  • แตะ 1 ครั้ง : เล่น/หยุดเพลง /ปิดเสียงไมโครโฟนตอนคุยโทรศัพท์
  • แตะ 2 ครั้ง : เล่นเพลงถัดไป / รับสาย
  • แตะ 3 ครั้ง : เพลงก่อนหน้า
  • แตะ 4 ครั้ง : เพลงถัดไป
  • แตะค้าง : ปฏิเสธสาย

จากที่ลองใช้งานมาพบว่ามีอาการกดปิดกดถูกบ่อยมาก และบางครั้งจังหวะการแตะหลาย ๆ ที ก็อาจจะต้องเรียนรู้ในช่วงแรกด้วย เพราะบางครั้งแตะไป 4 ครั้งแต่หูฟังจับได้แค่ 3 ครั้ง อะไรประมาณนั้น ตอนแรกที่หาข้อมูลก็เข้าใจว่าสามารถปรับรูปแบบตรงนี้ได้ แต่ความจริงไม่สามารถปรับได้

ส่วนในแง่ของความแน่นหนึบนั้น ROG Cetra True Wireless SpeedNova บอกเลยว่าหายห่วง ทดสอบ วิ่ง กระโดด สะบัดหัวแรง ๆ หรือแม้แต่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ฝ่าถนนอันเรียบเนียนของประเทศไทย ก็ยังไม่เจอว่ามันจะหลุดแต่อย่างใด ส่วนถ้าใครใส่แล้วรู้สึกว่าแน่นเกินไป หรือ หลวมหลุดง่าย ซีลเสียงไม่ดีให้ลองเปลี่ยนจุกยางที่มีมาให้ในกล่องดู

กันน้ำกันฝุ่น IPX4

ตัวหูฟังรองรับการกันน้ำกันฝุ่นที่ IPX4 สามารถป้องกันละอองน้ำ จากเหงื่อหรือฝนได้ คือสามารถใส่ลุยฝนตกหรือตอนที่ทำน้ำหกใส่ได้ แต่ถ้าทำตกน้ำส่วนตัวคิดว่าไม่น่ารอด

การเชื่อมต่อ

ROG Cetra True Wireless SpeedNova รองรับการเชื่อมต่อ 2 แบบคือ Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth ทำให้รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายไม่ต่างกับหูฟัง Bluetooth ทั่วไปเลย

การเชื่อมต่อแรกคือผ่าน USB-C Dongle ที่ให้มาในกล่อง โดยจะเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านคลื่นความถี่ 2.4 GHz แบบเดียวกับที่เมาส์คีย์บอร์ดไร้สายใช้กัน มีข้อดีคือสัญญาณเสถียรกว่า เสียงไม่ดีเลย์ และมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบ Bluetooth

วิธีการใช้งานเพียงแค่เรานำ USB-C Dongle ไปเสียบที่อุปกรณ์ที่เราต้องการใช้งาน ก็จะสามารถใช้ได้ทันที ไม่ต้อง Pair ให้เสียเวลา ใช้ได้ทั้ง Windows, macOS, PS4, PS5, Nintendo Switch, Steamdeck, iOS, Android และเครื่องเล่น VR Oculus Quest 2

ส่วนถ้าเครื่องไหนไม่รองรับ USB-C Dongle ถ้าอยากใช้แบบไร้สายก็สามารถใช้งานผ่าน Bluetooth ได้ด้วยหรือถ้าใครต้องการความเสถียรของสัญญาณมากที่สุด ไม่มีดีเลย์ ก็สามารถใช้การเชื่อมต่อแบบสาย 3.5 ได้เช่นกัน

ROG Cetra True Wireless SpeedNova รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกันผ่าน Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth โดยหูฟังจะเล่นเสียงของอุปกรณ์ที่ปล่อยเสียงออกมาก่อนเป็นอันดับแรก และในกรณีที่มีสายโทรศัพท์เข้า หูฟังจะสลับไปที่สมาร์ทโฟนของเราแทน

จากที่ใช้มาก็สะดวกดี เราสามารถเสียบ USB-C Dongle ทิ้งไว้ที่บ้านได้เลย เวลาจะพกหูฟังไปข้างนอกก็ใช้แบบ Bluetooth แทน คล่องตัวสุด ๆ แถมตอนสลับสัญญาณก็ทำได้เร็วด้วย แต่จะมีข้อสังเกตนิดหน่อยตรงการใช้งานโปรแกรม ARMOURY CRATE บนพีซี และบนมือถือ ที่จะมีอาการหาตัวหูฟังไม่เจอ หากเราตั้งค่าบนอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง แล้วต้องการสลับไปตั้งค่าอีกเครื่องหนึ่ง

การตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC)

ROG Cetra True Wireless SpeedNova มาพร้อมกับฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวน ANC ด้วยมีโหมดให้เลือกถึง 3 แบบ คือ ปิด ANC เปิด ANC และเปิดรับเสียงสภาพแวดล้อมภายนอก โดยสามารถปรับได้ผ่านโปรแกรม ARMOURY CRATE ได้เลย

จากที่ลองทดสอบเปิด ANC มาพบว่าสามารถตัดเสียงได้ระดับกลาง ๆ คือเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกเบาลง ทดสอบตอนนั่งรถไฟฟ้าพบว่า เสียงประกาศยังพอที่จะได้ยินอยู่บ้าง แต่เสียงเตือนปิดประตูไม่ได้ยินเลย อันนี้ปรับเป็นโหมด Auto นะให้ระบบเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนให้เองเลย ถ้าเราไม่พอใจก็สามารถเข้าไปปรับเองได้

คือไม่ถึงกับตัดแล้วหายไปทั้งหมดเลยแบบหูฟังรุ่นอื่นที่ตัดเสียงรบกวนเทพ ๆ เช่น Apple Samsung Bose และ Sony พวกนั้นคือตัดแบบหายจากโลกนี้ไปในหลุมดำเลย แต่ก็มีข้อดีคือ เวลาเปิดโหมด ANC ไม่รู้สึกบีบหัวหรืออึดอัดมากจนเกินไป พูดง่าย ๆ จุกหูฟังที่ใส่อยู่ยังอึดอัดกว่า

ส่วนโหมดเปิดรับเสียงรอบข้าง ก็ยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนเป็นการใช้ไมโครโฟนรับเสียงรอบข้างแล้วมาขยายในหูของเรามากกว่า ทำให้เราได้ยินเสียงบรรยากาศรอบ ๆ เสียงลมดังขึ้นอย่างรู้สึกได้ คือมันดังจนกลบเสียงพูดไปเลยในบางครั้ง ซึ่งจะต่างกับหูฟัง ANC ตัวเทพ ๆ เช่น Apple Samsung Bose และ Sony ที่จะตัดเสียงลมเสียงสภาพแวดล้อมออกไปบางส่วน ทำให้เราได้ยินเหมือนกับตอนที่เราไม่ได้ใส่หูฟัง

ดังนั้นโหมดการตัดเสียงรบกวนของหูฟังรุ่นนี้เรียกได้ว่ามีให้ใช้งาน แต่ไม่ได้เทพแบบแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านนี้อยู่แล้วนั่นเอง

ซอฟต์แวร์

หูฟัง ROG Cetra True Wireless SpeedNova มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ควบคุมหูฟัง ARMOURY CRATE โปรแกรมครอบจักรวาลของคนใช้อุปกรณ์จากทาง ASUS ไม่ว่าจะเป็นเมนบอร์ด เกมมิ่งเมาส์หรือหูฟัง ก็ต่างใช้โปรแกรมตัวนี้ทั้งนั้น ฟีเจอร์ที่ให้มาก็มีหลายอย่างด้วยกัน เช่น การปรับ EQ ปรับเสียงไมโครโฟน และปรับระบบเสียงรอบทิศทาง

เมื่อเข้ามาจะพบกับเมนูการปรับแต่งหลายอย่างมาก ๆ โดยในหน้าแรกจะเป็นเรื่องของการปรับเรื่องเสียงที่เราได้ยินโดยเฉพาะ เช่นการปรับ EQ การปรับระบบเสียงรอบทิศทาง สิ่งที่รู้สึกว่าพิเศษมากกว่าหูฟังรุ่นอื่นคงเป็นเรื่องที่มีเมนู Compressor ที่ช่วยให้เสียงมีความกลมกล่องมากขึ้นมาให้ปรับด้วย

นอกจากนี้ยังรองรับโหมด Dirac หรือระบบเสียงแบบ Hi-Res ของทาง ASUS ด้วย เปิดแล้วช่วยให้เสียงดีขึ้นอย่างรู้สึกได้เวลาฟังเพลง แต่ไม่แนะนำให้เปิดเวลาเล่นเกม เพราะทำให้อาการดีเลย์จะเพิ่มขึ้น

ปรับโหมดตัดเสียงรบกวน ANC โดยสามารถปรับได้ทั้งหมด 3 โหมด คือ ปิด เปิด และโหมดเปิดรับเสียงรอบข้าง Ambient Sound โดยการเปิด ANC นั้นสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ด้วยหรือจะปรับเป็น Auto ให้ระบบปรับให้เองก็ทำได้

ด้านไมโครโฟนก็มีมาให้ปรับแต่งด้วยเช่นกัน ทั้ง Noise Gate ช่วยลดเสียงรบกวน และ Perfect Voice ที่ช่วยให้เสียงของเราคมชัดมากยิ่งขึ้น

Settings จะเป็นการปรับระดับเสียงของหูฟัง ระดับเสียงไมโครโฟน Bit Rate และคำแนะนำการสั่งงานหูฟัง เช่น กดด้านซ้ายกี่ทีจะเป็นคำสั่งอะไร แต่เราไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้นะ ต้องใช้ตามที่ ASUS ตั้งค่ามาให้เท่านั้น

Lighting สำหรับปรับไฟลูกเล่น RGB ในส่วนนี้อาจจะไม่ได้มีรูปแบบมาให้ปรับเยอะแยะมากมายแบบที่เคยเห็นในเมนบอร์ดหรือเกมมิ่งเกียร์อื่น ๆ แอบเสียดายเหมือนกัน

Power สำหรับดูระดับแบตเตอรี่คงเหลือของตัวหูฟัง และตัวกล่องชาร์จ

Hybrid Multipoint เป็นการปรับแต่งการเชื่อมต่อพร้อมกันของหลาย ๆ อุปกรณ์ ROG Cetra True Wireless SpeedNova รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ ผ่าน 2 คลื่นความถี่ Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth หน้านี้จะเป็นตัวช่วยในการจับคู่อุปกรณ์เหล่านั้น

แอปพลิเคชันบนมือถือ

นอกจากการตั้งค่าหูฟังผ่านโปรแกรม ARMOURY CRATE บนพีซีแล้ว ROG Cetra True Wireless SpeedNova ยังรองรับการปรับแต่งผ่านแอปพลิเคชัน ARMOURY CRATE บนโทรศัพท์มือถือด้วย ภาพรวมแล้วมีเมนูมาให้ปรับใกล้เคียงกับที่อยู่บนพีซีเลย

โดยหลัก ๆ แล้วจะมีเรื่องของการปรับแต่งเสียง ปรับ EQ ปรับโหมดตัดเสียงรบกวน ANC ปรับไฟ RGB และแสดงแบตเตอรี่คงเหลือของตัวหูฟัง ส่วนเมนูอื่น ๆ จะมีเรื่องของการเปิดโหมดตรวจจับการสวมใส่ คู่มือการใช้งาน และการเชื่อมต่อแบบ Hybrid Multipoint

คุณภาพเสียง

ภาพรวมเรื่องเสียงของ ROG Cetra True Wireless SpeedNova จะมาในสไตล์เบสนำ นำในที่นี้หมายถึงเครื่องดนตรีกีตาร์เบสนำมาเลย มีความกระหึ่ม ตูมตาม เบสลงได้ลึก การจัดวางตำแหน่งของนักดนตรีบนเวทีจะมีความโอบล้อมที่รู้สึกได้ รายละเอียดต่าง ๆ ถ่ายทอดออกมาได้คมชัด ใครชอบหูฟังเบสหนัก ๆ รุ่นนี้ตอบโจทย์เลย

  • เสียงเบส กระหึ่ม ลูกใหญ่ ฟังสนุก อิมแพ็คดี ถูกใจคอเบส แต่อาจจะล้นจนไปกลบย่านอื่นบ้าง ทำให้รู้สึกถึงความบวม ความเบลออย่างรู้สึกได้
  • เสียงกลาง จะออกหม่นนิดหน่อย โทนอุ่น มีความหนา เสียงร้องหนานุ่ม แต่จะรู้สึกว่าจม ๆ เพราะโดนย่านเบสเบียด
  • เสียงแหลม โปร่งกลาง ๆ ฟังแล้วไม่อึดอัด มีความกรุ๊งกริ๊งให้รู้สึก รายละเอียดดี แต่ก็ไม่ได้ใสมาก
  • เวทีเสียง  กว้างประมาณนึง ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้แคบจนฟังแล้วรู้สึกอุดอู้ ตามมาตรฐานของหูฟัง In-Ear
  • ถ้าฟังเพลงที่เครื่องดนตรีเยอะ ๆ ตำแหน่งนักร้องจะถอยหลังลงมาพอสมควร แบบหูฟังตัวนี้ไม่ได้เน้นนักร้องเลย ใช้ที่ชอบเสียงร้องมาก ๆ ไม่แนะนำเท่าไหร่
  • แนวเพลงที่เหมาะ Rock, Metal, Hip-Hop, EDM

ถ้าไม่ชอบเสียงเดิม ๆ มี EQ ให้ปรับ

ในโปรแกรม และแอป Armory Crate ที่ใช้งานร่วมกันกับ ROG Cetra True Wireless SpeedNova รองรับการปรับแต่งเสียงหรือการปรับ EQ ได้ด้วย โดยจะมีรูปแบบแนะนำมาให้หรือถ้าใครไม่ชอบก็สามารถปรับเองได้ ที่ชอบคือมี Compressor ให้ปรับด้วย ช่วยให้เสียงมีความละมุนมากกว่าเดิม

ทดสอบเล่นเกม

นำไปใช้กับเกมยิงยอดนิยมอย่าง Valolant ก็แยกซ้ายขวา ใกล้ไกลได้ดีพอประมาณหรือจะลองเกมเก่าอย่าง Left 4 Dead 2 เวลาเจอซอมบี้เยอะ ๆ ในตึกจะแยกทิศทางไม่ค่อยออกว่าอยู่ห่างเท่าไหร่ ต้องอยู่ใกล้จริง ๆ ถึงจะแยกออกได้ชัดว่ามาจากทิศไหนหรือจะนำไปใช้กับเกมแนว Open World ก็อย่าง Genshin Impact หรือ Red Dead Redemption 2 ก็ให้รายละเอียดของสภาพแวดล้อมที่ดี แยกเสียงฝีเท้าบนพื้นที่ต่าง ๆ ได้โอเคเลย

ทดสอบความหน่วง

จากที่ทำการทดสอบเล่นเกมหรือดู YouTube พบว่าแทบจะไม่มีอาการดีเลย์เลย ถ้าไม่ตั้งใจจับผิดจริง ๆ แทบจะแยกไม่ออกสำหรับการเชื่อมต่อแบบ Wireless 2.4 GHz ส่วนแบบ Bluetooth จะรู้สึกว่ามีอาการดีเลย์เล็กน้อย

ทดสอบความเสถียรของสัญญาณ

ส่วนเรื่องความเสถียรของสัญญาณพบว่าทำออกมาได้ดีมาก เวลาเดินเปลี่ยนตำแหน่งในห้อง เช่น เดินไปหยิบของที่มุมห้องในระยะ 10 เมตร ไม่มีอาการสะดุดเลย และทำได้ไกลสุดประมาณ 20 เมตร แต่ถ้าขยับออกไปเจอสิ่งกีดขวาง เช่น กำแพง หรือประจก จะทำได้ประมาณ 15 เมตร ซึ่งก็เพียงพอที่จะใช้ในห้องนอนหรือห้องทำงานแล้ว

Bluetooth และ Wireless 2.4 GHz ให้เสียงต่างกันหรือไม่

สำหรับเรื่องนี้บอกเลยว่าไม่ต่างกันมาใสสไตล์เดียวกัน แต่ด้วยข้อจำกัดทำให้เสียงแบบ Bluetooth ดูดรอปกว่าเล็กน้อย และมีอาการดีเลย์มากกว่า สัญญาณโดนรบกวนได้ง่ายกว่าเวลาไปใช้ในที่คนเยอะ ๆ

ไมโครโฟน

จากที่ลองทดสอบพบว่าไมโครโฟนของ ROG Cetra True Wireless SpeedNova มีความคล้ายกับหูฟังเกมมิ่งมั่วไปในตลาด คือเนื้อเสียงมีความคมชัดดีไม่อู้อี้ ฟังง่าย แต่ติดแบน ไม่มีความทุ้ม หนานุ่มเลย เหมือนถูกตัดเสียงเบสออกไป คล้ายกับเสียงไมโครโฟนในสมาร์ทโฟนรุ่นกลาง ๆ คือถ้าเทียบกับไมโครโฟนของ iPhone 16 Pro Max จะสู้ไม่ได้เลย

ส่วนเรื่องการตัดเสียงรบกวนทำได้ดีเลย ตัดเสียงลม เสียงกดคีย์บอร์ดได้ดีประมาณนึง ใช้คุยกับเพื่อนตอนเล่นเกมได้โอเคเลย แต่การตัดเสียงตอนคุยโทรศัพท์ตอนอยู่ริมถนนอาจจะสู้รุ่นที่เป็นแบรนด์หูฟังหรือแบรนด์มือถือไม่ได้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่คุยรู้เรื่อง ไม่ต้องใช้สมาธิในการฟังมาก

แบตเตอรี่

ทีมงานได้ทดลองใช้หูฟังรุ่นนี้พบว่าในโหมด Wireless 2.4 GHz เปิดไฟ RGB ปิด ANC สามารถใช้ฟังต่อเนื่องได้ประมาณ 6 ชม. โดยการชาร์จแต่ละครั้งจะกินแบตเตอรี่ของกล่องชาร์จประมาณ 25 – 30% เท่ากับว่าสามารถชาร์จซ้ำได้ประมาณ 3-4 รอบเลยทีเดียว

เมื่อนำมาเทียบกับตัวเลขที่ทางแบรนด์เคลมในการใช้งานรูปแบบนี้ที่ 6.8 ชม. จะพบว่าตัวหูฟังใช้ได้น้อยกว่าที่เคลมเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตัวกล่องชาร์จเมื่อคำนวณแล้วจะทำได้มากกว่าที่เคลมไปเยอะพอสมควร

ก็จัดว่าทำได้โอเคเลยสำหรับหูฟังประเภทนี้ เหมาะมากสำหรับคนที่ใส่ฟังเพลงตอนเวลาทำงานทั้งวันแบบต่อเนื่อง แล้วขี้เกียจชาร์จบ่อย ๆ แต่ถ้ากะว่าชาร์จครั้งเดียวแล้วลากใช้ทั้งวันอาจจะไม่ไหว ต้องชาร์จเติม 1 ครั้งระหว่างวันตอนช่วงพักถึงจะพอดีอยู่ได้ทั้งวัน

สรุป

สำหรับใครที่กำลังหาหูฟังไร้สายไว้ใช้ตอนเล่นเกม แต่ไม่อยากใส่หูฟังแบบครอบหู ROG Cetra True Wireless SpeedNova เป็นหูฟังที่ตอบโจทย์เรื่องนี้มาก ๆ เพราะได้ความสบาย และความคล่องตัวแบบหูฟัง TWS แถมสัญญาณก็ไม่มีอาการดีเลย์ด้วยเพราะมี USB-C Dongle มาให้ในชุดเลย สัญญาณเสถียรกว่า Bluetooth แน่นอน

นอกจากใช้เล่นเกมแล้วหูฟังรุ่นนี้ยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย เพราะรองรับ Bluetooth แบบเดียวกับหูฟัง TWS ปกติเลย ทำให้เราไม่ต้องพกตัว USB-C Dongle ออกจากบ้านด้วยก็ได้ เสียบค้างไว้ที่คอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเกมได้เลย แถมมีระบบตัดเสียงรบกวน ANC มาให้ด้วยใครที่เดินทางบ่อย ๆ รับรองมีโอกาสได้ใช้

ดีไซน์ออกแบบมาได้โฉบเฉี่ยว เรียบหรู แต่โดดเด่นด้วยไฟ RGB ตามสไตล์ ROG ใครเป็นแฟนค่ายนี้หรือใครที่ชอบเกมมิ่งเกียร์ดีไซน์ล้ำ ๆ โดนตกแน่นอน ROG ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ไฟ RGB รุ่นนี้มันเด่นจริง ๆ นะ ส่วนเรื่องการใส่เล่นเกมเป็นเวลานาน ๆ ทำได้ดีมาก ใส่สบาย กระชับ ไม่เป็นภาระ ไม่ลื่นหลุดออกจากหูง่าย แม้ว่าขนาดตัวหูฟังจะใหญ่กว่าหูฟัง TWS ทั่วไปเล็กน้อยก็ตาม

เรื่องเสียงหูฟังตัวนี้จะออกไปในทางเบสนำ ใครชอบเบสหนัก ๆ ไปจัดได้เลยไม่ผิดหวัง แต่อาจจะไม่ถูกใจสายฟังสบาย ๆ ไม่รุกเร้าสักเท่าไหร่ ส่วนถ้านำมาใช้เล่นเกมก็ทำออกมาได้ดีมาก แยกมิติซ้ายขวา หน้าหลัง ใกล้-ไกลได้ดีเลย และแม้ว่าจะเป็นหูฟังแบบไร้สาย แต่อาการดีเลย์ก็แทบไม่มีด้วย

ข้อดี

  • ใส่สบาย
  • ดีไซน์สวย
  • รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ใช้งานได้คล่องตัว
  • คุณภาพของสัญญาณไร้สายดีมาก
  • เชื่อมต่อแอป ควบคุมได้สะดวก
  • Codec เทพ รองรับระบบเสียง 24bit/96kHz
  • รองรับระบบเสียง 360 องศา
  • มีไฟ RGB
  • แบตอึด

ข้อสังเกต

  • ราคาสูง
  • กล่องหูฟังเปิดยาก
  • ก้านหูฟังกดยาก ต้องจำ Pattern การกดคำสั่ง
  • ไมโครโฟนเสียงธรรมดา
  • ANC อยู่ในระดับกลาง ๆ
  • หากนำมาใช้ฟังเพลงเป็นหลัก จะมีรุ่นอื่นที่น่าสนใจกว่า (ในราคาที่เท่ากัน)

สเปค

  • การตอบสนองความถี่ : 20 – 40kHz
  • ไดรเวอร์ : ไดนามิกขนาด 10 มม.
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth + USB-C Dongle 2.4 GHz
  • น้ำหนัก
    • หูฟัง : ไม่ระบุ
    • รวมกล่องชาร์จ : ไม่ระบุ
  • การกันน้ำ : IPX4
  • แบตเตอรี่
    • BT Mode: ใช้งานได้สูงสุด 46 ชม.
      • 6.5+19.5 ชม. (ANC on, RGB on)
      • 11.5+34.5 ชม. (ANC off, RGB off)
      • 10+30 ชม. (ANC off, RGB on)
      • 7.5+22.5 ชม. (ANC on, RGB off)
    • 2.4 GHz Mode: ใช้งานได้สูงสุด 36 ชม
      • 5+15 ชม. (ANC on, RGB on)
      • 9+27 ชม. (ANC off, RGB off)
      • 6.8+20.4 ชม. (ANC off, RGB on)
      • 5.8+17.4 ชม. (ANC on, RGB off)
  • Codec : SBC, AAC, LC3+
  • Active Noise-Cancellation (ANC) : Yes
  • ไฟ RGB : Yes
  • ไมโครโฟน : Omnidirectional
  • ใช้ได้กับ : PC, Mac, PlayStation, XBOX, Nintendo Switch, iOS, Android , Steam Deck
  • ราคา : 7,290 บ.
  • ข้อมูลเพิ่มเติม