vivo Y21T ได้เดินทางมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เคาะราคาที่ 6,999 บาท โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.51 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP และแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ใช้งานได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องพกสายชาร์จหรือพาวเวอร์แบงค์ให้ยุ่งยาก แถมยังรองรับชาร์จไว 18W อีกด้วย ว่าแต่พอถึงเวลาใช้งานจริง ๆ จะเป็นยังไงบ้าง วันนี้ DroidSans จะมาเล่าให้ฟังครับ
แกะกล่องเช็คของ
ภายในกล่องของ vivo Y21T จะมีของแถมมาให้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเคสซิลิโคนแบบใส, สายชาร์จ USB-A to USB-C รวมไปถึงอะแดปเตอร์ความเร็วในการชาร์จสูงสุด 18W โดย vivo Y21T จะมีฟิล์มกันรอยติดมาให้ตั้งแต่จากโรงงาน ผู้ที่ซื้อไปไม่ต้องลำบากไปหาซื้อเองเพิ่มข้างนอก
สเปค vivo Y21T
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+
- ชิปเซ็ต Snapdragon 680
- RAM 6GB (+2GB ด้วยฟีเจอร์ Extended RAM)
- ROM 128GB ใส่ microSD Card เพิ่มได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว
- Wide : 50MP
- Bokeh : 2MP
- Super Macro : 2MP
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- รองรับ WiFi 2.4GHz / 5.0GHz และ Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 18W
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย FunTouch OS 12
ดีไซน์การออกแบบ
สัมผัสการจับถือครั้งแรกของ vivo Y21T จากที่รู้สึก ต้องบอกว่านี่เป็นมือถือที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ลองเอาไปชั่งแล้วมีน้ำหนักโดยรวมประมาณ 180 กรัมนิด ๆ เท่านั้น ติดมือไม่ลื่นไหลหลุดมือง่าย โดยเครื่องที่ทีมงานได้มารีวิวครั้งนี้จะเป็นสีน้ำเงิน Midnight Blue ที่ทาง vivo เคลมว่าใช้เทคนิคกระบวนการเคลือบผิวแบบ AG หน้าตาที่ว่าเท่เอาการเลยทีเดียว
หน้าจอของ vivo Y21T ให้มาที่ขนาด 6.51 นิ้ว ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป มีติ่งหยดน้ำเล็ก ๆ สำหรับใส่กล้องเซลฟี่ความละเอียด 8MP ขอบซ้ายขวาค่อนข้างบาง แต่มีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่รู้สึกว่าขอบล่างจะแอบหนาไปนิดเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ทั้งนี้ตรงนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการใช้งานแต่อย่างใด
พลิกมาด้านหลังจะเจอกับกล้องทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 50MP, กล้อง Bokeh ความละเอียด 2MP และกล้อง Super Macro ความละเอียด 2MP ไม่มีเลนส์ Ultra-Wide โดยตัวพื้นผิวด้านหลัง แม้ว่าจะเป็นแบบด้าน ๆ แต่ก็แอบติดรอยนิ้วมือง่ายไปนิดเหมือนกัน
ปุ่มควบคุมการใช้งานต่าง ๆ อาทิ ปุ่ม Power ที่ควบรวมเอาเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาเข้าไว้ด้วยกัน หรือปุ่มเพิ่มลดเสียง ต่างอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ปล่อยให้ฝั่งซ้ายโล่ง ๆ ไม่มีปุ่มอะไรเลย
ด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของลำโพง ที่ vivo Y21T ให้มาเป็นแบบโมโน ไมค์สนทนา และพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ตามยุคสมัยของสมาร์ทโฟนปัจจุบัน
ส่วนด้านบนจะมีถาดใส่ซิม ที่ให้มาเป็นแบบ Triple Slot สามช่อง สามารถใส่สองซิม + microSD Card พร้อมกัน โดยในส่วนนี้ vivo Y21T สามารถเพิ่มเมมได้สูงสุดถึง 1TB เลยทีเดียว
หน้าจอแสดงผล
vivo Y21T มาพร้อมกับหน้าจอชนิด LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ที่อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าไซส์กำลังพอดีมือ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ความละเอียด HD+ มีติ่งหยดน้ำเล็ก ๆ ที่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน แต่แอบเสียดายไปนิดนึงที่ยังรองรับรีเฟรชเรทสูงสุดแค่ 60Hz อยู่
สำหรับการรับชมคอนเทนต์บน Netflix จากที่ทดสอบและเช็คมา พบว่า vivo Y21T สามารถดูหนังและซีรีส์ รวมไปถึงสารดดีบน Netflix ได้ที่ความละเอียดสูงสุด HD หรือ High Definition เนื่องจากรองรับการเข้ารหัสแบบ Widevide L1 นั่นเอง คอหนังคอซีรีส์น่าจะมีเฮกันไม่น้อยเลยล่ะ
แต่ด้วยความที่หน้าจอของ vivo Y21T เป็นแบบ LCD ทำให้สีสันความสดอาจจะไม่สามารถสู้กับมือถือที่ใช้พาแนล OLED ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในที่แสงแดดจัด ๆ บอกเลยว่ามีแอบเพ่งใช้สายตาเยอะนิดนึง
ประสิทธิภาพความแรงและการใช้งานทั่วไป
ชิปเซ็ตของ vivo Y21T จะใช้เป็น Snapdragon 680 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร ที่ทาง Qualcomm เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าชิปเซ็ตยังมีความใหม่อยู่ อายุอานามยังน้อย และจากที่ลองใช้มา พบว่าประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไปนี่เหลือ ๆ เลย ไม่มีกระตุก ใช้งานค่อนข้างลื่นไหล
แถม vivo Y21T ยังมากับฟีเจอร์ Extended RAM ที่จะเอา ROM ขนาด 2GB มาใส่เพิ่มใน RAM จากเดิม 6GB รวมเป็น 8GB เรียกได้ว่าสามารถใช้งานเปิดแอปทิ้งไว้แบบเหลือ ๆ ไม่ต้องกังวลว่า RAM จะเต็มหรือเปล่า ซึ่งจากที่ลองมา พบว่าตัวระบบไม่ได้มีการ Kill Background Process เบื้องหลังอีกด้วย เปิดแอปทิ้งไว้ยังไง กลับไปเปิดอีกที ก็ยังอยู่ที่หน้าเดิม
ส่วน ROM ของ vivo Y21T จะให้มาที่ขนาด 128GB ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของใครหลาย ๆ คนแล้วล่ะ แต่สำหรับบางคนที่ชอบถ่ายภาพถ่ายวิดีโอเก็บไว้เยอะ ๆ แล้วกลัวว่าหน่วยความจำที่ให้มามันจะไม่พอ ทาง vivo Y21T ก็ยังสามารถใส่ microSD Card เพิ่มความจุได้มากถึง 1TB เลยทีเดียว
vivo Y21T มาพร้อมกับฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่จะเข้ามาช่วยจัดการรีดประสิทธิภาพ CPU และ GPU ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะมาก ๆ เวลาเล่นเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะ ๆ สามารถเปิดโหมด E-Sport หรือล็อคความสว่างหน้าจอได้ ไม่ให้มันปรับเองอัตโนมัติตอนเล่นเกม
จากที่ทดสอบเล่นเกมมา vivo Y21T ถือว่าทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลยล่ะ ปรับกราฟิกได้เกือบสูงสุด แถมเฟรทเรทก็วิ่งนิ่ง ๆ ที่ 57 – 60FPS ไม่ค่อยแกว่งมากเท่าไหร่
นอกจากนี้ vivo Y21T ยังรองรับการสั่นแบบ 4 มิติเวลาเล่นเกมอีกด้วย ทำให้เวลายิงปืน ตัวเครื่องจะสั่นเพิ่มความสะใจและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้นไปจากเดิม แต่ต้องบอกว่าฟีเจอร์ดังกล่าวรองรับแค่เฉพาะบน PUBG เท่านั้นนะ ใครที่เป็นสาย Free Fire อันนี้ไม่รองรับจ้า
โดย vivo Y21T มีระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling ทำให้เวลาเล่นเกมติดต่อกันไปนาน ๆ ดูหนังดูซีรีส์ หรือใช้งานทั่วไปนาน ๆ แล้วเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป
กล้องถ่ายภาพ
vivo Y21T มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 50MP, กล้อง Bokeh สำหรับทำหน้าชัดหลังเบลอ ความละเอียด 2MP และกล้อง Super Macro สำหรับถ่ายโฟกัสวัตถุใกล้ ๆ ความละเอียด 2MP มีไฟแฟลชแบบ LED ใส่มาให้บริเวณด้านล่างของเซ็นเซอร์ทั้งสาม โดยจากที่ลองเอาเจ้า vivo Y21T ไปถ่ายภาพ ก็พบว่าสามารถถ่ายรูปออกมาได้ค่อนข้างดีในสภาพแสงปกติ แต่หากอยู่ในสภาพแสงน้อย ก็อาจจะลำบากหน่อยนึง แม้ว่าจะมี Night Mode ใส่มาให้ก็ตาม
ภาพตัวอย่างของ vivo Y21T
ภาพตัวอย่าง Night Mode ของ vivo Y21T
แต่ไฮไลท์เด็ด ๆ ของ vivo Y21T จะอยู่ที่โหมดถ่ายภาพบุคคล (ทั้งกล้องหน้าและหลัง) ที่มีฟีเจอร์ลูกเล่น Beauty ต่าง ๆ ใส่มาให้เยอะมาก ทั้งตา หู จมูก ปาก ผิว ฯลฯ เลือกปรับได้หมดทุกอย่าง แถมยังมีไกด์ไลน์สอนโพสรูปอีกด้วยว่าต้องทำแบบไหนอะไรยังไง เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นชินกับกล้อง ไม่รู้จะโพสท่ายังไง
นอกจากนี้ vivo Y21T ยังเลือกปรับค่า f ได้อีกด้วย ว่าอยากให้ฉากหลังเบลอมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงเอฟเฟกต์ละลายหลังต่าง ๆ มีมาให้เลือกเยอะจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ หัวใจ สามเหลี่ยม ดาว ห้าเหลี่ยม ฯลฯ เอาเป็นว่าลองดูจากภาพตัวอย่างด้านล่างได้เลยครับ โดยการปรับเอฟเฟกต์ฉากหลังนี้จะมีให้แค่เฉพาะกับกล้องหลังเท่านั้นนะ กล้องหน้ายังไม่มี
ภาพตัวอย่างโหมดบุคคลของ vivo Y21T
ภาพตัวอย่างกล้องหน้าของ vivo Y21T
แบตเตอรี่
มาถึงในเรื่องของแบตเตอรี่กันบ้าง แม้ว่าตัวเครื่อง vivo Y21T จะมีน้ำหนักเพียงแค่ 182 กรัม แต่ด้านในก็อัดแบตเตอรี่มาให้แบบจัดเต็มถึง 5000 mAh ซึ่งหากเป็นคนไม่เล่นเกมมาก หรือไม่เล่นเลย น่าจะอยู่ได้ 1 – 2 วันสบาย ๆ แบบไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน หรือพกแบตเตอรี่สำรองให้หนักกระเป๋า โดยจากที่ทดสอบดูซีรีส์บน Netflix แบบต่อเนื่องกัน 4 – 5 ตอน (ตอนละประมาณหนึ่งชั่วโมง) เล่นเกมบ้างนิดหน่อย รวมถึงไถ Facebook ประปราย ก็พบว่ายังเหลือแบตอีก 74% พร้อมกับได้ Screen on Time ไปมากถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว แถมเวลาแบตใกล้จะหมดก็ไม่ต้องกังวล เพราะ vivo Y21T รองรับระบบชาร์จไว 18W ชาร์จประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ได้แบตมาเกือบ ๆ 50% แล้ว
สรุปการใช้งาน vivo Y21T
จากที่ใช้งานมาประมาณหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ทีมงานก็พบว่า vivo Y21T ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ประสิทธิภาพการใช้งานค่อนข้างคุ้มกับราคาค่าตัวตัวนึงในตลาดเลยล่ะ ใช้งานทั่วไปสบาย ๆ เล่นเกมปรับกราฟิกสูง ๆ เฟรมเรทนิ่ง ๆ แถมแบตเตอรี่อึดมากมาก ๆ แต่จะมีติดหน่อยตรงที่หน้าจอความละเอียด HD+ และรีเฟรชเรท 60Hz นี่แหละ ที่เหลือจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียวกับราคา 6,999 บาท
Comment