Samsung AI TV ไลน์อัปปี 2024 หลังจากเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา เราก็ได้รับเชิญให้เข้าไปสัมผัสเจาะลึกถึงความสามารถของนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ในงาน Samsung VD Tech Seminar ว่า AI นั้นจะถูกนำมาใช้งานยังไง ทีวีจะฉลาดขึ้นแค่ไหน จะเหมือนกับ AI ที่อยู่บนมือถือ อย่าง Galaxy AI หรือเปล่า รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ซัมซุงใส่เพิ่มเข้ามาในทีวีรุ่นล่าสุดด้วย เราจะพาไปดูกันทีละพาร์ตเลย
Samsung AI TV ทีวีอัจฉริยะระดับไฮเอนด์
โดยปีนี้ Samsung มาพร้อมไลน์อัป Samsung AI TV แบบจัดเต็ม โดยจะเน้นไปที่ทีวีจอขนาดใหญ่ ได้แก่ Neo QLED 8K, Neo QLED 4K, Samsung OLED, Micro LED, Lifestyle TV และ Sound Device ซึ่งอัปเกรดความล้ำเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ รวมถึงทำให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ละตัวมีจุดเด่นยังไง เราไปเริ่มกันเลย
ชิป NQ8 AI Gen3 ใน ทีวี Neo QLED 8K รุ่นปี 2024
ทีวี Neo QLED 8K รุ่นปี 2024 มากับโปรเซสเซอร์ใหม่ NQ8 AI Gen3 ซึ่งชิปดังกล่าวจะช่วยอัปเกรดให้ทุกคอนเทนต์ให้ได้ภาพที่สดใสและคมชัดยิ่งขึ้น ผ่านหน่วยประมวลผลจำนวน 512 ชุด ที่มากกว่ารุ่นก่อนถึง 8 เท่า และยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI ต่างๆ มากมาย แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ
- ด้านภาพ (AI Picture)
- ด้านเสียง (AI Sound)
- ด้านการปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพ (AI Optimization)
1.AI Picture
8K AI Upscaling Pro
ฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นไฮไลต์เลยก็ว่าได้ มาพร้อมกับความสามารถในการอัปสเกล เพิ่มความละเอียดคอนเทนต์ต้นฉบับ ให้มีความคมชัดใกล้เคียง 8K มากที่สุด แม้ว่าคอนเทนต์วิดีโอต้นทางจะไม่ใช่ 8K อย่างที่เรานำมาให้ชมด้านบน วิดีโอต้นฉบับนั้นมีความละเอียดอยู่ที่ Full HD แต่ชิป NQ8 AI Gen3 สามารถอัปให้ได้ใกล้เคียงถึง 8K นั่นเอง แต่ถ้า Samsung OLED TV รุ่นปี 2024 จะใช้ชิป NQ4 AI Gen2 ก็จะอัปได้สูงสุดที่ 4K ซึ่งทางซัมซุงบอกว่าฟีเจอร์นี้รองรับการใช้งานทั้งสตรีมมิง เคเบิลทีวี ดิจิทัลทีวี หรือแม้แต่ระบบสัญญาณทีวีรับชมผ่านเสาอากาศ
AI Motion Enthancer Pro
ฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจคอกีฬา ไม่ว่าจะสายลูกหนัง ลูกขนไก่ หรือลูกยาง เพราะทุกเสี้ยววินาทีนั้นมีความหมาย จะไม่พลาดช็อตเด็ดจุดโทษสำคัญ เพราะจะช่วยจับภาพที่เคลื่อนไหวเร็วไม่ให้แตกหรือขาดหาย ทำให้คอนเทนต์ที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่เวลาดูข่าว ที่มักจะมีตัวหนังสือวิ่งด้านล่างแบบเร็วๆ บางทีก็จะมีความสั่นๆ ทำให้ตาลาย แต่ชิป AI จะช่วยปรับให้สมูธอ่านง่ายขึ้น รวมถึงฉากที่มีตัวหนังสือเป็นแบกกราวด์ AI ก็จะช่วยปรับตัวหนังสือเหล่านั้นคมชัดให้อ่านได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเพ่งจนปวดตา ซึ่งเราได้ไปชมตัวอย่างมา ถือว่าทำได้ดีมากๆ ทั้งปรับตัวหนังสือที่กำลังวิ่งอยู่ให้ชัดไม่สั่น และลูกเบสบอลที่ขว้างมาเร็วๆ ก็ปรับได้ชัดกว่าแบบเดิมมากๆ
Real Depth Enhancer Pro
จะเพิ่มเลเยอร์ความลึกให้เหมือนจริง แยกฉากหน้าและฉากหลังให้ภาพมีมิติ เพื่อการรับชมที่ได้อรรถรส
2.AI Sound
จะเป็นการทำงานควบคู่กันไปใน 3 ฟีเจอร์ AI Active Voice Amplifier Pro ช่วยแยกเสียงบทสนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง โดยมี Object Tracking Sound Pro ช่วยซิงค์เสียงกับคอนเทนต์บนหน้าจอ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่เต็มไปด้วยพลังและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น พร้อมช่วยปรับปรุงเสียงผ่าน Adaptive Sound Pro โดยการปรับเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์และเสียงภายในห้อง เพื่อให้ได้เสียงที่เต็มอิ่มและสมจริง
3.AI Optimization
AI Auto Game Mode
น่าจะถูกใจคอเกมไม่น้อย จะสลับไปเล่นเกมที ไม่ต้องตั้งค่าจอแสดงผลภาพและเสียงใหม่ให้วุ่นว่าย เพราะมี AI ช่วยจัดการให้ เมื่อต่อโปรแกรมเข้าเล่นเกมปุ๊บ ตัวทีวีสามารถตรวจจับและปรับโหมดภาพและเสียงไป Mode Game ให้อัตโนมัติ สามารถใช้งานเฉพาะเกมคอนโซลเท่านั้น หากใครยังไม่ถูกใจที่ทีวีปรับให้ จะไปปรับแต่งเองที่ AI Customization Mode ก็ได้ เอไอจะช่วยปรับภาพแต่ละฉากตามความต้องการของผู้ใช้ จะพร้อมให้ใช้งานในเดือนพฤษภาคม แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละผู้ให้บริการสตรีมมิงด้วยนะ
นวัตกรรมล้ำๆ ที่อยู่ใน Samsung TV เจนใหม่
Mini-LED สู่ Neo QLED 4K
จอแบบใหม่ ที่มาพร้อมความคมชัด และสีที่สดใสมากขึ้นกว่าเดิม ความคอนทรัสต์ต่างๆ ปรับได้สมดุลขึ้น ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น
Auto HDR Remastering
หากเปิดฟีเจอร์นี้ที่ตัวทีวี จะช่วยปรับคอนเทนต์ที่เป็น HDR ให้สมูธดูสมจริงมากขึ้น ภาพไม่แข็งกระด้าง
OLED Glare Free
อันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ว้าวเลยนะ ตอนที่ทางซัมซุงแสดงการเปรียบเทียบให้ดู กับนวัตกรรมลดแสงสะท้อน รับชมคอนเทนต์ได้ทุกสภาวะแสง ไม่ว่าจะแสงจ้า หรือห้องมืดๆ อย่างเวลานั่งดูทีวีอยู่ แล้วมีแสงส่องเข้าที่จอทีวี หากเป็นทีวีแบบเดิม (ทีวีฝั่งซ้าย) ก็จะมองเห็นหลอดไฟสะท้อนบนจอแบบชัดเจน จนทำให้รำคาญตา แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ ดูจากทีวีฝั่งขวา จะเห็นว่า แสงที่ตกกระทบจอนั้นน้อยลงจนแทบมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นแสงจากหลอดไฟ หรือแสงผ่านหน้าต่าง
Samsung Knox Security : Knox matrix
ความปลอดภัยที่ไม่ได้มีแค่บนมือถือ ซัมซุงได้ใส่ระบบรักษาความปลอดภัย Knox Security มาบนทีวีด้วย ที่ได้รับการรับรอง Common Criteria ซึ่งเป็นที่ยอมรับใน 31 ประเทศ ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เราผูกไว้บนสตรีมมิงและแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพาสเวิร์ด รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต ก็จะได้รับการป้องกันจากแฮกเกอร์
Music Frame
นอกจากเทคโนโลยีด้านทีวี เรายังได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ Samsung อย่าง Music Frame ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Frame ที่นอกจากจะเป็นลำโพง ยังสามารถใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วย ทำเป็นกรอบรูปจริงติดตั้งบนผนัง หรือวางตั้งไว้บนชั้นสวยๆ หากใครไม่อยากใช้รูปที่เขาติดมา ก็นำภาพถ่ายหรือภาพศิลปะที่ต้องการมาเปลี่ยนได้
Music Frame สามารถเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ, Wi-Fi เล่นเพลงจากมือถือได้ง่ายๆ รองรับ Spotify (Hi-Fi) Connect อีกด้วย จะใช้แบบเดี่ยวๆ ก็ได้ หรือจับคู่กับทีวีและซาวด์บาร์ รุ่นใหม่ ปี 2024 ของทาง Samsung ผ่าน Q-Symphony ก็จะได้เสียงเซอร์ราวด์ เอาไว้ดูหนังให้ฟีลเหมือนดูในโรงหนังเลย ซึ่งลำโพงสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 5 ตัว ตอนที่เราไปชม ทางซัมซุงลองต่อให้ฟังเป็นตัวอย่าง 2 ตัว ก็บอกเลยว่าทำได้ดีสุดๆ เพราะเสียงไล่ระดับซ้ายขวาแบบมีมิติ ดูหนังได้อรรถรสขึ้น ส่วนการฟังเพลงแบบลำโพงเดียว ผ่าน Spotify ก็เสียงคมชัด เปิดดังๆ เสียงไม่สั่นไม่แตก กับราคาค่าตัวที่ 10,000 นิดๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม
หากใครสนใจ ก็เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ Samsung ได้เลย
Comment