ในงาน Galaxy Unpacked 2021 ก็ได้มีการเปิดตัวทั้งมือถือเรือธงซีรีส์ Galaxy S21 และหูฟัง Galaxy Buds Pro ไปแล้ว ทาง Samsung ก็ได้ขนเอา Gadget เจ๋ง ๆ อย่าง Galaxy SmartTag และ SmartTag+ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดตาม Location หน้าตาเหมือนพวงกุญแจ ที่มาพร้อมฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่างการระบุตำแหน่งผ่าน Bluetooth หรือจะใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ IoT ในบ้านก็ได้

ระบุตำแหน่งผ่านระบบ Bluetooth

Galaxy SmartTag มีรูปร่างหน้าตาเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ ที่เจาะรูเอาไว้ตรงมุมสำหรับเกี่ยวกับห่วงกุญแจ หรือจะเอาไปติดไว้กับอะไรก็ได้ที่เรามักจะทำหายอยู่บ่อย ๆ โดยมันจะใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.0 แบบ Low-Power ในตัวเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับมือถือ ซึ่งเวลาที่เราหาของชิ้นนั้นไม่เจอเมื่อไหร่ ก็แค่เปิดแอป Smart Thing ขึ้นมาเพื่อชี้เป้าได้ทันทีว่าของชิ้นนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่

Galaxy SmartTag จะทำงานร่วมกับแอป Smart Thing บนมือถือ Galaxy (ยังไม่รู้ว่าจะสามารถใช้งานกับมือถือรุ่นอื่น ๆ ได้หรือไม่) ซึ่งผู้ใช้งานก็สามารถนำเอา SmartTag ไปติดกับอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นกุญแจบ้าน กระเป๋าเดินทาง หรือจะเอาไปติดกับปลอกคอสัตว์เลี้ยง เพื่อเอาไว้ติดตาม Location เวลาที่หาไม่เจอนั่นเอง โดย SmartTag และมือถือที่เชื่อมอยู่ จะมีระยะทางอยู่ที่ 120 เมตร (กรณีที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง)

ซึ่งฟีเจอร์ของ Galaxy SmartTag ก็จะเป็นการหา Location ผ่านระบบ Bluetooth ที่กล่าวไปข้างต้นโดยหาก SmartTag หลุดออกไปนอกเขตสัญญาณ Bluetooth มันก็จะบอกตำแหน่งสุดท้ายของตัว Tag ก่อนที่สัญญาณจะหลุดไป

ซึ่งผู้ใช้สามารถกดดูกำลังความแรงของสัญญาณเพื่อระบุระยะห่างระหว่างมือถือกับ Tag ได้ และหากว่าเข้าใกล้พอแล้วก็สามารถสั่งให้ตัว SmartTag ส่งเสียงออกมาเพื่อให้หาเจอได้ง่ายขึ้น

SmartTag ใช้แบตเตอรี่แบบกระดุม CR2032 โดยสามารถใช้งานได้ประมาณ 280 วัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำ และฝุ่น IP53 อีกด้วย

ควบคุมอุปกรณ์ IoT ได้

นอกจากฟีเจอร์ในการระบุตำแหน่งแล้ว ตัว SmartTag ยังสามารถใช้งานเป็นรีโมตในการควบคุมอุปกรณ์ IoT ที่รองรับได้อีกด้วยซึ่งสามารถตั้งคำสั่งได้สองแบบคือกดค้าง หรือกดเพียงหนึ่งครั้งเพื่อใช้คำสั่งต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้งานตั้งเอาไว้ได้ เช่นกด 1 ครั้งสำหรับเปิด/ปิดไฟ, กดค้างเพื่อเปิดแอร์ เป็นต้น

นอกจาก Galaxy SmartTag รุ่นธรรมดา ยังมีรุ่น SmartTag+ ที่เปลี่ยนไปใช้สัญญาณ Ultra Wideband เพื่อเพิ่มระยะทาง และความแม่นยำมากขึ้นซึ่งจะสามารถใช้ได้กับมือถือที่รองรับ Ultra Wideband ได้เท่านั้น (ปัจจุบันยังมีมือถือไม่กี่รุ่นที่รองรับ เช่น Galaxy Note 20 Ultra, S20+, S20 Ultra และ iPhone 11 กับ iPhone 12 Series)

ราคา

SmartTag จะเริ่มวางขายแบบ Global ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2021 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีโอ๊ตมีล, สีเขียวมิ้นท์ และสีชมพู ราคาชิ้นละ 29.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 900 บาท) แต่ในอนาคตจะมีการขายเป็นแพ็คคู่ในราคา 49.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 1,500 บาท) ส่วน SmartTag+ จะเริ่มวางขายภายในปีนี้เริ่มต้นที่ชิ้นละ 39.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 1,200 บาท) หรือจะซื้อเป็นแพ็ค 2 ชิ้นในราคา 64.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 2,000บาท)

Play video