Samsung Electronics เปิดเผยรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ออกมา เมื่อมองภาพรวมทั่วโลกแล้ว Samsung ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 5% ทำรายได้ไป $57,460 ล้าน และกำไรโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่สอง 20.9% ซึ่งมีมูลค่าถึง $1,540 ล้าน

หากดูกันเป็นรายธุรกิจ เริ่มจาก Semiconductor ที่รับผิดชอบด้านการผลิตชิปสำหรับ RAM, หน่วยความจำ, ชิปเซ็ต, โมเดมและอื่นๆ นั้นทำกำไรไปได้ $11,980 ล้านคิดเป็นเกือบ 78% ของไตรมาสที่ 3 นี่เลย Samsung อธิบายว่าผลกำไรตรงนี้มาจากความต้องการของชิป RAM และหน่วยความจำที่มีขนาดสูงเพื่อใช้ในสมาร์ทโฟนที่ถูกปล่อยในช่วงที่ผ่านมา

ส่วน Samsung Display ที่รวมไปถึงหน้าจอโทรทัศน์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนนั้นมีส่วนแบ่งอยู่ที่ $965 ล้าน เมื่อพูดถึงแผง OLED ขนาดเล็ก Samsung พยายามสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ๆ และปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน อย่างที่เรารู้กันว่า Samsung เป็นผู้ผลิตหน้าจอ OLED รายใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับสมาร์ทโฟน ทั้ง Apple และ Google ก็เป็นลูกค้าของ Samsung ทั้งนั้น หวังว่าความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนจะทำให้เรามีสมาร์ทโฟนในราคาสบายกระเป๋าที่มากับหน้าจอ OLED มากขึ้น

สำหรับแผนก Mobile Communications นั่นมีรายได้อยู่ที่ $21,860 ล้าน แต่พอมาดูที่ผลกำไรกลับอยู่ที่ $1,950 ล้านเท่านั้น ผลงานในไตรมาสนี้นั้นน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วเสียอีก สาเหตุนั้นมาจากยอดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นกลางถึงรุ่นเล็กที่ลดลง ขัดแย้งกับการมาของ Galaxy Note 9 และสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ตัวอื่น Samsung จึงต้องลงเงินกับการทำมาร์เก็ตติ้งและโปรโมชั่นในการที่จะเพิ่มยอดขายทำให้กำไรของฝั่งโทรศัพท์หายไป

การคาดการณ์สำหรับปี 2019 นั้นไม่ได้ไปในทิศทางเชิงบวกสักเท่าไร แต่ Samsung ก็ทีแผนที่จะเพิ่มยอดขายของสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมด้วยดีไซน์ที่แตกต่างและไลน์อัพที่หลากหลาย และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นใช้ในกลุ่ม Galaxy ทั้งหมด รวมถึงซีรีส์ Galaxy A ด้วย ซึ่งน่าจะหมายถึงสมาร์ทโฟนพับได้, ที่สแกนลายนิ้วมือบนจอ, 5G และหวังว่าจะมี under-display camera sensors ที่ Samsung เคยพูดถึงในการประชุมที่ผ่านมา

 

ที่มา: PhoneArena