มาจะกล่าวบทไป Samsung GALAXY Core และ Samsung GALAXY Ace 3 มันแตกต่างกันอย่างไรหนอ

Samsung มีการซอยรุ่นยิบย่อยมากมายจนหลายๆคนรวมถึงพนักงานขายของซัมซุงเองบางทีก็ยังมึนว่าแต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร อย่างเจ้า Galaxy Core และ Ace 3 ที่เปิดราคามาต่างกันเพียงพันเดียว (7,900 บาท และ 6,900 บาท) แต่ว่าสเปคโดยรวมใกล้กันมาก คนก็ถามกันมาว่าแล้วอย่างงี้เราจะเลือกซื้ออะไรดี?? วันนี้เรามีคำตอบให้ครับ

ไปดูสเปคของ Galaxy Ace 3 และสเปคของ Galaxy Core เปรียบเทียบกันดูแบบละเอียดๆกันก่อนได้

เริ่มเปิดไล่เฉาะทีละส่วน

   vs   

CPU:
Galaxy Core: Dual-core 1.2GHz (Cortex-A5)
Galaxy Ace3: Dual-core 1.0GHz (Cortex-A9)

ดูจากตัวเลขผิวเผินเหมือนว่า Core น่าจะทำงานได้ดีกว่าเพราะมี CPU ที่แรงกว่า 200MHz แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ใช่เช่นนั้นเนื่องจาก Ace 3 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Cortex-A9 ซึ่งใหม่กว่า ถ้าเปรียบเทียบให้เข้าใจหน่อยก็คือ รถเครื่องยนต์เทคโนโลยีเมื่อ 5 ปีก่อนที่ความจุ 1,800 ซีซี กับเทคโนโลยีปัจจุบันที่ความจุ 1,600 ซีซี เครื่องปัจจุบันจะกินน้ำมันน้อยกว่า แต่ว่าเร่งทำความเร็วได้สูงกว่าเครื่องเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็เป็นได้

สรุปคือ ผมยังไม่มีเคร่ืองให้เทสต์จึงยังไม่กล้าฟันธงว่าดีกว่าขนาดไหน แต่เชื่อว่า Ace 3 น่าจะดีกว่า ยังไงเดี๋ยวจะมาอัพเดทให้ฟังอีกทีครับ 

Display:
Galaxy Core: 4.3” WVGA
Galaxy Ace3: 4.0” WVGA

ขนาดหน้าจอต่างกันในระดับที่มองออก แม้จะเป็นเพียงแค่ 0.3” แต่ว่าจับถนัดมือไม่ต่างกันมาก ความคมของ Ace 3 ก็จะคมกว่าเล็กน้อยเพราะขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า ข้อนี้จะค่อนข้าง subjective จึงขอให้ไปลองเองที่หน้าร้านจะดีกว่า ว่าชอบแบบไหนครับ 

Internal Memory:
Galaxy Core: 8GB + microSD up to 64GB
Galaxy Ace 3: 4GB + microSD up to 64GB

หน่วยความจำน่าจะเป็นข้อเสียหลักของ Ace 3 เลยก็ว่าได้เพราะเหลือที่สำหรับลงแอพเก็บภาพต่างๆราวๆ 1.8GB เท่านั้น ส่วน Galaxy Core จะเหลือเฟือกว่ามาก แต่อย่างไรก็ดี Ace 3 จะสามารถย้ายแอพลง SD Card ได้แต่ว่า Core กลับทำไม่ได้ซะงั้น!!?! 

Camera:
Galaxy Core: 5MP + Autofocus + Flash, 480p
Galaxy Ace 3: 5MP + Autofocus + Flash, 720p

กล้องมีความละเอียดเท่ากัน แต่ว่าความสามารถในการอัดวิดีโอกลับไม่เท่ากันเสียนี่ ส่วนนี้น่าจะมาจาก SoC ใหม่เก่าที่ต่างกัน ดังที่ได้เขียนบอกในหัวข้อ CPU นั่นเองครับ 

3G Speed:
Galaxy Core: 7.2 / 5.72Mbps (down/up)
Galaxy Ace 3: 14.4 / 5.72Mbps (down/up)

เช่นเดิมว่า Ace 3 มีชิพเซทที่ใหม่กว่า ดังนั้นจึงทำให้ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า แต่ในทางกลับกันแล้วความเร็วที่มากกว่า 5Mbps มันจำเป็นขนาดไหนหว่า เพราะความเร็วเฉลี่ยของ 3G บ้านเรารวมถึงความจำเป็นที่ในการใช้งานระดับ Mobile ได้ราวๆ 3Mbps แบบนิ่งๆก็น้ำตาปริ่มแล้วนะ วิ่งเร็วกว่านี้ระวังแพคหมดแบบไม่รู้ตัวได้จ้า

Bluetooth:
Galaxy Core: v3.0 with A2DP
Galaxy Ace 3: V4.0 with A2DP, LE, EDR

Ace 3 ยังคงได้ของใหม่กว่า Core อีกครั้ง โดย Bluetooth 4.0 ที่ Ace 3 รองรับจะกินไฟน้อยกว่า 3.0 เยอะมาก แต่(อีกแล้ว)อุปกรณ์ในท้องตลาดตอนนี้รวมถึงที่เราๆหลายคนใช้อยู่ ส่วนมากจะเป็นแค่ v2.0 เท่านั้น ซึ่งต่อให้ Ace 3 เรารองรับที่ v4.0 มันก็จะ downgrade ตัวเองลงมาให้เข้ากับอุปกรณ์ ส่วนถ้าใครจะหาอุปกรณ์ Bluetooth v4.0 มาใช้ให้เข้ากัน ก็ต้องบอกว่าราคายังแพงกว่า v2.0 เป็นเท่าตัวเลยคร้าบบบบ 

GPS:
Galaxy Core: A-GPS
Galaxy Ace 3: A-GPS with GLONASS

มือถือรุ่นไหนที่มี GLONASS จะทำให้รับสัญญานดาวเทียมได้มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้จับสัญญานได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมครับ งานนี้ Ace 3 ก็ทำเช่นกัน ส่วนถ้าถามว่า Core ไม่มี GLONASS แล้วแย่มั้ย ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ถึงกับแย่นะครับ ยังจับสัญญานได้ดีอยู่เหมือนกัน แค่น่าจะด้อยกว่า Ace 3 เล็กน้อยเท่านั้นเองครับ 

OS:
Galaxy Core: android 4.1.2
Galaxy Ace 3: android 4.2.2

ขอเดาว่า Ace 3 น่าจะได้รับการพัฒนาช้ากว่า Core จึงทำให้ได้รับเป็น Android 4.2.2 มาตั้งแต่เกิด แต่เอาจริงๆมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากเลยระหว่างสองเวอร์ชั่นนี้ เพราะฟีเจอร์เด่นหลายๆอย่างที่มากับ Android 4.2.2 ก็ไม่ได้ถูกนำเอามาใช้กับสองรุ่นนี้หรอก 😛 

Battery:
Galaxy Core: 1,800mAh
Galaxy Ace 3: 1,500mAh

แม้ว่าตัวเลขความจุแบตเตอรี่ของ Ace 3 จะน้อยกว่า Core แต่ในทางปฎิบัติแล้วอาจจะใช้งานได้ระยะเวลาที่เท่ากันก็ได้เพราะว่าต้องอย่าลืมว่า Core มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่ารวมถึง Chipset ที่เก่ากว่า ทำให้กินไฟมากกว่าทาง Ace 3 นั่นเองครับ

ข้อดีของ Ace 3

ข้อดีของ Core

– CPU และ Chipset ดีกว่า

– จอคมกว่าหน่อยนึง เพราะหน้าจอเล็ก

– อัดวิดีโอได้ความละเอียดระดับ HD

– ความเร็วสูงสุด 3G มากกว่า

– Bluetooth ใหม่กว่า ประหยัดพลังงาน

– มี Glonass จับสัญญาน GPS ดีกว่า

– สองซิม

– จอใหญ่ ใช้งานสะดวกกว่า

– มีเมมเยอะ ลงแอพได้มากกว่า

ดูจาก Spec แล้วหลายๆอย่าง Galaxy Ace 3 ดูจะดีกว่า Galaxy Core เสียด้วยซ้ำไป เพราะว่า Chipset ที่ใช้เป็นของ Broadcom ที่ทำราคาได้ถูกกว่าแต่กลับให้สเปคมาสูงกว่าทาง Qualcomm ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ติดตลาด คนให้ความไว้วางใจ ดังนั้นส่วนตัวมองว่าในด้านการใช้งานจริง Galaxy Core จะดูมีภาษีกว่าเพราะได้สองซิม จอใหญ่ รวมถึงเมม 8GB และการรองรับของแอพต่างๆน่าจะมากกว่า ซึ่งสเปคหลายๆอย่างของ Ace 3 ที่เหนือกว่าอาจจะไม่ได้จำเป็นเลยเสียด้วยซ้ำไป มีเพียงแค่เรื่องย้าย App to SD นี่แหละที่ทำให้น่าสนใจอยู่ ต้องรอดูว่า Core จะได้รับการอัพเดทให้ทำได้เช่นกันหรือไม่

สรุปคือ
เลือก Ace 3 ถ้าไม่สนใจสองซิม และจอใหญ่ขึ้นอีกนิด รวมถึงรับความเสี่ยงของ Broadcom ได้
เลือก Core ต้องการความชัวร์ สองซิม และจอใหญ่ครับ 

ปล. ไม่ต้องด่าเรื่องสเปคของ Samsung ว่าให้น้อยกว่าชาวบ้านน่อ อย่างที่บอกเอาไว้สเปคไม่ใช่ทุกสิ่ง
ปล.2 ซื้อซัมซุงไม่ต้องเทียบกับแบรนด์อื่น มันต้องมีศรัทธา!! 😀
ปล.3 ทั้งสองตัวจับครั้งแรกแล้วก็รู้สึกโอเค น่าจะดีได้ตามมาตรฐาน Samsung
ปล.4 ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเทียบสเปคอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่ได้ลองใช้งานจริง ไว้เดี๋ยวมีโอกาสจะเอามาเล่าให้ฟังอีกทีนะคร้าบบบบ

[updated] review การใช้งานจริงออกแล้วจ้า [Review] รีวิว Galaxy Ace 3 และ Galaxy Core แอนดรอยด์ราคากลางๆจาก Samsung เชิญทัศนาได้

เพิ่มเติมรีวิวเต็มๆของ Galaxy Win Quadcore ต่ำหมื่นที่แพงกว่า Galaxy Core แค่พันเดียว