เปิดตัวและวางขายกันไปแล้ว กับสมาร์ทโฟน Galaxy M Series รุ่นใหม่จาก Samsung ที่เน้นความคุ้มค่า อย่าง Galaxy M23 5G และ Galaxy M33 5G ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจทั้ง 2 รุ่น แต่อาจลำบากกับคนซื้อ (ฮา) เพราะทุกอย่างดันใกล้เคียงกันไปหมดในราคาที่ห่างกันไม่มากนัก แค่ 2 พันบาท แล้วกับส่วนต่างตรงนี้ควรจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อรุ่นใหญ่ดีไหม หรือจะประหยัดงบซื้อรุ่นเล็กดีกว่า ? ทาง DroidSans จะพาไปหาคำตอบกันครับ

Galaxy M23 5GGalaxy M33 5G
จอภาพTFT ขนาด 6.6 นิ้ว
ความละเอียด 2408 x 1080 พิกเซล
อัตรารีเฟรช 120Hz
ชิปSnapdragon 750G 5GExynos 1280
หน่วยความจำRAM 6GBRAM 8GB
สตอเรจROM 128GB
รองรับ micro SD card
กล้องหลัง
กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, ซูมดิจิทัลสูงสุด 10 เท่า
กล้องอัลตราไวด์ 8MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา
กล้องมาโคร 2MP, รูรับแสง f/2.4
กล้องจับความลึก 2MP, รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า8MP, รูรับแสง f/2.2
เครือข่าย5G
การเชื่อมต่อ
Wi-FI 802.11a/b/g/n/ac
Bluetooth 5Bluetooth 5.1
NFC
พอร์ต
USB Type-C 2.0
แจ็ก 3.5 มม.
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
แบตเตอรี่5000mAh
รองรรับชาร์จไว 25W
ระบบปฏิบัติการOne UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
ขนาด165.5 x 77.0 x 8.4 มม.165.4 x 76.9 x 8.4 มม.
น้ำหนัก198 กรัม

ตัวเครื่องสีเมทัลลิก พรีเมียมและสวยกว่าที่คิด

Galaxy M23 5G และ Galaxy M33 5G มีดีไซน์โดยรวมที่เหมือนกันมากในแทบทุกมิติ น้ำหนักเท่ากันเป๊ะ สัดส่วนตัวเครื่องต่างกันแค่หลักทศนิยมของมิลลิเมตร เลย์เอาต์ของปุ่มกดและพอร์ตล้วนอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แถมวัสดุที่ใช้ยังเป็นพอลีคาร์บอเนตผิวด้านแบบเดียวกันอีก ดังนั้นในการจับถือจึงแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลย ลื่น ๆ ละมุนมือ ใครที่ชอบใช้งานแบบเปลือย ๆ ไม่ใส่เคสน่าจะถูกใจไม่น้อย เพราะตัวเครื่องติดรอยนิ้วมือยากมาก หรือต่อให้เลอะขึ้นมาจริง ๆ ก็ทำความสะอาดง่าย

.

จุดที่ไม่เหมือนกันมีแค่ในส่วนของกล้องหลัง โดย Galaxy M23 5G ใส่กล้องหลังมาให้ 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก กล้องอัลตราไวด์ และกล้องมาโคร วางเรียงกันตามแนวตั้ง ในขณะที่ Galaxy M33 5G มีกล้องจับความลึกเพิ่มเข้ามา รวมเป็น 4 ตัว วางเรียงแบบจัตุรัสอย่างสมมาตรกัน

Galaxy M23 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ เขียวเข้ม ฟ้าอ่อน ทองแดง ส่วน Galaxy M33 มี 3 สีเช่นกัน คือ กรมท่า เขียว และน้ำตาล ทั้งหมดเป็นสีแบบเมทัลลิก เราจะมองเห็นสีตัวเครื่องแตกต่างกันเล็กน้อยตามมุมที่แสงตกกระทบ ของจริงดูสวยกว่าที่คิดไว้มาก มองแล้วมันมีความพรีเมียมอยู่ไม่เบา

หน้าจอ 120Hz อะไร ๆ ก็ดูลื่นไหลไปหมด

Galaxy M23 5G และ Galaxy M33 5G มากับจอภาพ TFT ขนาด 6.6 นิ้วเท่ากัน ความละเอียดระดับ Full HD+ เท่ากัน มีอัตรารีเฟรช 120Hz เท่ากัน และเป็นหน้าจอ Infiniti-V วางกล้องเซลฟี 8MP แบบหยดน้ำเหมือน ๆ กัน พูดง่าย ๆ หากมองจากด้านหน้าอย่างเดียวคงแยกไม่ออก

การแสดงผลสีทั้งคู่ทำได้ดีมาก ดีเกินคาดไปพอสมควร สีสวยสด มุมมองกว้าง และสะท้อนแสงค่อนข้างน้อย แสดงให้เห็นถึงคุณภาพพาเนลและวัสดุปิดทับหน้าจอ

ทั้งนี้มีข้อสังเกตอยู่บ้าง ตรงที่พอวางข้าง ๆ กันแล้วหน้าจอของ Galaxy M33 5G ให้ความรู้สึกลื่นไหลกว่า Galaxy M23 5G ซะงั้น ทั้งที่รีเฟรชเรตเท่ากัน เห็นได้ในตอนไถหน้าจอขึ้น ๆ ลง ๆ ผ่านพวกตัวหนังสือต่าง ๆ อาจเป็นผลมาจากความแรงของชิปเซตหรืออย่างอื่น ? แต่ถ้าไม่จับผิดก็ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไร โดยรวมแล้วส่วนตัวยังโอเคกับมันอยู่ดี

ฟีเจอร์ครบเครื่อง ใส่มาเต็ม ๆ ไม่มีกั๊ก

ทั้งคู่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12 เหมือนกัน ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ใหม่ที่สุดในตอนนี้แล้ว และข้อดีที่ผมชอบมากของ Samsung คือ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่จะได้ฟีเจอร์ใกล้เคียงกัน แทบจะไม่หลงเหลือการแบ่งชนชั้นแบบสมัยที่ยังเป็น TouchWiz แล้ว ดังนั้นต่อให้เคยใช้รุ่นไหน ใช้ซีรีส์อะไรมาก่อน พอเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ประสบการณ์การใช้งานก็ยังคงเดิม ไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย

ขอยกฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาบางส่วน ดังนี้

  • Edge Screen : ลากนิ้วจากขอบหน้าจอเพื่อเปิดชอร์ตคัตต่าง ๆ
  • Dual Messenger : โคลนแอป เล่นโซเชียลมีเดียได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน
  • Secure Folder : เปรียบเสมือนเป็นตู้เซฟในโทรศัพท์ แอปและข้อมูลทั้งหมดที่ถูกสร้างหรือเก็บในนี้จะแยกตัวเป็นเอกเทศ ในการเข้าถึงต้องปลดล็อกก่อนเท่านั้น
  • Split Screen : แบ่งหน้าจอของแอปออกเป็น 2 หน้าต่าง
  • Pop-up View : เปิดแอปในโหมดหน้าต่างลอย สามารถใช้งานซ้อนทับกับ Split Screen ได้ เปิดพร้อมกันทีเดียว 5 แอปก็ยังไหว (แต่เอาจริง ๆ แค่ 3 แอปก็เต็มพื้นที่หน้าจอแล้ว)
  • Extra Dim : หรี่แสงหน้าจอให้ต่ำลงถึงขีดสุด สำหรับใช้งานในที่มืดมาก ๆ

นอกจากนี้ชยังมีแอปพิเศษที่อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองใช้งานกัน ชื่อว่า One Hand Operation + เป็นแอปที่ทำให้เราสามารถปรับแต่งการทำงานของ Gesture Control ในระดับแอดวานซ์ ตั้งค่าการทริกเกอร์และใส่คำสั่งย่อยต่าง ๆ เข้าไปได้เพียบ แอปนี้เป็นเอกซ์คลูซีฟเฉพาะสมาร์ทโฟน Samsung แต่มันไม่ได้ติดตั้งล่วงหน้ามาให้นะครับ ต้องไปดาวน์โหลดเองผ่าน Play Stoe หรือ Galaxy Store

REVIEW | รีวิว One Hand Operation + เพิ่มความสามารถให้ Gesture Control ทำอะไรได้มากขึ้น ใช้ได้เฉพาะมือถือ Samsung

แบตอึดสมราคา 5000mAh มีฟังก์ชันถนอมแบต ชะลอการเสื่อม

ต้องบอกว่า Galaxy M Series นี้มีจุดแข็งเรื่องความอึดของแบตมาแต่ไหนแต่ไร และรอบนี้ก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิม กับความจุ 5000mAh ที่ใช้ทั่วไปได้ตลอดทั้งวันอย่างไร้กังวล เพาเวอร์แบงก์คืออะไร แทบจะลืมไปได้เลย

ฟังก์ชันพิเศษที่หลายคนอาจไม่รู้ เพราะ Samsung ซ่อนเมนูเอาไว้คอ่นข้างลึก และเหมือนจะไม่มีการโปรโมตเท่าไหร่ คือ Protect Battery หรือฟังก์ชันถนอมแบต โดยจะเป็นการจำกัดการชาร์จสูงสุดเอาไว้ที่ 85% ซึ่งตามทฤษฎีสามารถชะลอการเสื่อมของประจุออกไปได้อีกนานโขเลย ถ้าใครคิดว่า 5000mAh นี่ใช้ยังไงก็ไม่หมดใน 1 วัน เปิดฟังก์ชันนี้เอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไร

วิธีเปิดฟังก์ชัน Protect Battery ในมือถือ Samsung

  • ไปที่ Settings
  • มองหาเมนู Battery and device care
  • เลือก Battery
  • ตามด้วย More battery settings
  • เปิดใช้งาน Protect battery

.

ส่วนเรื่องการชาร์จ ทั้งคู่รองรับเทคโนโลยี Fast charging ชาร์จไว 25W นะครับ ชาร์จแบต 50% ได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงเศษ ๆ ทดสอบหลายรอบมีคลาดเคลื่อนนิดหน่อยราว 4 – 7 นาที เป็นเรื่องปกติเพราะอุณหภูมิตัวเครื่องและอุณหภูมิแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการชาร์จ

ชิป Snapdragon 750G 5G และ Exnos 1280 แรงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

Galaxy M23 5G มากับชิป Snapdragon 750G 5G พร้อม RAM ขนาด 6GB ในขณะที่ Galaxy M33 5G ขับเคลื่อนด้วยชิป Exynos 1280 พร้อม RAM มากกว่าที่ 8GB ในการใช้งานทั่วไปไม่ได้เห็นความแตกต่าวอย่างมีนัยสำคัญ เปิด ๆ ปิด ๆ แอปทำความเร็วได้ใกล้เคียงกัน ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ

ผมลงไฟล์เพลงความละเอียดสูงไป 1,000 เพลงกว่า ๆ กินพื้นที่ไป 60GB หรือเกือบครึ่งหนึ่งของความจุ ซึ่งหนักเครื่องพอสมควร แต่การทำงานไม่ได้อืดลงแต่อย่างใด ทั้งนี้อาจมีข้อสังเกตเล็กน้อยเกี่ยวกับการรีเฟรชเวลาไถหน้าจอที่ Galaxy M33 5G ดูดีกว่า ตามที่กล่าวเอาไว้แล้วด้านบน ซึ่งไม่ได้ถือเป็นสาระสำคัญอะไรสักเท่าไหร่

ทั้งคู่รองรับฟีเจอร์ RAM Plus ดึงพื้นที่จาก ROM มาเพิ่มเป็น RAM ชั่วคราวในรูปแบบหน่วยความจำเหมือน Galaxy M23 5G มีให้เลือก 2 สเตป คือ 2 และ 4GB ทางด้าน Galaxy M33 5G ขยับขึ้นมาเป็น 3 สเตป โดยเพิ่มตัวเลือก 6 GB เข้ามา

.

หน้าเว็บของ Samsung ระบุว่า Galaxy M23 5G รองรับฟีเจอร์ RAM Plus สูงสุด 6GB ไม่แน่ใจเป็นการลงข้อมูลผิดพลาดหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่เอาเป็นว่า ของจริง ณ เฟิร์มแวร์ปัจจุบันมีให้เลือกสูงสุดที่ 4GB นะครับ

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพของชิปเซตจะเริ่มมาเห็นผลเอาตอนที่เล่นเกม บางเกม Galaxy M33 5G จะปรับกราฟิกได้สูงกว่า เล่นได้ไหลลื่น เฟรมเรตเสถียรกว่า อย่างเช่นตอนเล่น RoV จะเห็นเลยว่า Galaxy M23 5G เฟรมเรตมีแกว่งบ้าง ตอนที่ตะลุมบอนกัน ในขณะที่ Galaxy M33 5G ไม่เป็น

ลำโพงดัง เสียงโอเค ถ้าฝาหลังไม่สั่นตามจะดีกว่านี้

ลำโพงหลัก Galaxy M23 5G และ Galaxy M33 5G ทาง Samsung ใส่มาให้ตัวเดียว เสียงกลางชัด ใส และดังดี ไม่อู้อี้ เสียงเบสพอมีให้ได้ยินบาง ๆ มี Dolby Atmos สำหรับใช้งานกับหูฟังที่เชื่อมต่อผ่านแจ็ก 3.5 มม.ด้วย

แต่ที่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่คือ เปิดเพลงหรือดูหนังแล้วเครื่องมันสั่นตามลำโพงครับ เป็นเหมือนกันทั้งคู่เลย ลำโพงอยู่ด้านล่างสุด แต่ดันสั่นไปถึงด้านบนสุดเลย ทำให้เวลาจับ ๆ อยู่แล้วรำคาญมืออยู่บ้างถ้าไม่ใส่เคส

กล้องหลังสูงสุด 4 ตัว ถ่ายภาพได้ครบทุกระยะ รองรับวิดีโอ 4K

กล้อง 3 ตัวของ Galaxy M23 5G ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP กล้องอัลตราไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP ไม่มีกล้องเทเลโฟโต แต่ใช้การซูมดิจิทัลทดแทนได้ สูงสุด 10 เท่า โดยรวมจึงครอบคลุมทุกระยะ ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ทางด้าน Galaxy M33 5G ใช้กล้องหลังชุดเดียวกัน ภาพจึงออกมาเหมือนกัน แต่เสริมกล้องจับความลึก 2MP เข้ามาอีก 1 ตัว รวมเป็น 4 ตัว สำหรับเพิ่มความสมจริงในการตัดขอบวัตถุในโหมด Portrait ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP

ในโหมด Pro สามารถปรับค่าได้ทุกอย่าง ทั้ง ISO ความเร็วชัตเตอร์ ชดเชยแสง โฟกัส และสมดุลสีขาว การวัดแสงปรับได้ 3 แบบ วัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ และวัดแสงเฉพาะจุด เลือกใช้งานได้ตามสถานการณ์

ตัวอย่างภาพถ่าย Galaxy M23 5G และ Galaxy M33 5G

.

สรุปแล้ว ราคาห่างกัน 2 พันบาท รุ่นไหนน่าโดนกว่ากัน ?

หากเลือก Galaxy M23 5G คงเป็นเหตุผลที่ว่า ราคาย่อมเยากว่า ชิป Snapdragon 750G 5G มีประสิทธิภาพที่ดีพอจนการใช้งานทั่วไปออกมาใกล้เคียงกัน ยิ่งถ้าไม่เล่นเกมคงแยกความแตกต่างแทบไม่ออกเลย

Play video

ส่วน Galaxy M33 5G น่าสนใจหากมองในมุมที่ว่า จ่ายเงินเพิ่มแค่ 2,000 แต่ได้ทั้งกล้องจับความลึกเพิ่ม 1 ตัว RAM เพิ่ม 2GB และอัปเกรดชิปเป็น Exynos 1280 ซึ่งดูแล้วต่างก็มีมุมมองที่คุ้มค่าในแบบของตัวเองทั้งคู่ ทำเอาตัดสินใจยากอยู่ไม่น้อย และคงไม่มีคำตอบที่ตายตัว ในท้ายที่สุดอาจไปจบตรงที่ดีไซน์ภายนอกกับสีของตัวเครื่องหรือเปล่า ? เพราะส่วนนี้เองก็น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของบางคนเหมือนกัน

  • Galaxy M23 5G : ราคา 8,999 บาท
  • Galaxy M33 5G : ราคา 10,999 บาท