เริ่มเห็นคนใช้ Samsung Galaxy Note 4 กันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยจะมาขอแชร์ Tips ในการใช้งานเครื่องนี้กันสักหน่อย เนื่องจากตอนนี้ก็ใช้งานเจ้าสมาร์ทโฟนสมุดจดรุ่นที่ 4 นี้อยู่เช่นกันและมีการปรับแต่งค่าหลายๆตัวบางอย่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งานอีกมาก โดย Tips ที่เอามาแชร์นี้บางข้อสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับของ Samsung Galaxy เครื่องอื่นๆ หรือ Android แบรนด์อื่นได้เหมือนกันนะครับ ยังไงลองดูผ่านๆกันได้

1. ปิดการใช้งาน S Voice

ข้อนี้เป็น Tip แนะนำสำหรับทุกคนที่ใช้ Samsung Galaxy ทุกเครื่องที่มี S Voice เพราะนอกจากมันไร้ประโยชน์ ทำอะไรไม่ได้มากกว่า Google Now แล้ว มันยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลากดปุ่ม Home แล้วรู้สึกหน่วงด้วย เพราะว่าตัวระบบต้องหน่วงเวลารอดูว่าเราจะกดปุ่ม Home ครั้งที่ 2 เพื่อเข้า S Voice นี้รึเปล่า

 

วิธีตั้งค่า ให้กดเข้า S Voice ไปตั้งค่า แล้วเอา “Open via the home key” ออกซะ แล้วคุณจะรู้สึกว่าการกลับหน้า Home มันเร็วปรื้ดปร๊าดขึ้นอีกมาก

 

2. ปิด Flipboard Briefing

ถ้าหากคุณรำคาญเวลาลากหน้าจอไปทางซ้ายจนสุดแล้วเผลอเข้าหน้า Briefing อยู่เสมอๆเหมือนผมแล้วล่ะก็ขอเชิญปิดครับ

 

วิธีตั้งค่า ให้กดปุ่ม multitasking (ด้านซ้ายของปุ่ม Home) ค้างเอาไว้ หรือแตะพื้นที่ว่างบนหน้าจอของหน้า Homescreen แล้วกด Home screen settings จากนั้นก็ติ๊กเอา Flipboard Briefing ออกซะ

 

3. ปิด GPS และ Sensor เมื่อไม่ได้ใช้งาน

ถ้าคิดว่าเครื่องของคุณแบตหมดไว้กว่าที่คิด อยู่ไม่ครบวันหรืออยู่ได้แบบปริ่มๆ และเมื่อเปิดไปที่หน้า Settings > System > Power Saving แล้วพบว่าตัว Android System กับ Play Services กำลังซดแบตอย่างหนักหน่วงอยู่ล่ะก็ ปิด GPS ทิ้งไปได้เลยครับ สาเหตุตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการที่แอพมันค้าง หรือว่า Google มันกากเองกันแน่ แต่ชัวร์ๆคือแบตจะอืดขึ้นแบบทันตาเห็นเลย

 ปิด GPS แล้วอยู่ยาวขึ้นมากกกก

ส่วนเหล่าฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่มีมากมาย ส่วนมากใช้เซนเซอร์บนเครื่องซึ่งกินพลังงานทั้งสิ้น แถมบางครั้งทำงานไม่ได้ดั่งใจด้วย จึงขอลิสต์ที่ปกติผมปิดทิ้งมาให้ดังนี้ครับ

Settings > Devices > Display and wallpaper

: Increase touch sensivity > เป็นโหมดเพิ่มความไวต่อการสัมผัส ซึ่งจะทำให้แม้ใส่ถุงมืออยู่ก็จะสามารถกดหน้าจอได้ แต่ถ้าเปิดใช้งานปกติแล้วจะไม่จำเป็นแถมจะเปลืองแบตด้วยนะ

: Smart stay > เป็นโหมดที่จะเปิดหน้าจอไปเรื่อยๆตราบที่เรายังมองหน้าจอ แต่นั่นก็หมายถึงจะต้องเปิดกล้องหน้าเพื่อวิเคราะห์ใบหน้าของเราเรื่อยๆเช่นกัน ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัว นอกจากไม่ค่อยเวิร์คแล้ว ยังจะเปลืองแบตอีกต่างหากครับ

Settings > Devices > Sound

:Touch sounds > ถ้าเกิดว่าคุณรำคาญเสียงปุ๋ยๆๆเวลากดเจ้า Galaxy Note 4 แล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ปิดเสียง Touch sounds ทิ้งโดยพลันครับ และนั่นก็อาจจะทำให้คนรอบข้างของคุณได้รับความสงบขึ้นอีกด้วยล่ะ ^^”

Settings > Devices > Motions and gestures

: จริงๆปิดทั้ง 4 อย่างไปเลยก็ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตลำบากอะไรมากนัก แต่ว่าถ้าอยากจะเปิดจริงๆ ที่ผมเห็นว่ามันพอจะโอเคก็จะมี Mute/pause ที่เอาไว้ปิดเสียงเวลามีสายเรียกเข้ามาด้วยการเอามือแปะบนหน้าจอ หรือคว่ำเครื่องลงนั่นแหละ

สำหรับคนที่จะเถียงว่าซื้อมาเพื่อปิดทำไม ก็อยากบอกว่าจะเปิดตลอดเวลาก็เปิดได้ครับ นี่เป็นเพียงเกร็ดการใช้งานให้แบตใช้งานวันนึงเหลือๆได้ และที่สำคัญคือจะมันเปิดกลับมาได้ไม่ยากเย็นอะไรด้วย

ขอแอบ + ปิดเข้าไปอีกข้อเพราะเพิ่งเจอคือ ให้ปิดตัว Smart network switch ทิ้งไปสำหรับคนที่อยู่ในบริเวณสัญญาณ Wi-Fi อ่อนๆ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาติดๆดับๆของ WiFi และทำให้สัญญาณไม่เสถียรไปแทน

 

4. เปิด Device Manager

แนะนำให้ทำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนใช้ Android ทุกคน เพื่อป้องกันเครื่องหายหรือถูกขโมย โดยเราสามารถสั่งค้นหาตำแหน่ง เรียกให้มันร้อง ล็อคเครื่องไม่ให้ใช้ หรือล้างเครื่องทิ้งได้ทันที เรียกได้ว่าเป็น Find my Android เลยนั่นเอง

วิธีตั้งค่า Settings > System > Security > Device administrators > ติ๊กถูกที่ Android Device Manager

ในกรณีต้องการติดตามเครื่องเพราะโดนขโมยหรือสูญหาย สามารถใช้เครื่องเพื่อนที่ติดตั้งแอพ Android Device Manager หรือเข้าไปที่หน้าเว็บ https://www.google.co.th/android/devicemanager

แถมอีกนิด ป้องกัน S Pen หายด้วย S Pen alerts (Settings > Device > S Pen) เปิดทิ้งเอาไว้ เวลาลืมใส่เจ้า S Pen กลับคืนที่ มันจะได้ร้องแจ้งเตือนให้เรารู้ตัวได้ว่ามันหายไปซะแล้ว

 

5. เปิด Data usage

คอยเก็บข้อมูลว่าเราใช้เน็ตไปมากน้อยแค่ไหน พร้อมแจกแจงมาให้ด้วยว่าแอพตัวใช้ไปเท่าไหร่ เมื่อใช้งานใกล้ถึงยอดแพคเกจ ก็สามารถแจ้งเตือนหรือจำกัดการใช้งานได้ทันที

วิธีตั้งค่า Internet และ Settings > Connections > Data usage

 

6. เปิด Multi window

ใช้งานหลายแอพได้พร้อมกัน ลากส่งรูปจากแกลอรีเข้าไปส่งใน Line หรือเปิด YouTube ดูพร้อมๆกับเล่นเฟซก็ทำได้เลย และยังมีแอพอื่นที่รองรับการทำงานแบบหลายหน้าจออีกมากมาย

วิธีเปิดใช้งาน Settings > Multi window หรือว่าจะกดเปิดจาก notification panel ก็ได้ จากนั้นก็สามารถเปิดแอพเป็นหน้าจอเล็กด้วยการลากจากขอบจอบนลงล่างเป็นเส้นทะแยงมุมขวา-ซ้าย หรือว่าจะกดปุ่ม multitasking ก็ได้

7. ปรับ Auto-update apps

มีหลายคนที่แพคเกจอินเทอร์เนตหมดไปแบบไม่รู้ตัวเพราะปัญหาอัพเดทแอพอัตโนมัตินี้ ซึ่งโดนกันทีเป็น 100MB ซึ่งเราสามารถตั้งค่าให้มันอัพเดทแอพต่อเมื่อเราต่อ Wi-Fi อยู่เท่านั้นได้

วิธีปรับค่า  Play Store > Settings > Auto-updat apps ให้กลายเป็น Wi-Fi only ทำให้ต่อไปนี้มันจะอัพเดทก็ต่อเมื่อต่อกับ Wi-Fi เท่านั้นแล้ว

 

8. ปรับให้เครื่องตอบสนองได้ไวขึ้น

ถ้าใครรู้สึกว่า Galaxy Note 4 ในมือมันยังไม่ลื่นปรู๊ดปร๊าดอย่างใจ ส่วนนึงมาจากที่ Samsung ไปตั้งค่าให้ตัว Transition (ภาพเคลื่อนไหวระหว่างเปลี่ยนหน้า) มันหน่วงเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม แต่ว่าเราสามารตั้งค่าปรับส่วนนี้ให้เร็วขึ้นได้

วิธีตั้งค่า ก่อนอื่นต้องไปเปิด Developer Options ขึ้นมา โดยเราต้องไปที่ Settings > System > About device แล้วก็แตะที่ Build number จำนวน 7 ครั้ง ก็จะมี Developer Options ขึ้นมาให้เราเลือก จากนั้นก็ให้เลื่อนลงไปปิด 3 ค่านี้ Window animation scale, Transition animation scale, และ Animator duration scale ทั้งหมดก็จะเร็วขึ้นทันตาเห็น แต่ถ้าเกิดว่ายังอยากเห็นกราฟฟิกหรือเอฟเฟกต์ต่างๆอยู่ก็ลดลงจากปกติเหลือสัก 0.5x ก็ได้ครับ

 

9. ปรับ Quick Settings

เอาไอคอนลัดสำหรับตั้งค่าบน notification panel มาปรับแต่งให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เอาการเปิดปิดที่ใช้บ่อยมาไว้เป็นอันดับแรกๆ อย่างปกติแล้วผมมักจะใช้ Mobile hotspot เยอะก็ย้ายมันมาไว้แทน Bluetooth ไปเลยก็ได้

วิธีตั้งค่า Settings > Device > Notification panel

 

10. ลอง Lock focus และวัดแสง

ฟีเจอร์ที่สุดท้าย Samsung ก็ยอมทำออกมาให้ซักที เพราะก่อนหน้านี้เหล่าคนชอบถ่ายภาพจะบ่นกันเยอะมากว่าทำไม Samsung เป็นเจ้าเดียวที่ไม่ยอมใส่ความสามารถนี้มาให้ซักที แม้ว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์ถึงกับแยกจุดโฟกัสกับวัดแสงได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีที่รอคอยกันมานาน T__T

วิธีใช้ เมื่อเข้ากล้องก็ให้แตะบริเวณที่ต้องการจะโฟกัสหรือค่าแสงจนกว่าจะมีวงกลมประขึ้นมาบนหน้าจอ

ถ้ากดถ่ายธรรมดา แสงตรงป้ายจะโอเวอร์หน่อยนึง

พอกดให้มันโฟกัส-วัดแสงแล้วจะได้ภาพที่พอดีมากขึ้น 

11. ลอง One-handed Operation

โหมดใช้งานมือเดียว ปรับปรุงมาให้ใช้สะดวกขึ้นกว่าเดิม และเมื่อใช้จนคุ้นแล้วจะเวิร์คกว่ามาคอยย่อจอลงเหลือครึ่งเดียวซะอีก มีตัวเลือกสามแบบให้ใช้ต่างสถานการณ์กัน 

 

One-handed input ปรับให้คีย์บอร์ดเลื่อนเยื้องมาด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้พิมพ์ด้วยมือเดียวสะดวกขึ้น

ซ้าย : Side key panel เรียกปุ่มกดมาไว้ด้านข้างแทน ทำให้ไม่ต้องคอยเอื้อมนิ้วลงไปกดที่ด้านล่าง ใช้จนชินแล้วสะดวกมาก
ขวา : ลดขนาดหน้าจอลงมาให้สามารถกดได้ทั่วด้วยมือเดียว 

วิธีใช้ Settings > Device > Display and wallpaper > One-handed opeartion

 

12. ลองของฟรีใน Galaxy Gift และ GALAXY Apps

อันนี้เป็นทีเด็ดอย่างนึงของเหล่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ Samsung ยังไงมีแล้วคอยหมั่นเข้าไปเช็คสิทธิพิเศษได้เรื่อยๆเลยนะ แอพเจ๋งๆก็มีปล่อยให้โหลดอยู่เช่น HERE Maps, Autodesk Sketchbook


ซื้อจากใน Play Store นี่เป็นร้อยนะครับ ในนี้ปล่อยฟรี!!

HERE Maps beta แผนที่นำทางสุดเจ๋ง ดาวน์โหลดฟรีจาก GALAXY Apps

นอกจากนี้อย่าลืมเล่นฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆที่มากับเครื่องอีกหลายๆอย่าง เช่น Photonote, อัดเสียงเฉพาะทาง, โหมดประหยัดพลังงานพิเศษ,  Download booster, ฯลฯ

 

ถ้าเกิดว่าใครใช้ Galaxy Note อยู่แล้วคิดว่ามีความสามารถอะไรที่ถูกลืมไป หรือการตั้งค่าที่น่าสนใจมาแชร์กันได้นะครับ 😀