Samsung นำสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy S22 มาเปิดตัวแล้ว รอบนี้ถูกแฟน ๆ คาดหวังเอาไว้พอสมควรจากความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างทั้งชิปเซต Snapdragon 8 Gen 1 และ Exynos 2200 ที่ขยับมาใช้สถาปัตยกรรม Armv9 บนกระบวนการผลิต 4 นาโนเมตร ซึ่งทรงพลังขึ้นในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการประมวลผล AI ที่เข้ามายกระดับกล้องและการถ่ายภาพ นอกจากนี้ Galaxy S22 Ultra ได้มากับปากกา S Pen กลายเป็นตัวแทนของ Galaxy Note อย่างเป็นทางการเรียบร้อย
ดีไซน์คล้ายเดิม เพิ่มเติมคือรักษ์โลก
Galaxy S22 และ S22+ มีหน้าตาโดยรวมคล้าย ๆ เดิม ซึ่งในช่วงหลัง Samsung จะดีไซน์ออกมาแนว ๆ นี้เป็นส่วนใหญ่ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย คงไว้ซึ่งความพรีเมียมด้วยวัสดุกระจก Gorilla Glass Victus ทั้งด้านหน้าและหลัง ประกบเข้ากับเฟรมอะลูมิเนียม แต่ Galaxy S22 Ultra นั้นจะฉีกแนวออกไปเลย ดูมีความเหลี่ยมคล้ายกับซีรีส์ Galaxy Note มากกว่า
ประเด็นน่าสนใจอย่างประการหนึ่งคือ จากแผนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน Galaxy for the Planet ตามที่ Samsung เปิดเผยออกมาเมื่อปีกลาย ไม่กี่วันก่อนได้มีการเปิดเผยกลยุทธ์เพิ่มเติมว่า บริษัทฯ จะนำ “อวนทะเล” ที่ถูกทิ้งลงมหาสมุทรตกปีละกว่า 640,000 ตันจนกลายเป็นขยะลอยเกลื่อน กลับมารีไซเคิลแล้วนำไปใช้ใหม่ ทดแทนชิ้นส่วนพลาสติกแบบเดิม ๆ ในทุกกลุ่มสินค้านับจากนี้ เริ่มจาก Galaxy S22 เป็นอันดับแรก
ครั้งแรกของซีรีส์ Galaxy S ที่มี S Pen ในตัว
Samsung ได้เพิ่มความสามารถในการรองรับ S Pen เข้ามาในซีรีส์ Galaxy S ตั้งแต่ S21 Ultra แต่กับ S22 Ultra ครั้งนี้พิเศษยิ่งกว่า เพราะมีปากกาพร้อมช่องเก็บในตัวเลย ไม่ต้องซื้อแยกเหมือนเดิมแล้ว แถมยังเป็นเวอร์ชันที่ผ่านการตีบวก ลดความหน่วงแฝงการเขียนจาก 9 เหลือเพียง 2.8 มิลลิวินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมากจากแผงวงจรภายในตัวใหม่ ประกอบกับใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการคาดเดาตำแหน่งล่วงหน้าหลายจุด
สำหรับฟีเจอร์ของ S Pen นั้นถอดแบบมาจากซีรีส์ Galaxy Note ทุกประการ ไล่ตั้งแต่การขีด ๆ เขียน ๆ และฟีเจอร์พื้นฐานของ Air Command ตลอดจนถึง Air Action วาดปากกาบนอากาศเพื่อเข้าสู่ทางลัดต่าง ๆ ตามที่กำหนด หรือใช้งานปากกาเป็นรีโมตควบคุมแอปกล้องถ่ายรูปจากระยะไกล ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนชอบกันมาก
จอภาพ Dynamic AMOLED 2X เสริม Vision Booster สว่างไม่กลัวแดด
หน้าจอของ Galaxy S22 และ S22+ มากับพาเนล Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.1 และ 6.7 นิ้วตามลำดับ อัตรารีเฟรชแบบแปรผัน วิ่งได้ตั้งแต่ 10 ถึง 120Hz โดยเป็นการปรับอัตโนมัติเพื่อประหยัดพลังงานและลดความเบลอของภาพกรณีที่เฟรมเรตไม่สัมพันธ์กัน กล้องเซลฟีเป็นแบบเจาะรู ความละเอียด 10MP ส่วน Galaxy S22 Ultra มีหน้าจอ 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ใหญ่กว่า คมชัดกว่าใครเพื่อน และดันอัตรารีเฟรชลงไปได้อีก ต่ำสุดที่ 1Hz เลย
แม้ยังใช้ชื่อ Dynamic AMOLED 2X เหมือนเดิม แต่ภายในมีการปรับปรุงมาแล้ว ทั้งความสว่างสูงสุดที่ไปได้ไกล 1750 นิต เสริมด้วยเทคโนโลยี Vision Booster ซึ่งเป็นการแมปปิงชดเชยโทนสีในส่วนที่อาจโดนแสงสะท้อนจนดูจืดลง ต่อไปนี้แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว โดย Samsung บอกว่า นี่คือหน้าจอที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้
ถ่ายปุ๊บ…สวยปั๊บ ด้วยชิป NPU และอัลกอริทึมที่ทรงพลัง
หน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ NPU ที่ได้รับการยกระดับขึ้นเช่นเดียวกับชิปเซตหลัก เมื่อนำมาผสานการทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลภาพ ISP ที่ใส่มาให้ 3 ตัวแล้ว ทำให้ Galaxy S22 สามารถจดจำและแยกแยะวัตถุหลายอย่างจากภาพหลายเฟรมพร้อมกันในคราวเดียว ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและการตรวจจับใบหน้า ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ Computer photography ที่ฉลาดล้ำกว่าเดิม กดชัตเตอร์ปุ๊บ ได้ภาพสวยทันที ง่าย ๆ ไม่วุ่นวาย ตัดขอบในโหมดพอร์เทรต ละลายฉากหลังได้สมจริง และโฟกัสติดตามวัตถุได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
Galaxy S22 และ S22+ ให้กล้องหลังมา 3 ตัว เหมือน ๆ กัน ประกอบด้วย กล้องหลัก กล้องอัลตราไวด์ และกล้องเทเลโฟโต ดังนี้
- กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
- กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
- กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS
– รองรับ Space Zoom สูงสุด 30 เท่า - กล้องหน้า : 10MP, รูรับแสง f/2.2
เลนส์กระจก Super clear เพิ่มการรับแสง พร้อม OIS ที่กันสั่นได้มากกว่าเดิม
ทางด้าน Galaxy S22 Ultra พี่ใหญ่ มากับกล้องหลัก 108MP และเพิ่มกล้องเทเลโฟโตเข้ามาอีก 1 ตัว รวมแล้วมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ขยายขอบเขตการซูมออปติคัลเพิ่มเป็น 10 เท่า รองรับ Space Zoom แบบไฮบริดสูงสุด 100 เท่า โดยมีเทคโนโลยี AI Super Resolution เข้ามาช่วยในเรื่องของความคมชัด และอัปเกรดความละเอียดกล้องเซลฟี่เป็น 40MP
- กล้องหลัก 108MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
- กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
- กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า
- กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/4.9, ซูมออปติคัล 10 เท่า
– รองรับ Space Zoom สูงสุด 100 เท่า - กล้องหน้า : 40MP, รูรับแสง f/2.2
Samsung ได้เพิ่มการรับแสงให้กับ Galaxy S22 แบบไม่ต้องขยายขนาดเลนส์หรือเซนเซอร์ให้หนักและเกะกะ แต่เลือกนำเลนส์กระจกที่ผ่านกระบวนการเคลือบสารลดแสงสะท้อนในระดับนาโนมาใช้แทน หรืออธิบายง่าย ๆ คือ เมื่อเลนส์สะท้อนแสงน้อย ทำให้แสงส่งผ่านลงไปยังเซนเซอร์รับภาพได้มากขึ้นนั่นเอง ทางบริษัทฯ เรียกเลนส์ดังกล่าวว่า Super clear lens
อีกส่วนหนึ่งในระบบกล้องที่ได้รับการปรับปรุงคือ OIS ที่ขยายพื้นที่การทำงานเพิ่มอีก 58% ทำให้กันสั่นได้หลายสเตปมากขึ้นในแกน X และ Y สำหรับการถ่ายวิดีโอ
ปราบพยศ Snapdragon 8 Gen 1 ด้วยระบบระบายความร้อนเต็มสูบ
กับประเด็นที่มีคนคาใจกันมากว่า Galaxy S22 ในบ้านเรา ตกลงได้ Exynos 2200 หรือ Snapdragon 8 Gen 1 กันแน่ ซึ่งในที่สุดคำตอบก็ออกมาแล้ว สรุปได้เป็นชิปจาก Qualcomm นะครับ โดยมากับซีพียูแกนหลัก Cortex-X2 ความเร็วสูงสุด 3 GHz แรงทะลุปรอทกันไปเลย และในขณะเดียวกับ Samsung ก็ทำการบ้านเรื่องระบบระบายความร้อนมาเป็นอย่างดี มีการยกเครื่องใหม่ทั้งแผง ใช้ Gel-TIM ช่วยถ่ายเทอุณภูมิแล้วครอบทับด้วย nano-TIM ก่อนจะประกบซ้ำด้วยท่อ VC ที่มีของเหลวอยู่ภายใน และเอาแผ่นกราฟีนมาทับตบท้ายอีกชั้นหนึ่ง เรียกได้ว่า…งานนี้จัดหนัก กะเอาให้ชัวร์เต็มที่เลย (ฮา)
รองรับชาร์จไว 45W แล้วในที่สุด
จากเดิมใน Galaxy S21 ของปีกลายที่รองรับชาร์จไว 25W ยังตามหลังคู่แข่งอยู่ห่าง ๆ กลับมารอบนี้ Samsung ได้กระชับช่องว่างเข้ามาอีกนิดหน่อย เพิ่มการชาร์จไวเป็น 45W ใน Galaxy S22+ และ S22 Ultra และรองรับการชาร์จไร้สายที่ 15W เท่ากันทั้ง 3 รุ่น ส่วนความจุแบตให้มา 3700, 4500, 5000 มิลลิแอมป์ ตามลำดับ แต่ตัวเลขนี้ไม่ได้การันตีถึงอายุการใช้งาน เพราะ Snapdragon 8 Gen 1 มีการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น โดยซีพียูกินไฟน้อยลง 30% ส่วนจีพียูกินไฟน้อยลง 25%
สเปค Samsung Galaxy S22
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 48-120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM 8 + 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS - กล้องหน้า : 10MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6
– Bluetooth 5.2
– NFC - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 3700mAh
– รองรับชาร์จไว 25W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 70.6 x 146 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก : 168 กรัม
สเปค Samsung Galaxy S22+
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.6 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 48 – 120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM 8 + 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS - กล้องหน้า : 10MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6E
– Bluetooth 5.2
– NFC
– UWB - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4500mAh
– รองรับชาร์จไว 45W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 75.8 x 157.4 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก : 196 กรัม
Hands-on | ลอง Samsung Galaxy S22 และ S22+ แฝดคู่คนละไซส์ ขนาดน่ารักประทับใจ
สเปค Samsung Galaxy S22 Ultra
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว
– ความละเอียด QHD+
– อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM 8 + 128GB ; RAM 12 + 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 108MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/4.9, ซูมออปติคัล 10 เท่า
– รองรับ Space Zoom สูงสุด 100 เท่า - กล้องหน้า : 40MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6E
– Bluetooth 5.2
– NFC
– UWB - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5000mAh
– รองรับชาร์จไว 45W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 77.9 x 163.3 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 229 กรัม
Hands-on | ลองจับ Samsung Galaxy S22 Ultra ที่เค้าว่ามันคือ Note แปลงร่างมา เพราะมีปากกา S Pen
ราคาและการวางจำหน่าย Galaxy S22 ทั้ง 3 รุ่น
Galaxy S22
- สตอเรจ 128GB : ราคา 29,900 บาท
- สตอเรจ 256GB : ราคา 31,900 บาท
Galaxy S22+
- สตอเรจ 128GB : ราคา 34,900บาท
- สตอเรจ 256GB : ราคา 36,900 บาท
Galaxy S22 Ultra
- สตอเรจ 128GB : ราคา 39,900 บาท
- สตอเรจ 256GB : ราคา 43,900 บาท
- สตอเรจ 512GB : ราคา 47,900 บาท
เปรียบเทียบ Galaxy S22, S22+ และ S22 Ultra สเปคเหมือน-ต่างกันตรงไหน ซื้อรุ่นไหนคุ้ม?
ที่มา : Samsung
Comment