ในที่สุดก็ได้ฤกษ์มือถือเรือธง Samsung Galaxy S23 Series เปิดตัวออกมาซักที ซึ่งทั้งสเปค + ฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็จัดเต็มมาให้แบบจุก ๆ เช่นเคย และแน่นอนว่าก็ต้องมีหลายคนที่อยากรู้ว่าถ้าเอาไปเทียบกับ Galaxy S22 Series แล้วมันจะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดใช้รุ่นก่อนอยู่แล้ว น่าอัปเกรดมารุ่นใหม่มั้ย? หรือจะรอข้ามไปอีกรุ่นเลยดี…

สเปค GALAXY S23 และ GALAXY S22

สเปคGalaxy S23Galaxy S22
หน้าจอDynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว
ความละเอียดFull HD+ (2400 x 1080)Full HD+ (2400 x 1080)
รีเฟรชเรท48 – 120Hz Adaptive48 – 120Hz Adaptive
ความทนทานGorilla Glass Victus 2Gorilla Glass Victus+
CPUSnapdragon 8 Gen 2 for GalaxySnapdragon 8 Gen 1
RAM8GB8GB
ความจุ128GB / 256GB128GB / 256GB
microSD Cardไม่รองรับ
กล้องหลัง
  • กล้องหลัก 50MP (f/1.8), OIS
  • Ultrawide 12MP (f/2.2) มุมกว้าง 120 องศา
  • Telephoto 10MP (f/2.4), Optical Zoom 3x, OIS
  • กล้องหลัก 50MP (f/1.8), OIS
  • Ultrawide 12MP (f/2.2) มุมกว้าง 120 องศา
  • Telephoto 10MP (f/2.4), Optical Zoom 3x, OIS
กล้องหน้า12MP (f/2.2)10MP (f/2.2)
เซ็นเซอร์Fingerprint (ใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
การเชื่อมต่อWi-Fi 6E, Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFCWi-Fi 6, Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFC
การใช้งาน 5G5G Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave5G Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave
ระบบเสียงลำโพงสเตอริโอ, ปรับแต่งเสียงโดย AKG, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่3900 mAh3700 mAh
ระบบชาร์จมีสาย 25W, ไร้สาย 15W, Reverse wireless charging 4.5W
ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1 Android 12 ครอบด้วย One UI 5.0

 

เริ่มกันที่รุ่นน้องของทั้ง 2 ซีรีส์ อย่าง Galaxy S23 และ Galaxy S22 ความแตกต่างหลัก ๆ ของทั้งคู่ก็คือ S23 จะได้ใช้ชิปใหม่กว่าคือ Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ที่ถูกปรับแต่งมาสำหรับมือถือซีรีส์นี้โดยเฉพาะ, มีแบตเตอรี่ที่เพิ่มขนาดมาอีกนิดนึงจาก 3700 mAh เป็น 3900 mAh, กล้องหลังที่แม้ว่าจะมีสเปคเหมือนเดิม แต่ได้รับการปรับแต่งด้านซอฟท์แวร์ใหม่ให้สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอในที่มืดได้ดีกว่าเดิม และยังปรับปรุงระบบกันสั่นให้ดีขึ้นด้วย Adaptive VDIS และมี OIS ที่กว้างขึ้นทำให้ภาพนิ่งกว่าเดิม

ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงกว่าเดิมที่ 12MP สามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ดีกว่าด้วยโหมด Night Selfie และสามารถถ่ายเซลฟี่โหมด Pro ได้ด้วย

 

สเปค GALAXY S23+ และ GALAXY S22+

สเปคGalaxy S23+Galaxy S22+
หน้าจอDynamic AMOLED 2X ขนาด 6.6 นิ้ว
ความละเอียดFull HD+ (2400 x 1080)Full HD+ (2400 x 1080)
รีเฟรชเรท48 – 120Hz Adaptive48 – 120Hz Adaptive
ความทนทานGorilla Glass Victus 2Gorilla Glass Victus+
CPUSnapdragon 8 Gen 2 for GalaxySnapdragon 8 Gen 1
RAM8GB8GB
ความจุ256GB / 512GB128GB / 256GB
microSD Cardไม่รองรับ
กล้องหลัง
  • กล้องหลัก 50MP (f/1.8), OIS
  • Ultrawide 12MP (f/2.2) มุมกว้าง 120 องศา
  • Telephoto 10MP (f/2.4), Optical Zoom 3x, OIS
  • กล้องหลัก 50MP (f/1.8), OIS
  • Ultrawide 12MP ( f/2.2) มุมกว้าง 120 องศา
  • Telephoto 10MP (f/2.4), Optical Zoom 3x, OIS
กล้องหน้า12MP (f/2.2)10MP (f/2.2)
เซ็นเซอร์Fingerprint (ใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
การเชื่อมต่อWi-Fi 6E, Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFCWi-Fi 6E, Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFC
การใช้งาน 5G5G Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave5G Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave
ระบบเสียงลำโพงสเตอริโอ, ปรับแต่งเสียงโดย AKG, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่4700 mAh4500 mAh
ระบบชาร์จมีสาย 45W, ไร้สาย 15W, Reverse wireless charging 4.5Wมีสาย 45W, ไร้สาย 15W, Reverse wireless charging 4.5W
ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1 Android 12 ครอบด้วย One UI 5.0

 

Galaxy S23+ และ S22+ ก็มีความแตกต่างของสเปคเหมือนกันกับ 2 รุ่นบนเลย ยกเว้นเรื่องแบตเตอรี่ที่เพิ่มมาจาก 4500 mAh เป็น 4700 mAh

 

สเปค GALAXY S23 Ultra และ GALAXY S22 Ultra

สเปคGalaxy S23 UltraGalaxy S22 Ultra
หน้าจอDynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว
ความละเอียดQHD+ (3088 x 1440)QHD+ (3088 x 1440)
รีเฟรชเรท1 – 120Hz Adaptive1 – 120Hz Adaptive
ความทนทานGorilla Glass Victus 2Gorilla Glass Victus+
CPUSnapdragon 8 Gen 2 for GalaxySnapdragon 8 Gen 1
RAM8GB / 12GB8GB / 12GB
ความจุ256GB / 512GB / 1TB256GB / 512GB / 1TB
microSD Cardไม่รองรับ
กล้องหลัง
  • กล้องหลัก 200MP (f/1.7), กันสั่น OIS
  • Ultrawide 12MP (f/2.2) ความละเอียด 12MP
  • Telephoto ความละเอียด 10MP ซูม Optical 3x, OIS
  • Telephoto ความละเอียด 10MP ซูม Optical 10x – Space Zoom 100x, กันสั่น OIS
  • กล้องหลัก 108MP (f/1.8), กันสั่น OIS
  • Ultrawide 12MP (f/2.2) ความละเอียด 12MP
  • Telephoto ความละเอียด 10MP ซูม Optical 3x, OIS
  • Telephoto ความละเอียด 10MP ซูม Optical 10x – Space Zoom 100x, กันสั่น OIS
กล้องหน้า12MP (f/2.2)40MP (f/2.2)
เซ็นเซอร์Fingerprint (ใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
การเชื่อมต่อWi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, UWBWiFi 6E, Bluetooth 5.2, UWB
การใช้งาน 5G5G Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave5G Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave
ระบบเสียงลำโพงสเตอริโอ, ปรับแต่งเสียงโดย AKG, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่5000 mAh5000 mAh
ระบบชาร์จมีสาย 45W, ไร้สาย 15W, Reverse wireless charging 4.5Wมีสาย 45W, ไร้สาย 15W, Reverse wireless charging 4.5W
ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1 Android 12 ครอบด้วย One UI 5.0

 

สุดท้ายกับรุ่นท็อปที่หลัก ๆ จะได้รับการอัปเกรดในเรื่องกล้องด้วยเซนเซอร์ ISOCELL HP2 ความละเอียดสูงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว ที่ 200MP และได้รับการปรับแต่งด้านซอฟท์แวร์ให้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอในที่มืดได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย และยังได้รับอัปเกรดระบบกันสั่นให้เนียนกว่าเดิมด้วย

ส่วนกล้องหน้าถ้าดูสเปคแล้วเหมือนว่า S22 Ultra จะเหนือกว่าเพราะความละเอียดสูงถึง 40MP แต่จริง ๆ แล้วกล้องหน้า S23 Ultra ที่มีความละเอียด 12MP จะให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่า และยังถ่ายในที่มืดได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยด้วย

สรุป…เปลี่ยนไม่เปลี่ยน

Galaxy S23

สำหรับเจ้าของ Galaxy S22 ถ้าจะอัปเกรดขึ้นมาเป็น S23 ยังคิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะสเปคโดยรวมแทบไม่ต่างกัน เพราะชิป Snapdragon 8 Gen 1 ก็ยังเรียกว่าแรงเหลือ ๆ ใช้ได้อีกหลายปี, แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นก็แทบไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับการใช้งานเลย จะมีที่เห็นได้ชัด คือ กล้องเซลฟี่ที่ดีขึ้น ด้วยความละเอียดสูงกว่า และคราวนี้สามารถใช้โหมด Pro เพื่อปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้มากขึ้น ส่วนกล้องหลังก็สเปคเดิมแต่ได้รับการปรับปรุงด้านซอฟท์แวร์ให้ดีขึ้น เอาจริง ๆ ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องกล้องมาก ก็แนะนำว่าใช้ S22 ไปก่อนก็ได้

Galaxy S23+

เจ้าของ Galaxy S22+ ก็อาจไม่ค่อยว้าวกับ S23+ ซักเท่าไหร่ เพราะสเปคก็คล้ายกับ S22 / S22+ นั่นแหละ จะอัปเกรดที่ชิป Snapdragon 8 Gen 2 กับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ซึ่งหากว่าใครพอใจกับความแรงของ S22 / S22+ อยู่แล้ว ก็แทบไม่มีความจำเป็นเลย (เร็วขึ้นก็ไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไร…) เรื่องกล้องก็เช่นกัน ได้อัปเกรดขึ้นมาตรงกล้องเซลฟี่ที่มีความละเอียดสูงกว่าเดิม และใส่โหมด Pro มาให้ กับกล้องหลังสเปคเดิมที่ปรับปรุงซอฟท์แวร์กล้องใหม่เท่านั้น

Galaxy S23 Ultra

รุ่น Galaxy S23 Ultra จะมีจุดเด่นอยู่ที่กล้องหลัง ซึ่งคราวนี้เซนเซอร์หลัก ISOCELL HP2  มีความละเอียดสูงกว่ารุ่นเดิมจาก 108MP เป็น 200MP และยังมีซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ+วิดีโอในที่มืด รวมถึงระบบกันสั่นที่ทำได้ดีขึ้น นอกจากนี้ฟีเจอร์ Space Zoom 100x ยังให้คุณภาพดีกว่าเดิมด้วย

หากตอนนี้ใช้มือถือแบรนด์อื่นอยู่ Galaxy S23 Ultra ดูเป็นมือถือที่น่าสนใจมาก ด้วยความสามารถของกล้องทั้งระบบซูมสุดโหดและการถ่ายภาพ+วิดีโอในที่มืด แต่ถ้าเป็นเจ้าของ Galaxy S22 Ultra อยู่แล้ว จะอดใจไว้รอดู S24 Ultra เลยก็ยังได้ครับ

Play video

เทียบสเปค Samsung Galaxy S23, S23+, S23 Ultra ต่างกันอย่างไร ซื้อรุ่นไหนดี

Hands-On | สัมผัสแรก Samsung Galaxy S23 Ultra ตัวท็อปสุดในรุ่น มาพร้อมสีใหม่ยกชุด

Hands-on | Samsung Galaxy S23 | S23+ มือถือเรือธงรุ่นน้อง กล้องสวย สเปคแรงน่าใช้