ในที่สุด Samsung Galaxy S4 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ New York เมื่อช่วงประมาณหกโมงเช้าของบ้านเรา หลังจากที่ก่อนหน้าไม่กี่วัน มีทั้งภาพหลุด คลิปหลุด ซะจนแทบไม่ต้องลุ้น

แต่ข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้าก็ยังไม่ถึงครึ่งของ feature หรือลูกเล่นใหม่ๆ ที่ทาง Samsung จับยัดให้กับ Galaxy S4 ซึ่งทั้งรายละเอียดทั้งหมดก็อยากให้ลองดูในคลิปวิดีโอแนะนำด้านล่างก่อนครับ แล้วเดี๋ยวจะอธิบายแบบละเอียดให้ฟัง

Play video

มาพูดถึงดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนดีกว่า สำหรับ Samsung Galaxy S4 นั้นรูปร่างหน้าตาเหมือนเป็นการฟิวชั่นระหว่าง S3 และ Note 2 เข้าด้วยกัน ตัวเครื่องมีขนาดบางลงเหลือแค่ 7.9 มม หน้าจอใหญ่ขึ้นจาก 4.8 เป็น 5 นิ้ว ความละเอียดจอ Full HD 1080p Super AMOLED วัสดุของตัวเครื่องยังเป็นโพลีคาร์บอเนตเช่นเดิม แต่มีการออกแบบชิ้นส่วนและการประกอบที่ดูดีขึ้นกว่า S3 (อันนี้ไม่รู้เค้าโม้รึเปล่า แต่เราเองก็ยังไม่ได้จับเครื่องจริง ก็ฟังๆ เค้าไปก่อน)

กล้องหลัง 13 ล้าน กล้องหน้า 2 ล้าน ตัวเครื่องจะมีจำหน่าย 2 สีคือ Black Mist และ White Frost แยกเป็นรุ่นความจุ 16/32/64 GB ทุกรุ่นสามารถใส่ Micro SD เพิ่มได้ (ได้ข่าวว่าบ้านเราจะจำหน่ายรุ่น 16 GB) เรื่องการเชื่อมต่อต่างๆ ก็มากันครบไม่ว่าจะเป็น bluetooth 4.0, WiFi Direct และที่มีเพิ่มมาคือ IR LED เพื่อใช้งานเป็นรีโมทควบคุมทีวี เครื่องเสียง หรือชุดโฮมเธียเตอร์

ส่วน Hardware ฝั่ง CPU นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ที่จำหน่ายครับ ซึ่ง CPU ของรุ่นที่จะจำหน่ายในบ้านเราจะเป็น Exynos 5 octacore โดย quad-core ชุดพลังแรงสูงคือ AMR Cortex A15 ทำงานที่ 1.6 GHz ส่วนชุดประหยัดพลังงานจะเป็น qaud-core ARM cortex A7 1.2 GHz คือเป็นการใช้งาน CPU qaud-core 2 ชุด ทำงานสลับกันไปมา

โดยคนเปิดงานก็ J K Shin ประธานกลุ่มโทรคมนาคมและไอทีของซัมซุงก็ออกมาเปิดตัว และแนะนำฟีเจอร์ใหม่ๆ พร้อมเปิดกล่องจากหนูน้อยเจเรมี่และหยิบเอา Galaxy S4 ออกมาทั้ง 2 สี

 

ฟีเจอร์แรกคือ Dual Camera คือการใช้งานกล้องหน้าหลังพร้อมกันในการถ่ายภาพ โดยสามารถแทรกภาพของเราจากกล้องหน้าเข้าไปในภาพถ่ายได้ รวมทั้งการถ่ายวิดีโอ และการใช้งานวิดีโอคอลได้อีกด้วย

 

ถัดมาคือ Drama Shot (อันนี้ดราม่าจริงจัง เพราะเหมือนกับ Zoe Camera ของ HTC เลย :P) คือการถ่ายภาพหลายๆ ช๊อต แล้วเอามาเรียงซ้อนกันเป็นภาพเดียว

 

Eraser ฟังก์ชั่นนี้คือการลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกไปจากภาพ (แบบเดียวกับ HTC One และ Nokia Lumia นะแหละ)

 

ส่วนนี่ก็ Air View ด้วยนิ้วมือ ไม่ต้องใช้ปากกา S Pen แบบ Galaxy Note 

 

S Translator คือแอพแปลภาษาที่สามารถแปลภาษาได้ทันทีทันใด ไม่ว่าจะใช้ในระหว่างสนทนากับชาวต่างชาติ ตัวเครื่อง S4 จะทำการบันทึกเสียงแล้วแปลเป็นข้อความให้ดู และ S Translator นั้นยังฝังไปในระบบของตัวเครื่องด้วยทำให้ สามารถแปลข้อความต่างๆ ใน Chat On, Email หรือ SMS ได้ทันที

 

Adapt Display คือการปรับความสว่างและสีสันของการแสดงผลต่างๆ บนหน้าจอให้เหมาะกับสิ่งที่เราดูอยู่ 

 

Story Album คือการนำเอาภาพถ่ายบนมือถือมาร้อยเรียงกันเป็นอัลบั้มภาพ แล้วก็มีบริการสั่งซื้ออัลบั้มให้จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มและส่งให้เราที่บ้านด้วย (ในช่วงแรกจะรองรับแค่บางประเทศ)

 

 

S Voice Drive คือส่วนเสริมของ S Voice ที่ตอนนี้เพิ่มความสามารถให้สามารถนำทางในขณะขับรถได้ (ยังไม่มีข้อมูลว่าจะใช้งานได้ที่ประเทศไหนบ้าง และใช้แผนที่ของอะไร) ซึ่งในขณะเปิดใช้งานสามารถพูดโต้ตอบว่าจะรับสายวางสายได้

 

Samsung Smart Switch เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คนที่ใช้โทรศัพท์จากค่ายอื่นๆ สามารถย้ายมาใช้งาน Samsung ได้ โดยจะช่วยในการโอนถ่ายข้อมูลต่างๆ ย้ายมาลงอุปกรณ์ของ Samsung

 

Glove Friendly หน้าจอของ Galaxy S4 สามารใช้งานได้แม้ในขณะสวมถุงมือ

 

Samsung Knox เป็นการระบบการแยกจัดเก็บข้อมูลส่วนของงานและส่วนของชีวิตส่วนตัวออกจากกัน คล้ายๆ user profile


Group Play การเล่นเพลงแบบกลุ่ม โดยเมื่อทำการจัดกลุ่มผ่าน NFC แล้ว เราสามารถเล่นเพลงไหนจากเครื่องไหนก็ได้ และสามารถให้มีการเล่นเพลงพร้อมๆ กันหลายๆ เครื่องได้ เหมือนมีลำโพงหลายๆ ตัว (สูงสุด 8 เครื่อง)


Dual Video Call ในขณะที่เราใช้งานวิดีโอคอล สามารถเปิดกล้องหน้าและหลังได้พร้อมกัน เวลาสาวๆ ไปเที่ยวอาจจะอยากแชร์วิวสวยๆ ให้เพื่อนหรือแฟนดู ส่วนหนุ่มๆ ทั้งหลายถ้าไปเที่ยวที่อโคจรแล้วแฟนบอกให้เปิด dual นี่ซวยครับ

 

 

 

Samsung Smart Scroll / Pause ฟีเจอร์นี่ก็เหมือนกับที่หลุดมาทุกประการ smart scroll คือหน้าเว็บจะเลื่อนขึ้นลงเองอัตโนมัติตามสายตาของเรา ส่วน smart puase คือถ้าเราดูวิดีโอแล้วหันไปมองทางอื่น วิดีโอก็จะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติเช่นกัน และพอเราหันกลับมาก็จะเล่นต่อจากที่เดิม

 

S Health อันนี้เป็นฟีเจอร์ใหม่ของทาง samsung (แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการสมาร์ทโฟน) ที่ต้องการทำใหGalaxy S 4 กลายเป็นเครื่องออกกำลังกายผ่านการคำนวนอัตราการเผาผลาญของแคลอรี่ผ่านการเดินหรือวิ่ง หรือกลายเป็นเครื่องตรวจเช็คสุขภาพผ่านอุปกรณืเสริมอย่างแถบวัดการเต้นของหัวใจ HRM หรือเครื่องชั่งน้ำหนัก


มาถึงอุปกรณืเสริมที่สมัยนี้แทบทุกคนต้องซื้อมาใส่นั่นก็คือเคส S View Cover เป็นเคสแบบฝาพับที่มีช่องเล็กๆ ด้านหน้าไว้แสดงข้อมูลที่หน้าจอของตัวเครื่อง เช่นเวลามีคนโทรเข้ามาเราก็สามารถเห็นได้โดยไม่ต้องเปิดฝา รวมถึงขณะที่เราใช้งานแล้วปิดฝาพับ เครื่องก็จะดับลงเป็น sleep mode ทันที

 

และนี่คือทั้งหมดของงานเปิดตัว Samsung Galaxy S4 ครับ ในส่วนของโชว์นั้นถือว่าทำออกมายิ่งใหญ่อลังการเลยทีเดียว มีการเล่นมุกระหว่างการแนะนำฟีเจอร์ต่างๆ  ฮาบ้าง แป้กบ้าง ก็เพลินๆ ดีครับ ใครที่ดูแล้วชอบแล้วว้าวก็เตรียมตัวเก็บเงินซื้อกันได้เลย คาดว่าไม่เกินต้นเดือนพฤษภาคม Galaxy S4 น่าจะเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราแน่นอน ^ ^