Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตรุ่นเรือธงประจำปี 2023 เตรียมกลับมาแล้ว หลังจากที่รอบก่อนมีราคาวางจำหน่ายโซนยุโรป รวมถึงรูปเรนเดอร์ตัวเครื่องแบบ Official หลุดออกมาให้ได้ชมกัน วันนี้มีก็มีข้อมูลเรื่องสีของตัวเครื่องหลุดออกมาให้ทราบเพิ่มเติม ซึ่งในไลน์อัพปีนี้จะเตรียมมาพร้อมกับตัวเลือกสีที่เยอะขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ แล้ว

Roland Quandt แหล่งข่าวเจ้าประจำได้ออกมาเผยว่า เจ้าตัวได้เห็นภาพเรนเดอร์ตัวเครื่องแบบ Official ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องสีใหม่อย่างสีน้ำเงิน Dark Blue เพิ่มมาจากซีรีส์ Tab S8 ที่มีให้เลือกเพียงแค่สีเงิน กับสีดำเพียงเท่านั้น แต่ทั้งนี้เจ้าตัวยังไม่แน่ใจว่ารูปที่ได้มานั้นเป็นสีตัวเครื่องจริง ๆ รึเปล่า เพราะบางครั้งอาจจะเกิดความผิดพลาดจากการแปลงไฟล์ หรือบีบอัดรูปจากต้นทางทำให้สีไฟล์ผิดเพี้ยนก็ได้

นอกจากสี Dark Blue แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวลือเรื่องสีตัวเครื่องของ Galaxy Tab S9 Series ออกมาหลายครั้ง ซึ่งเมื่อเดือนก่อนเอง Roland Quandt ก็เคยออกมาพูดว่าในรุ่นนี้จะมาพร้อมสีตัวเครื่องให้เลือกมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือสีครีม Beige ที่ไม่เคยมีมาก่อนในซีรีส์แท็บเล็ตเรือธงด้วย แต่ตอนนี้สีที่ยืนยันว่าจะมาจริง ๆ คือสีมาตรฐานอย่าง สีดำ Graphite เท่านั้น

ส่วนสเปคนั้นคาดว่า Galaxy Tab S9 Series จะได้ใช้จอ Dynamic AMOLED x2 เหมือนกันทุกรุ่น ส่วนชิปประมวลผลก็จะได้ใช้ชิปรุ่นท็อปอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 (อาจเป็นรุ่น for Galaxy ด้วย) ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะมีการตัดกล้อง Ultrawide ออกไป  ส่วนรุ่น Ultra จะมาพร้อมจอแบบมีรอยบาก ได้กล้องหน้า 2 ตัวเหมือนเดิม

ด้านราคาเปิดตัว ตอนนี้มีราคาที่โซนยุโรปหลุดออกมาแล้วเริ่มต้นถูกสุดที่ราว ๆ 929 ยูโร ( 35,800 บาท) ซึ่งปกติแล้วราคาในไทยจะถูกกว่าโซนยุโรปประมาณ 15 – 30% ดังนั้นเมื่อลองหักลบดูแล้ว รุ่นเริ่มต้นน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 25,xxx – 29,xxx บาท ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าจะไม่ห่างจาก Galaxy Tab S8 ที่เริ่มต้นมาที่ 25,900 บาทมากนัก

Samsung Galaxy Tab S9 Series เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 นี้ เวลา 6 โมงเย็นในงาน Galaxy Unpacked 2023 ซึ่งในงานก็จะมีไฮไลต์เด็ดเป็นมือถือจอพับ Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 จ่อเปิดตัวพร้อมกันในงานด้วย ใครสนใจอยากลองพับตอนนี้ทาง Samsung ก็ได้เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจ รับเครื่องก่อนใคร พร้อมรับสิทธิพิเศษคุ้ม ๆ แล้วด้วย

 

ที่มา: SamMobile, Roland Quandt (Twitter)