หลังจากที่มีสเปคของ Galaxy Z Flip 5, Galaxy Z Fold 5 และ Galaxy Tab S9 series หลุดออกมาแบบเต็ม ๆ ล่าสุด ก็ถึงคิวของนาฬิกาอัจฉริยะซีรีส์ใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy Watch6 และ Watch6 Classics ที่มีข้อมูลสเปคอย่างละเอียดหลุดออกมายกแผง เรียกได้ว่าไม่ต้องรอลุ้นกันอีกต่อไป ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ก็ตรงกับที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้แบบ 100% ด้วย

หลุดสเปคเต็ม Samsung Galaxy Watch6

สำหรับรุ่นมาตรฐานนั้นยืนยันแล้วว่าจะมาในไซส์หน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ซึ่งเป็นไซส์เดียวกับรุ่นก่อน แต่หน้าจอแสดงผล AMOLED จะมีขอบจอที่เล็กลง ทำให้ได้พื้นที่จอใหญ่กว่าเดิม โดยไซส์ 40 มม. จะมาในขนาดจอ 1.31 นิ้ว ความละเอียด 432 x 432 พิกเซล (ในรุ่นก่อนมีขนาด 1.19 นิ้ว) ส่วนรุ่น 44 มม. จะมาในขนาดจอ 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล (รุ่นก่อนมาในขนาด 1.36 นิ้ว)

ตัวเรือนของ Galaxy Watch6 ซีรีส์มาตรฐานจะใช้วัสดุอะลูมิเนียม ส่วนหน้าจอจะใช้วัสดุกระจก Sapphire Glass ตัวเรือนมาพร้อมมาตรฐานทนน้ำ ทนฝุ่นระดับ IP68 สูงสุดที่ระดับ ATM 5 และทนการตกกระแทกมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810 โดยตัวเรือน Watch6 ซีรีส์มาตรฐานจะมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบากว่า Watch5 Pro ถึง 28% และเมื่อเทียบกับรุ่น Watch6 Classic แล้วจะเบากว่าถึง 40% เลยทีเดียว

ตัวเลือกสี Galaxy Watch6

ด้านสเปคภายในนั้น Galaxy Watch6 ซีรีส์มาตรฐานจะมาพร้อมกับชิปรุ่นใหม่ Exynos W930 เร็วกว่าชิปรุ่นก่อน 10% พร้อมรองรับการเชื่อมต่อไร้สายเวอร์ชั่นใหม่อย่าง Bluetooth 5.3, Wi-Fi, GPS, NFC และมีรุ่น 4G ให้เลือกเหมือนเดิม ด้าน RAM ก็เพิ่มจากรุ่นก่อน จาก 1.5GB เป็น 2GB ส่วนแบตเตอรี่ก็เพิ่มมาจากเดิม ในรุ่น 40 มม. จะได้แบตเตอรี่ 300 mAh และรุ่น 44 มม. จะได้แบตเตอรี่ 425 mAh รองรับการชาร์จไร้สาย

ด้านฟีเจอร์ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Wear OS 4 ครอบทับด้วย One UI Watch 5 เวอร์ชั่นใหม่ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์วิเคราะห์การนอนหลับได้ละเอียดกว่าเดิม มาพร้อมเซนเซอร์ accelerometer, barometer, compass, gyroscope, เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, เซนเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด, เซนเซอร์ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ตรวจวัดมวลร่างกายมาให้ด้วย

หลุดสเปคเต็ม Samsung Galaxy Watch6 Classic

ส่วนในรุ่นพรีเมียมอย่าง Galaxy Watch6 Classics จะมาพร้อมหน้าปัด 2 ขนาดให้เลือกเป็นครั้งแรก ได้แก่ 43 มม. / 47 มม. โดยตัวเรือนจะมาพร้อมหน้าปัดแบบหมุนได้จริง ที่บางในไซส์ที่บางกว่า Galaxy Watch 4 Classic โดยหน้าปัดหมุนได้จะใช้วัสดุสแตนเลสสตีล ส่วนกระจกจะใช้วัสดุกระจก Sapphire Glass เช่นกัน

สำหรับไซส์จอแสดงผลนั้นในรุ่น 43 มม. จะมาในขนาด 1.31 นิ้ว ความละเอียด 432 x 432 พิกเซล ส่วนรุ่น 47 มม. จะมาพร้อมจอขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล เท่ากับซีรีส์มาตรฐาน สำหรับความคงทนของตัวเครื่องจะได้มาตรฐาน IP68 / ATM5 / MIL-STD-810 เหมือนกัน

ตัวเลือกสี Galaxy Watch6 Classic

ส่วนสเปคตัวเครื่อง และฟีเจอร์ภายในจะได้รับการอัปเกรดเหมือนกับในซีรีส์มาตรฐานเช่นกัน และจะมาพร้อมกับระบบสั่น, ไมโครโฟน และลำโพงสนทนาในตัว รองรับการสั่งการด้วยเสียง ส่วนแบตเตอรี่ในรุ่น 43 มม. จะได้แบตเตอรี่ 300 mAh และรุ่น 44 มม. จะได้แบตเตอรี่ 425 mAh รองรับการชาร์จไร้สาย

สเปค Samsung Galaxy Watch6 และ Galaxy Watch6 Classic (ยังไม่ได้รับการยืนยัน)

สเปคSamsung Galaxy Watch6Samsung Galaxy Watch6 Classic
จอแสดงผล40 มม. : AMOLED 1.31″ 432 x 432 พิกเซล
44 มม. : AMOLED 1.47″ 480 x 480 พิกเซล
43 มม. : AMOLED 1.31″ 432 x 432 พิกเซล
47 มม. : AMOLED 1.47″ 480 x 480 พิกเซล
วัสดุตัวเรือน : อะลูมิเนียม
กระจกจอ: Sapphire Glass
ตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
กระจกจอ: Sapphire Glass
มาตรฐานความคงทนIP68 / ATM5 / MIL-STD-810
ชิปประมวลผลExynos W930
การเชื่อมต่อBluetooth 5.3, Wi-Fi, GPS, NFC
(มีรุ่น 4G ให้เลือก)
ฟีเจอร์วิเคราะห์การนอนหลับ, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดออกซิเจนในเลือด,
ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, วัดอุณหภูมิ, ตรวจวัดมวลร่างกาย
แบตเตอรี่40 มม. : 300 mAh
44 มม. : 425 mAh
43 มม. : 300 mAh
47 มม. : 425 mAh
สีตัวเรือน40 มม. : ดำ Graphite, เงิน Silver, ทอง Gold
44 มม. : ดำ Graphite, เงิน Silver
ดำ Graphite, เงิน Silver

Samsung Galaxy Watch6 และ Galaxy Watch6 Classic เปิดตัววันไหน?

สรุปข้อมูล Samsung Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 เปิดตัวเมื่อไหร่ ดูงานได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ มีอะไรเปิดตัวบ้าง

Galaxy Watch6 และ Galaxy Watch6 Classic เตรียมเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked 2023 วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นี้ เวลา 6 โมงเย็น ใครที่ยังไม่รู้ว่าภายในงานจะมีการเปิดตัวอะไรบ้าง เราก็ได้สรุปกันไว้แบบครบ ๆ แล้ว และถ้าใครอยากชมงานเปิดตัวพากย์ภาษาไทย ทาง DroidSans ก็จะมาไลฟ์ให้ดูกันเหมือนเดิมทั้งใน YouTube และ Facebook ของเราเหมือนเดิม

 

ที่มา: SamMobile, SnoopyTech (Twitter)