เมื่อปีที่แล้ว Samsung ได้ประกาศเปิดตัว Gaming Hub บริการสตรีมมิ่งเกมระดับ AAA บนสมาร์ททีวี เล่นผ่าน Cloud ไม่ต้องมีเครื่องเกมคอนโซลก็เล่นได้ ซึ่งก็ได้เสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ในปีนี้ทางแบรนด์จึงได้ประกาศรีแบรนด์แพลตฟอร์มใหม่ เปลี่ยนโลโก้จอยคอนโทรลเลอร์ให้ดูเหลี่ยมขึ้น คล้ายทรงแว่นตาโลกเสมือน VR ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์อย่าง Galaxy XR ก็เป็นได้

Samsung Gaming Hub

การรีแบรนด์ครั้งนี้ของ Samsung Gaming Hub มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ทุก ๆ คนเข้าถึงการเล่นเกมได้ง่ายขึ้น พร้อมปลดล็อกให้ทุกคนเกมได้เล่นเกมกว่าหลายพันเกม ด้วยจอยควบคุมเกือบทุกรูปแบบ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าโลโก้รูปแบบใหม่นี้จะมีการปรับให้มีความเหลี่ยมขึ้น ดูแล้วเหมือนเป็นการ Cross-over รวมจอยเกมเข้ากับรูปทรงของแว่นตา VR

ดีไซน์ Galaxy XR ที่เคยหลุดออกมา

และช่วงนี้ก็มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า Samsung กำลังซุ่มพัฒนาแว่นตาโลกเสมือนที่มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี VR และ AR อยู่พอดี ภายใต้ชื่อโปรเจกต์ Galaxy XR และมีแผนที่เปิดตัวเร็วที่สุดภายในปีนี้ หรือภายในช่วงต้นปี 2024 ซึ่งจังหวะการรีแบรนด์ดันประจวบเหมาะกันมาก ๆ ทำให้ทั้งสองโปรเจกต์อาจมีความเชื่อมโยงกันอยู่เนือง ๆ ก็ได้

คาดว่าในอนาคต Gaming Hub อาจมีการอัปเดตให้รองรับการเล่นเกมผ่าน Cloud บนจอเสมือนจริง และสามารถควบคุมผ่านจอยของ Galaxy XR นอกจากนี้ Samsung ยังได้ร่วมจับมือกับ Google ในด้านซอฟต์แวร์ (และเคยทำบริการสตรีมเกมผ่าน Cloud ) และ Qualcomm ในด้านฮาร์ดแวร์ด้วย แต่ข้อมูลต่าง ๆ ของโปรเจ็กต์แว่นตานี้ยังมีค่อนข้างจำกัด ต้องคอยจับตาดูกันว่าระบบการใช้งานจะน่าตื่นเต้นกว่าฝั่ง Apple Vision Pro ขนาดไหน

Samsung Gaming Hub มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างในช่วง 1 ปี

Samsung Gaming Hub

ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Samsung Gaming Hub ได้เพิ่มเกมให้สตรีมผ่าน Cloud มากกว่า 3,000 เกม และในปีนี้ก็ยังมีเกมระดับ AAA ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2023 จ่อเปิดให้เล่นพร้อมกันในระบบ นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทั้ง Xbox และ NVIDIA GeForce NOW มาเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกัน

 

นอกจากนี้ในอนาคต Samsung ยังมีแผนที่จะเปิดตัวบริการในตลาดอื่น ๆ เพิ่มเติม จากเดิมที่มีให้บริการแค่ในไม่กี่ประเทศ โดยตัวแอปจะรองรับแค่ในสมาร์ททีวี และจอสมาร์ทมอนิเตอร์ของ Samsung ซีรีส์ปี 2021 – 2023 เท่านั้น ใครที่มีทีวีเหล่านี้อยู่ที่บ้าน เตรียมตัวรอลุ้นกันได้เลย

 

ที่มา: Samsung Newsroom, SamMobile