Samsung เปิดตัว Galaxy Z Flip6 ในวันที่ Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Flip4 มีอายุ (เกือบ) ครบ 1 และ 2 ปี ตามลำดับ แน่นอนว่ารุ่นใหม่ย่อมมากับอะไรใหม่ ๆ ทั้งสเปค ฟีเจอร์ ฟังก์ชัน และอื่น ๆ ที่ผ่านการบ่มเพาะ ปรับปรุง อัปเกรดไปตามกาลเวลา แต่คำถามน่าสนใจคือ ‘อะไรใหม่ ๆ’ เหล่านั้น มีความน่าสนใจมากพอให้คนที่เป็นเจ้าของ Galaxy Z Flip5 หรือ Galaxy Z Flip4 อยู่ ลงทุนเปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องใหม่แล้วหรือยัง ?
สเปค Galaxy Z Flip6, Galaxy Z Flip5, Galaxy Z Flip4
Galaxy Z Flip6 | Galaxy Z Flip5 | Galaxy Z Flip4 | |
จอใน | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล สัดส่วน 22:9 | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล สัดส่วน 22:9 | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล สัดส่วน 22:9 |
จอนอก | sAMOLED ขนาด 3.4 นิ้ว อัตรารีเฟรช 60Hz ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล ความหนาแน่น 306 ppi | sAMOLED ขนาด 3.4 นิ้ว อัตรารีเฟรช 60Hz ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล ความหนาแน่น 306 ppi | sAMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว อัตรารีเฟรช 60Hz ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล ความหนาแน่น 306 ppi |
ชิปเซต | Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy | Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy | Snapdragon 8+ Gen 1 |
แรม | 12GB | 8GB | 8GB |
ความจุ | 256 / 512GB | 256 / 512GB | 128 / 256 / 512GB |
กล้องหลัง | กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.8), ซูมในเซนเซอร์ 2 เท่า, กันสั่น OIS กล้องอัลตราไวด์ 12MP (𝑓/2.2), มุมกว้าง 123 องศา รองรับ ProVisual Engine | กล้องหลัก 12MP (𝑓/1.8), กันสั่น OIS กล้องอัลตราไวด์ 12MP (𝑓/2.2), มุมกว้าง 123 องศา | กล้องหลัก 12MP (𝑓/1.8), กันสั่น OIS กล้องอัลตราไวด์ 12MP (𝑓/2.2), มุมกว้าง 123 องศา |
กล้องหน้า | 10MP (𝑓/2.2) | 10MP (𝑓/2.2) | 10MP (𝑓/2.4) |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 NFC | Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 NFC | Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 NFC |
พอร์ต | USB-C 3.2 Gen 1 | USB-C 3.2 Gen 1 | USB-C 2.0 |
แบตเตอรี่ | 4000mAh รองรับชาร์จไว 25W รองรับชาร์จไร้สาย รองรับการจ่ายไฟไร้สาย | 3700mAh รองรับชาร์จไว 25W รองรับชาร์จไร้สาย รองรับการจ่ายไฟไร้สาย | 3700mAh รองรับชาร์จไว 25W รองรับชาร์จไร้สาย รองรับการจ่ายไฟไร้สาย |
ความทนทาน | ทนน้ำทนฝุ่น IP48 | ทนน้ำ IPX8 | ทนน้ำ IPX8 |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 6.1.1 บน Android 14 | One UI 5.1.1 บน Android 13 | One UI 4.1.1 บน Android 12 |
วัสดุ | Gorilla Glass Victus 2 Armor Aluminum | Gorilla Glass Victus 2 Armor Aluminum | Gorilla Glass Victus+ Armor Aluminum |
ขนาด | ตอนพับ 85.1 x 71.9 x 14.9 มม. ตอนกาง 165.1 x 71.9 x 6.9 มม. | ตอนพับ 85.1 x 71.9 x 15.1 มม. ตอนกาง 165.1 x 71.9 x 6.9 มม. | ตอนพับ 84.9 x 71.9 x 15.9-17.1 มม. ตอนกาง 165.2 x 71.9 x 6.9 มม. |
น้ำหนัก | 187 กรัม | 187 กรัม | 187 กรัม |
ราคาเปิดตัว | รุ่น 256GB ราคา 42,900 บาท รุ่น 512GB ราคา 47,900 บาท | รุ่น 256GB ราคา 39,900 บาท รุ่น 512GB ราคา 45,900 บาท | รุ่น 128GB ราคา 35,900 บาท รุ่น 256GB ราคา 38,900 บาท รุ่น 512GB ราคา 44,900 บาท |
ปรับการออกแบบ สีสันโดดเด่นกว่าเดิม
แม้มองเผิน ๆ อาจดูเหมือนว่า Galaxy Z Flip6 มีหน้าตาเหมือนกับ Galaxy Z Flip5 รุ่นที่แล้ว แต่แท้จริงแล้ว Samsung มีการปรับการออกแบบตัวเครื่องบางส่วน คือเฟรมเครื่องเหลี่ยมขึ้นตามเทรนด์ พร้อมเปลี่ยนผิววัสดุ Armor Aluminum จากผิวมันเป็นผิวด้าน รวมถึงฝาหลัง Gorilla Glass Victus 2 ก็เปลี่ยนเป็นกระจกด้านเช่นกัน
นอกจากนี้ Galaxy Z Flip6 ยังปรับสีเฟรมเครื่องและขอบกล้องให้ล้อไปกับสีของฝาหลัง ทำให้ตัวเครื่องมีความโดดเด่นมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip5
ส่วนกรณีที่เทียบย้อนกลับไปถึง Galaxy Z Flip4 นั้นแน่นอนว่าหน้าตานั้นต่างกันเป็นคนละเรื่อง โดยเฉพาะจอนอกที่รุ่นใหม่มีขนาดใหญ่กว่า (3.4 นิ้ว เทียบกับ 1.9 นิ้ว) แสดงผลได้เต็มตากว่า รองรับประโยชน์ใช้สอยมากกว่า เช่น ใช้ดูการแจ้งเตือน ใช้ตอบแช็ตโดยไม่ต้องกางจอ หรือใช้เป็นหน้าจอพรีวิวสำหรับถ่ายเซลฟี เป็นต้น หรืออีกตัวอย่างคือ ฟีเจอร์ Galaxy AI อย่าง AI Interpreter Dual Screen แปลภาษาพร้อมกัน 2 จอ ที่ Galaxy Z Flip4 คงไม่รองรับ หรือต่อให้รองรับก็คงใช้งานไม่สะดวกนัก เพราะจอนอกไม่ใหญ่พอ
พับแล้วบางลง รอยพับก็จางลง
Samsung มีการพัฒนาปรับปรุงบานพับของ Galaxy Z Flip-series อย่างต่อเนื่องในทุกปี ทั้งในแง่ความทนทาน กลไกการทำงาน และความหนา รวมถึง Galaxy Z Flip6 ในปีนี้ ที่ถูกปรับปรุงให้บานพับสามารถพับได้สนิทมากขึ้น ผลคือ ตัวเครื่องบางลง 0.2 มม.ขณะพับ (เหลือ 14.9 มม.) ทั้งที่แบตใหญ่กว่าเดิม และมีชิ้นส่วนระบายความร้อนเพิ่มเข้ามา และในขณะเดียวกัน รอยพับบนหน้าจอเองก็จางลงด้วย กล่าวได้ว่า Galaxy Z Flip6 มีบานพับที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Flip4 หรือรุ่นอื่นที่เหลือ
ของใหม่ที่เพิ่มมาเป็นครั้งแรก
Galaxy Z Flip6 เป็นมือถือรุ่นแรกในตระกูล Galaxy Z Flip-series ที่มีการติดตั้งระบบระบายความร้อน vapor chamber ภายใน ขนาดใหญ่กว่าที่ใช้ใน Galaxy S23 Ultra ถึง 1.5 เท่า และ Galaxy Z Flip6 เป็นมือถือจอพับรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐานความทนทาน IP48 คือ ทนได้ทั้งน้ำทั้งฝุ่นแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ทนได้เฉพาะน้ำอย่างเดียว
ชิปแรง แรมเยอะ เพื่อ AI และการใช้งานในอนาคต
ปี 2024 ถนนทุกสายต่างมุ่งสู่ AI จนฟีเจอร์ด้านปัญญาประดิษฐ์กลายมาเป็นสมรภูมิแห่งใหม่บนตลาดมือถือ ซึ่งปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนฟีเจอร์เหล่านี้คือ NPU บนชิปเซต และแรม กล่าวคือ หาก NPU แรง แต่แรมไม่พอ กจะเป็นปัญหาในลักษณะคอขวด เช่นเดียวกัน หาก NPU ไม่แรง แต่แรมเยอะ ก็คงรัน AI ไม่ไหว ดังนั้นทั้ง 2 อย่างนี้จึงต้องเดินไปคู่กัน
Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Flip4 ต่างอยู่ในรายชื่อที่จะได้อัปเดตให้ใช้งาน Galaxy AI ของ Samsung ทว่า ทั้งคู่มีแรมเท่ากันที่ 8GB ซึ่งปริ่ม ๆ จะชนเพดานในการประมวลผล AI แบบ on-device หากมองเผื่อในอนาคตว่า Galaxy AI อาจมีการขยับขยายฟีเจอร์ เก่งขึ้น ฉลาดขึ้น ทำอะไรได้มากขึ้น ถึงตอนนั้นอาจต้องการ NPU และ แรมเยอะกว่าเดิมก็เป็นไปได้สูง ในขณะที่ Galaxy Z Flip6 แทบจะตัดความกังวลทิ้งไปได้ จากการมีแรม 12GB และ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ที่แรงเหลือเฟือ ยังไปต่อได้อีกนาน
กล้อง 50MP มีซูมในเซนเซอร์ พร้อม ProVisual Engine
Galaxy Z Flip6 ขยับความละเอียดกล้องหลังเป็น 50MP เป็นการอัปเกรดแบบก้าวกระโดดจาก 12MP ปลดล็อกความสามารถซูมในเซนเซอร์ที่ระยะ 2 เท่า (ประมาณ 50 มม.) เสริมด้วย ProVisual Engine แบบเดียวกับใน Galaxy S24 series ช่วยยกระดับการถ่ายภาพในหลาย ๆ สถานการณ์ และการประมวลผลภาพ HDR ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งภาพนิ่ง วิดีโอ และการถ่ายเซลฟี
แบตใหญ่ขึ้น จัดการพลังงานดีขึ้น
Samsung เคลมว่า Galaxy Z Flip6 ท่องเว็บได้นานขึ้น 2 ชั่วโมง ดูวิดีโอได้นานขึ้น 3 ชั่วโมง หมายความว่า Galaxy Z Flip6 ไม่เพียงมีแบตใหญ่ขึ้นเป็น 4000mAh แต่ยังมีระบบจัดการพลังงานที่ดีขึ้นด้วย และอีกส่วนหนึ่งก็มาจากตัวชิปเซตที่กินไฟน้อยลงเช่นกัน
สรุปความเปลี่ยนแปลงใน Galaxy Z Flip6
- มากับชิปเซต Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy
- เพิ่มแรมเป็น 12GB (จากเดิม 8GB)
- เพิ่มแบตเป็น 4000mAh (จากเดิม 3700mAh)
- เพิ่มความละเอียดกล้องหลังเป็น 50MP (จากเดิม 12MP)
- รองรับซูมในเซนเซอร์ 2 เท่า
- รองรับ ProVisual Engine ถ่ายภาพดีขึ้น
- มีระบบระบายความร้อน vapor chamber เป็นครั้งแรก
- ทนน้ำทนฝุ่น IP48 เป็นครั้งแรก
- ตัวเครื่องบางลง 0.2 มม. (ขณะพับ)
- รอยพับจางลงเล็กน้อย
- เปลี่ยนผิวสัมผัสวัสดุเป็นผิวด้าน
- เปลี่ยนสีเฟรมเครื่องและขอบกล้องเป็นสีเดียวกับฝาหลัง
ใช้ Galaxy Z Flip5 หรือ Galaxy Z Flip4 อยู่ ควรอัปเกรดหรือยัง
Galaxy Z Flip5 ยังเป็นมือถือที่ทรงพลังอยู่มาก ระดับท็อป ๆ ในตลาด ด้วยขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ประกอบกับดีไซน์ของ Galaxy Z Flip6 ที่ยังดูคล้ายเดิม และในระยะสั้นรุ่นนี้ก็ได้อัปเกรดให้ใช้งาน Galaxy AI แบบเดียวกับรุ่นใหม่ แม้ฟีเจอร์จะมาไม่ครบ แต่ฟีเจอร์สำคัญก็ไม่ตกหล่น ดังนั้นการมองข้ามช็อตไปถึง Galaxy Z Flip7 ในปีหน้า ก็คงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
แต่ถ้าพิจารณาว่า เน้นถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอเป็นหลัก แล้วกล้อง 12MP ของรุ่นเดิมไม่ตอบโจทย์ การเปลี่ยนมาเป็น Galaxy Z Flip6 ทันทีในปีนี้ ก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะได้เพิ่มมาทั้งความละเอียด 50MP การซูมในเซนเซอร์ และ ProVisual Engine และสเปคโดยรวมที่ดีขึ้นหลาย ๆ ด้าน เผื่อการใช้งานระยะยาวต่อไปในอนาคต
Galaxy Z Flip4 เริ่มเห็นความแตกต่างมากขึ้นในแง่ของสเปคภายใน และยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีกในแง่ของดีไซน์ภายนอก การอัปเกรดมาเป็น Galaxy Z Flip6 ย่อมได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นในเกือบทุกแง่มุม โดยเฉพาะจอนอกที่ขนาดต่างกันเกือบ 1.8 เท่า ซึ่งจอนอกของ Galaxy Z Flip6 ใหญ่พอจนสามารถใช้งานเฉพาะหน้าแทนจอในได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ ในขณะที่ Galaxy Z Flip4 ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ด้วยข้อจำกัดทางกายภาพ
ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็ยกระดับขึ้นแทบทุกภาคส่วน เช่น หน้าจอสว่างขึ้น ชิปเซตแรงขึ้น กล้องประสิทธิภาพดีขึ้น แบตอึดขึ้น วัสดุแข็งแรงขึ้น ตัวเครื่องทนทานกว่าเดิม เป็นต้น ดังนั้นอาจถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่จะย้ายถิ่นฐานมาสู่บ้านใหม่ (มือถือเครื่องใหม่) ใน Galaxy Z Flip6 ที่พึ่งเปิดตัวมานี้
Comment