ขนมาเพียบเลยจริง ๆ สำหรับไลน์อัพ Samsung TV ประจำปีที่คราวนี้เปิดตัวจัดเต็มก่อนงาน CES 2021 โดยทั้งหลัก ๆ แล้วจะเปิดมา 3 รุ่นด้วยกันคือ Neo QLED, MICRO LED และ Lifestyle TV รุ่นใหม่ ในงาน The First Look ครั้งแรกในรูปแบบออนไลน์ โดยปีนี้ซัมซุงจะเน้นคอนเซ็ปต์ Going Green รักษ์โลก และเพิ่มคุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพ เสียง และขนาดดีไซน์ของตัวทีวี

สำหรับคอนเซ็ปต์ “Going Green” ของทาง Samsung นั้นเป็นการดำเนินธุรกิจทีวีด้วยความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อโลก ดังนี้

  • ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน – โดยทางซัมซุงจะลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตทีวี และใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในสินค้ากลุ่มทีวีทั้งหมด
  • ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม – ดีไซน์กล่องเป็นแบบ ‘Eco-packaging’ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใน Lifestyle TV ทีวีทุกรุ่น รวมถึงบางรุ่นของ Neo QLED 2021 เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะแต่ละปีสามารถลดกล่องกระดาษลูกฟูกได้ถึง 200,000 ตัน รวมถึงยังลดปริมาณมลพิษด้วยการลดข้อความและภาพบนบรรจุภัณฑ์อีกด้วย

  • รีโมทควบคุมโซลาร์เซลล์ – ในปี 2564 ซัมซุงทีวีจะมาพร้อมกับรีโมทควบคุมโซลาร์เซลล์ ที่สามารถชาร์จพลังงานได้จากแสงภายในตัวอาคาร แสงภายนอก หรือ USB ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมรุ่นบุกเบิกจากซัมซุง ที่จะช่วยลดขยะจากถ่านขนาด AAA ได้ถึง 99 ล้านก้อนภายใน 7 ปี ยิ่งไปกว่านั้นซัมซุงยังได้คิดค้นกระบวนการผลิตที่นำพลาสติกจากขวดน้ำกลับมาใช้ในการผลิตรีโมทควบคุมได้ถึง 24%

นอกจากนี้ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาในซัมซุงทีวี 2021 จะพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และ AI เพื่อให้การรับชมทีวีสะดวกสบายกว่าและเข้าถึงง่ายกว่าที่เคย อาทิ

  • การอ่านภาษามือ (Caption Moving)
  • ภาษามือ (Sign Language)
  • การขยายภาพ (Zoom)
  • ใส่อุปกรณ์เสียงหลายตัว (Multi-Output Audio)

โดยฟีเจอร์ทั้งหมดที่เพิ่มเข้ามานี้ ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และการมองเห็นสามารถกำหนดการใช้ทีวีให้เข้ากับตนเองได้ อีกทั้งภายในปี 2022 ซัมซุงได้วางแผนขยายฟีเจอร์ข้อมูลเสียง (Voice Guide) เพิ่มเติมมาในอนาคตอีกด้วย

Samsung Neo QLED

มาเริ่มต้นด้วยทีวีรุ่นที่มีภาพคนชัดที่สุดอย่าง Neo QLED (QN900A) รุ่นเรือธงประจำค่ายที่มอบความคมชัดสูงสุดระดับ 8K ที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมต้นกำเนิดแสงแบบใหม่ที่เรียกว่า Quantum Mini LED ซึ่งถูกควบคุมอย่างแม่นยำด้วย เทคโนโลยี Quantum Matrix และ Neo Quantum Processor ชิปเซ็ตประมวลผลอันทรงพลังสำหรับ Neo QLED โดยเฉพาะ

โดยเทคโนโลยี Quantum Mini LED ของซัมซุงถูกออกแบบให้มีขนาดความสูงน้อยกว่าหลอด LED ทั่วไปถึง 40 เท่า แทนที่การใช้เลนส์กระจายแสงและตรึงหลอด LED ให้อยู่กับที่แบบเดิม ซึ่งจะมีชั้นบางๆ ขนาดไมโครที่มีหลอด LED อยู่มากมายแทน ส่วนเทคโนโลยี Quantum Matrix ช่วยให้สามารถควบคุมหลอด LED ขนาดเล็กที่เรียงตัวอยู่อย่างหนาแน่นได้อย่างแม่นยำ ปราศจากการอาการ blooming หรือการปนกันของแสงในส่วนที่สว่างและมืด ทำให้ภาพที่ได้สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น

 

นอกจากนี้ Neo QLED ยังเพิ่มความสว่างเป็น 12-bit (4096 steps) ช่วยให้ส่วนมืดของหน้าจอดำสนิท และส่วนสว่างเจิดจ้ากว่าที่เคย ทำให้เกิดประสบการณ์การรับชมเสมือนจริงจากภาพที่มีความสมบูรณ์ของแสงและเงา นอกจากนี้ Neo QLED ยังมาพร้อม Neo Quantum Processor ที่พัฒนามาจากชิปเซ็ตประมวลผลประสิทธิภาพสูงของซัมซุง

มีจุดเด่นตรงฟีเจอร์ AI upscaling โดย Neo Quantum Processor สามารถยกระดับความคมชัดของภาพให้เป็น 8K หรือ 4K ถึงแม้ว่าสัญญาณภาพจะมีความละเอียดต่ำ ด้วยโมเดลระบบโครงข่ายประมวลผล (neural network) ถึง 18 โมเดล ที่ถูกพัฒนาเพื่อ AI upscaling และเทคโนโลยี deep learning

Neo QLED 8K จากซัมซุงในปีนี้ มาพร้อมกับดีไซน์ Infinity One แบบใหม่ ที่แทบไร้ขอบ ยกระดับการรับชมให้สมจริงด้วยการออกแบบ และรูปทรงที่หรูหรา ยังมี Slim One Connect box กล่องเพื่อจัดระเบียบระบบเคเบิล ที่สามารถถอดเข้าออกได้ เพื่อความสะอาดและสวยงาม ไม่หมดเท่านี้ Neo QLED 8K รุ่น 2021 ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ระดับพรีเมียม อย่างนวัตกรรม Object Tracking Sound (OTS) ที่วิเคราะห์เสียง เพื่อให้เสียงเคลื่อนไหวไปกับภาพแบบเรียลไทม์ และ SpaceFit Sound ซึ่งวิเคราะห์บรรยากาศรอบข้าง เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงอันสมจริงให้ดีขึ้นด้วย

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน Neo QLED 8K และ 4K รุ่น 2021

  • Super Ultrawide GameView เพิ่มสัดส่วนหน้าจอได้สูงสุดถึง 32:9 ไม่พลาดทุกเหตุการณ์บนหน้าจอ
  • Game Bar แถบควบคุมการตั้งค่าหน้าจอที่จะทำให้เกมเมอร์ตั้งค่าต่าง ๆ ได้ดังใจ ไม่ว่าจะเป็น ปรับขนาดหน้าจอ เช็คความเร็วของสัญญาณภาพ (input lag) และการเชื่อมต่อหูฟัง
  • FreeSync Premium Pro ช่วยให้ภาพไหลลื่นตลอดการเล่นเกม ภาพไม่มีฉีกขาด
  • Google Duo ผู้ใช้งานสามารถคอลผ่านสมาร์ทโฟน แบบความคมชัดสูงได้ถึง 32 คอลในครั้งเดียวผ่านตัวทีวี พร้อมกล้องเสริมที่เชื่อมต่อด้วยสาย USB ตัวกล้องสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ ตลอดจนการซูมเข้าหรือออกเพื่อให้ภาพของผู้ใช้อยู่ในขนาดที่เหมาะสมอยู่เสมอโดยไม่หลุดโฟกัส
  • PC on TV ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อคอมกับทีวีได้ และสามารถเข้า MS Office 365 เพื่อสร้างหรือแก้ไขเอกสาร บนเว็บเบราว์เซอร์ของทีวีได้โดยตรง

Samsung MICRO LED

ถัดมาดูทางด้าน MICRO LED ที่จะมาพร้อมขนาดจอ 110 นิ้ว และ 99 นิ้ว โดยสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม MICRO LED นี้จะใช้ไฟ LED ขนาดไมโครเมตร เพื่อกำจัดแสงพื้นหลังและฟิลเตอร์สีที่ใช้อยู่บนจอแสดงผลทั่วไป ทำให้จอภาพสามารถส่องสว่างเองได้ มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ให้สีและความสว่างที่เหมือนจริงอย่างตื่นตาตื่นใจผ่าน LED ถึง 24 ล้านจุด พร้อมด้วยการออกแบบแบบโมลิธ (Monolith Design) ที่กำหนดโดยอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องมากกว่า 99% แทบจะไม่มีขอบ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ 4Vue (Quad View) ที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมเนื้อหาที่แตกต่างกันได้ถึงสี่เนื้อหาพร้อมกันบนหน้าจอเดียว และยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้หลายเครื่อง เพื่อเล่นเกมไปพร้อมกับสตรีมได้ด้วยในจอเดียวกันก็ได้ รวมถึงทีวียังมีระบบเสียง Majestic แบบ 5.1 ที่ให้เสียงออกมามีคุณภาพทุกย่านเสียง แม้ว่าจะไม่มีลำโพงภายนอกก็ตาม เปรียบดังเป็นโฮมเธียเตอร์สุดหรูติดมากับทีวีวเลยทีเดียว 

Samsung Lifestyle TV

ปิดท้ายด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyle TV 2021 ที่ทั้งในด้านดีไซน์ และรูปแบบ ออกแบบมาเพื่อรสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ถ้าจำกันได้ตั้งแต่ซัมซุงเปิดตัวรุ่น The Frame ในปี 2017 ที่พลิกโฉมนิยามของทีวี เปลี่ยนหน้าจอธรรมดาให้กลายเป็นผลงานศิลปะตระการตา ซึ่งทำยอดขายได้แล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง

ในปีนี้ The Frame มากับนวัตกรรมที่พร้อมมอบอิสระในการปรับแต่งที่มากขึ้น ในรูปร่างที่บางลงครึ่งหนึ่งจากรุ่นเดิม พร้อมกับดีไซน์ที่สร้างมิติให้ใกล้เคียงกับกรอบรูปของจริงยิ่งขึ้น มีสีกรอบให้เลือกถึง 5 สี 2 สไตล์ ได้แก่ สไตล์โมเดิร์น (Modern) และสไตล์ขอบลึก (Beveled) เพื่อให้เข้ากับสุนทรียะของทุกห้อง

และด้วย Art Store รุ่นใหม่นี้เองทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงงานศิลปะได้มากกว่า 1,400 ชิ้น และด้วยระบบ AI-based auto-curation ทีวีจะสามารถเลือกแนะนำภาพที่เหมาะกับรสนิยมของคุณได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyle TV จากซัมซุง พร้อมนำเสนออิสระแห่งการแสดงออกอย่างไม่มีขีดจำกัด ด้วย The Frame (เดอะ เฟรม), The Serif (เดอะ เซรีฟ), The Sero (เดอะ เซโร), The Terrace (เดอะ เทอร์เรซ) และ The Premiere (เดอะ พรีเมียร์)

เรียกได้ว่าทีวีซัมซุงแต่ละรุ่นที่เปิดตัวมาในปี 2021 นี้มีแต่รุ่นอลัง ๆ ทั้งนั้น ทีวีที่เป็นมากกว่าทีวี ฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาเยอะสุด ๆ โดยหาเพื่อน ๆ คนไหนสนใจรุ่นอะไร สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Samsung’s 2021 TV ได้ที่ https://www.samsung.com

 

ที่มา : เมลประชาสัมพันธ์