Samsung ปล่อยคลิปวิดีโอโปรโมต One UI 4 บน Android 12 อย่างเป็นทางการออกมาแล้ว ถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำเสนอแบบจริง ๆ จัง ๆ จากที่ก่อนหน้านี้ปล่อยออกมาทีละนิด ทีละหน่อย… พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้อธิบายถึงแนวคิดในการออกแบบสามประการ คือ สะดวกสบาย เรียบง่าย และบ่งบอกถึงตัวตนของผู้ใช้งาน ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ทั้งหน้าตาระบบโดยรวม วิดเจ็ต ฟีเจอร์ใหม่ ๆ รวมถึงการนำฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานมาปรับปรุงหรือแก้ไขอะไรเดิม ๆ ให้ดียิ่งขึ้น

ธีม วิดเจ็ต และหน้าจอโฮม

  • จับกลุ่มสีของอินเทอร์เฟซในระบบที่ใกล้เคียงกันแล้วปรับให้เป็นโทนเดียวกันเพื่อความสวยงามและความเป็นระเบียบ
  • จับคู่ธีมของระบบให้สอดคล้องเป็นโทนสีเดียวกับวอลเปเปอร์
  • อัปเกรดวิดเจ็ตครั้งใหญ่ นอกเหนือจากหน้าตาที่ได้รับการปรับปรุงให้ดูดีขึ้นแล้ว ยังมีการนำสีมาใช้ในองค์ประกอบเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจง่าย เช่น วิดเจ็ตนาฬิกาคู่ หากเป็นตอนกลางวันพื้นหลังจะเป็นโทนสว่าง กลับกัน หากเป็นตอนกลางคืนพื้นหลังจะเป็นโทนมืด อะไรทำนองนี้
  • มีฟังก์ชันตัดขอบวิดเจ็ตให้โค้งโดยอัตโนมัติ
  • เมื่อเปิดใช้งานโหมดมืด คราวนี้ในหน้าจอโฮมจะมีการปรับไอคอนของแอปให้มืดลงตามไปด้วย จากเดิมที่มีการปรับแค่วอลเปเปอร์กับวิดเจ็ตบางตัวที่รองรับ

 

อินเทอร์เฟซของระบบและฟีเจอร์ทั่วไป

  • ปรับหน้าต่างของ Picture-in-picture ให้มีขอบโค้ง ลักษณะเดียวกับขอบของวิดเจ็ต และเพิ่มฟังก์ชันการปรับขนาดหน้าต่างด้วยการจีบนิ้วเข้าไป (อันนี้ดีมาก ดูแล้วสะดวกกว่าเดิมจริง ๆ ที่ต้องแตะแล้วลากจากขอบ)
  • จัดการเรียงลำดับของ Quick Panel ใหม่เล็กน้อย ย้ายปุ่ม Device และ Media output ขึ้นมาอยู่ตรงกลาง แล้วย้ายแถบปรับระดับระดับความสว่างหน้าจอลงมาด้านล่างแทน (สลับกัน) พร้อมทั้งออกแบบใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สอดคล้องเป็นดีไซน์เดียวกับแถบปรับระดับเสียง
  • เพิ่มปุ่ม Media output ให้วิดเจ็ตเครื่องเล่นเพลงในหน้าจอล็อก สามารถสลับหูฟังหรือลำโพงได้ทันทีโดยไม่ต้องไปทำใน Quick Panel เหมือนที่ผ่านมา
  • แก้ไขปัญหาเวลาจะวางข้อความที่คัดลอกแล้วโดนพื้นหลังของเมนูบังจนมองไม่เห็นตำแหน่งที่จะวาง โดยการปรับพื้นหลังของเมนูให้โปร่งใสเมื่อแช่นิ้วเอาไว้ที่ตำแหน่งเดิมสักระยะหนึ่ง
  • เพิ่มฟีเจอร์ Extra dim หรี่แสงหน้าจอให้ต่ำกว่าระดับปกติ เพื่อใช้งานในที่มืดมาก ๆ
  • เปลี่ยนเอฟเฟกต์บ่งชี้สิ้นสุดการเลื่อนหน้าจอ จากเดิมเป็นแสงโค้ง ๆ กลายเป็นเอฟเฟกต์เยลลีเด้งดึ๋ง มีผลกับทั้งระบบและแอปต่าง ๆ

 

คีย์บอร์ด อีโมจิ และสติกเกอร์

  • ปุ่มอีโมจิ ไอคอน สติกเกอร์ และ GIF ใน Keyboard จะถูกรวมไว้ในปุ่มเดียว พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Emoji pairs สำหรับจับคู่อีโมจิสองตัวเข้าด้วยกัน เมื่อส่งไปแล้วจะสลับไป ๆ มา ๆ ได้โดยการแตะที่ตัวอีโมจิ
  • ปรับปรุงการตอบสนอง (การสั่น) แอนิเมชัน และเสียงของระบบ

กล้องและการถ่ายภาพ

  • เปลี่ยนไอคอนการซูมและการสลับเลนส์ในแอป Camera โดยใช้ตัวเลขแทนไอคอนต้นไม้ และเมื่อมีการซูมในระดับย่อย (ซูมแบบดิจิทัล) ตัวเลขก็จะแสดงผลที่สอดคล้องกันให้ดูด้วย
  • เมื่อเข้าสู่การถ่ายวิดีโอด่วนจากการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างในโหมดภาพนิ่ง คราวนี้จะมีไอคอนล็อกเพิ่มเข้ามา เพื่อให้สามารถเข้าสู่โหมดการถ่ายวิดีโอเต็มรูปแบบตามปกติได้ แก้ปัญหาที่ผู้ใช้งานต้องมากดปุ่มชัตเตอร์ค้างเพื่อบันทึกวิดีโอในโหมดนี้

 

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

  • เมื่อกล้องหรือไมโครโฟนถูกเรียกใช้งานจะมีไอคอนปรากฏที่มุมขวาบน โดยผู้ใช้งานสามารถแตะที่ไอคอนดังกล่าวเพื่อกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของแอปต่าง ๆ ได้ทันทีจากตรงนี้อีกด้วย
  • เพิ่มตัวเลือกการระบุตำแหน่งแบบหยาบ ๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับแอปที่ไม่ได้ต้องการพิกัดที่แม่นยำ เช่น Weather

 

ตอนนี้ One UI 4 ยังอยู่ในสถานะ Beta เวอร์ชันที่ 4 และยังจำกัดประเทศที่เปิดให้เข้าร่วมทดสอบ (ไม่มีไทย) ส่วนตัวเต็มจะเปิดให้ใช้งานกันภายในเดือนธันวาคมศกนี้ เริ่มจากซีรีส์ Galaxy S21 ก่อนเป็นอันดับแรก เสียงตอบรับจากคนที่ได้ลองใช้แล้วส่วนใหญ่จะชมเรื่องแอนิเมชันของระบบเป็นพิเศษ เพราะ Samsung ได้ปรับปรุงในแสดงผลได้ต่อเนื่อง ลื่นไหล ละมุนตามากขึ้น และมีการนำเอฟเฟกต์เกี่ยวกับการเบลอเข้ามาแสดงผลร่วมด้วย

 

ที่มา : Samsung (1, 2)

Play video

Play video