เพื่อนๆบางคน อาจจะเคยเจอพนักงานนำส่งสินค้ามาให้ผิดกันบ้าง ซึ่งปกติก็จะมีการติดต่อรับกลับไปส่งคืนร้านหรือคนสั่งตัวจริงกันไป แต่ทีมงานเราเจอเรื่องแปลก มีกลิ่นตุๆ เมื่อพัสดุที่ส่งมานั้นเขียนคนสั่งว่าเป็นเราและระบุที่อยู่ได้อย่างถูกต้อง ทั้งที่ไม่ได้สั่ง แถมไม่มีการเรียกเก็บเงิน อย่างสแกมที่เคยเป็นข่าว ซึ่งถ้าแค่ชิ้นสองชิ้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่ทำเอาพวกเราช็อคคือมันดันมีมากถึง 25 ซอง!?!
ไล่เรียงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
พฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม
พวกเราได้รับพัสดุปริศนาเป็นซองสีขาว 1 ซอง พร้อมจ่าหน้าเลขพัสดุของ lazada ขึ้นต้นด้วย Order No.7189994468xxxxx
โดยข้อมูลผู้ส่งมาจากบริษัท : vh333577 Dock 96 – 98 62/4 moo 5 Bangsamak, Bangpakong Chachoengsao, Thailand 24180
และชื่อที่อยู่ผู้รับตรงกับเราทุกอย่าง เช่น ชื่อ บ้านเลขที่ เบอร์โทรศัพท์ ทั้งในช่วงนั้นเราไม่ได้สั่งของจากแอป lazada ส่วนด้านหลังมีการระบุ Non – COD แบบไม่เก็บเงินปลายทาง พร้อมชื่อสินค้าตั้งแต่ ถุงเท้า, สติ๊กเกอร์ติดเล็บเท้า, รถไฟมังกร, แก๊สป้องกันหมอหุงข้าว, ที่วางสบู่ สารพัดสิ่งมาก แต่เมื่อเปิดดูภายในกลับเป็นปากกาเมจิกสีดำ 1 แท่ง
ซึ่งในวันนี้เราก็คิดว่าเป็นการส่งผิดธรรมดา โทรไปแจ้งขนส่งให้มารับกลับ เพราะคิดว่าส่งผิด พนักงานก็แจ้งว่าถูกแล้ว ยังไงก็จะไม่มารับกลับและให้เก็บสินค้าเอาไว้เลย ไม่ต้องคืนเพราะเป็นแบบ Non – COD เราจึงจำใจต้องเก็บของชิ้นนี้เอาไว้แบบงง ๆ
ปากกาเมจิกสีดำหนึ่งแท่ง ที่เราไม่ได้ลองใช้งาน เพราะไม่ได้เป็นคนสั่งมา
ศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม
เรื่องประหลาดนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำอีก แต่เริ่มมีความผิดปกติมากขึ้น เมื่อขนส่งได้นำส่งมาเพิ่มอีก 12 ซอง โดยรูปการณ์ยังคล้ายเดิมคือ จ่าหน้าถึงเราได้อย่างถูกต้องทั้งชื่อ ที่อยู่ ส่วนชื่อร้านค้ามีการเปลี่ยนแปลงไป ทั้ง 12 ซองไม่มีชื่อซ้ำกันเลยแม้แต่ชื่อเดียว และชื่อร้านก็ไม่ใช่ชื่อร้านจริงๆ บางร้านเป็นชื่อร้านที่ระบบสร้างขึ้นมาให้ แต่พอไปค้นหาร้านค้าในระบบก็หาร้านนั้นๆไม่เจอ เช่น rihcw945, langiqi6572, bacai3 และ il55ed
ส่วนรายการสินค้าที่แปะแจ้งไว้หน้าซอง ก็จะมีมากมายเช่นเดิม ตั้งแต่ 5 ชิ้นขึ้นไป แต่ภายในซองก็เหมือนจะเป็นปากกาเมจิกแท่งเดียวไม่แตกต่าง (ที่ใช้คำว่าเหมือน เพราะเราไม่ได้แกะออกมาดู)
วันนี้เราเริ่มคิดว่าเหตุการณ์ผิดปกติมากๆ และรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้ลองโทรหาทางลาซาด้า 2 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งทาง Call Center ของ ลาซาด้า ก็ให้คำตอบที่แตกต่างกันออกไป
ครั้งแรก – Call Center ไม่รับเรื่องเพิ่มเติม แค่บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ได้มีการจ่ายเงิน หรือหลอกให้จ่ายเงินเกิดขึ้น คำสั่งซื้อมาจากอีเมลมั่ว ๆ แบบตัดผ่านบัตร เลยแนะนำให้เราเก็บของไว้ กรณีหากมีคนจะตามคืน เขาจะให้ทางขนส่งเข้าไปรับอีกที หรืออีกกรณีเนื่องจากสินค้าได้รับการชำระเงินแล้ว สามารถเก็บไว้หรือทำลายทิ้งได้เลย คิดซะว่าได้ของฟรี ซึ่งเราไม่พอใจกับคำตอบนี้สักเท่าไหร่ จึงโทรเข้าคอลเซนเตอร์อีกครั้ง
ครั้งสอง – Call Center ดูกระตือรือร้นกว่าครั้งแรก แจ้งให้เราส่งหลักฐานให้ทีมงานเพิ่มเติม เพื่อทำการตรวจสอบ เราก็ทำการส่งข้อมูลทั้งหมดที่มีให้ และทางลาซาด้าก็ขอเวลาในการตรวจสอบ
วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม
การส่งที่ไม่ได้สั่ง ยังไม่จบแค่วันที่ 2 แต่มีมาส่งเพิ่มอีก 12 ซอง ลักษณะเช่นเดิมเป๊ะ ทำให้เราได้รับรวมกันทั้งสิ้นเป็นจำนวน 25 ซอง
เราได้โทรหาพนักงานอีกครั้ง เพื่อรีเช็คว่าคำสั่งซื้อมาจากอีเมลมั่ว ๆ คือเมลอะไร กับแจ้งเรื่องทำไมผู้ส่งถึงมีที่อยู่ออฟฟิศเรา และทำไมสินค้าที่ส่งกับของข้างในไม่ตรงกัน อันนี้ลาซาด้าแจ้งว่า หากเกิดเหตุการณ์ครั้งที่ 3 ที่มีการส่ง เราสามารถปฏิเสธการรับและขอถ่ายรูปไว้ และให้ติดต่อมาทางลาซาด้าอีกครั้ง
บอกตามตรงว่า วันนี้ทำให้เราเริ่มรู้สึกหลอนกับของที่มาส่ง ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเริ่มโทรหาเพื่อนเพื่อสอบถามว่าเคยมีใครโดนแบบนี้มั้ย แต่เพื่อน ๆ รอบตัวไม่มีใครให้คำตอบได้ ต่างบอกให้ทิ้งไป และถ้าหากเป็นการรับของโจรมาจะทำยังไง บ้างก็ให้โทรถามหาเจ้าหน้าที่ทางลาซาด้าเพื่อเคลียร์พัสดุนี้ว่าตกค้างหรือเปล่า แต่เราก็เริ่มสงสัยว่าเราโดนคนเดียวหรือมีคนอื่นก็เคยโดนเหมือนกับเรามั้ย?
มีใครโดนเหมือนเรามั้ย?
จากการที่เราไปลองค้น google ก็พบว่าเฮ้ย คนโดนเยอะมากเลยนี่หว่า ในกระทู้ pantip ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แถมเรื่องราวแบบนี้มีมานานมากแล้วด้วย แต่เหมือนเรื่องจะแดงขึ้นเยอะในช่วงปี 2564 แต่เป็นกรณีของมิจฉาชีพส่งของมาให้เราเก็บเงินปลายทาง มีตั้งแต่ราคาหลัก 100 ไปจนถึงหลัก 1,000 จนสื่อข่าวหลายสำนักต้องออกมา เตือนภัยกลโกงใหม่ของมิจฉาชีพ เลยทีเดียว
แต่ในปัจจุบันการส่งพัสดุไม่ได้เก็บเงินปลายทางแล้วค่ะ ส่วนของข้างในบ้างก็เป็นปากกา ลูกอม และขยะ เป็นต้น แต่มีคอมเมนต์หนึ่งน่าสนใจมาก
เขาเล่าว่า ”มิจฉาชีพทำได้หลายรูปแบบ เขาขายที่อยู่กันในกลุ่มมิจฉาชีพแล้วเขาก็สร้างสมาชิกคนขาย สร้างสมาชิกคนซื้อ ส่งของมาที่อยู่เรา ถ้าแบบเก็บเงินปลายทางก็คือโกงซึ่งหน้าได้เงินมาก กับสินค้าขยะ ถ้าไม่เก็บเงินปลายทาง ก็ต้องการอาศัยเลข tracking เพื่อระบุว่าสินค้าถึงมือแล้ว เพื่อเบิกเงินไป โดยจะส่งของที่ไม่ตรงกับสินค้ามาให้ก่อน ทำให้เราเผลอกดรับสินค้าทั้งที่สินค้าไม่ตรง ถ้าเรายังไม่กดรับ เขาจะส่งขยะตามหลังมาให้ ” จากกระทู้ความคิดเห็นที่ 2 ผู้ใช้นาม neversayso
เคสนี้ก็ยังไม่ตรงกับของเราซะทีเดียว แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้เค้ามีข้อมูลส่วนตัวของเราไปซื้อขายแลกเปลี่ยนกันสบายเลยเหรอ
โดยเมื่อปี 2561 มีข่าว ตำรวจทลายถึงโกดัง! จับแก๊งจีนส่งของ เก็บเงินปลายทาง จากข้อมูลของเว็บ thairath ออนไลน์
ข่าวนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องสแกมส่งของเก็บเงินปลายทางเป็นหลัก แต่ก็มีส่วนที่น่าสนใจว่าชื่อที่อยู่ของเราเป็นไปได้ว่าจะซื้อมาจากฐานข้อมูลลูกค้าบริษัทส่งของ โดยสินค้าทั้งหมดถูกส่งเข้ามาจากประเทศจีนโดยตรง
ลาซาด้า โทรกลับมาแจ้ง ปิดบัญชีเรียบร้อย
จากที่โทรไปคอลเซนเตอร์รอบที่สอง และส่งข้อมูลไปให้เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลและโทรมาแจ้ง วันจันทร์ที่ 10 ว่าได้ทำการปิดร้านต่างๆ ตามที่ได้แจ้งไปเรียบร้อย แต่ไม่ได้บอกถึงที่มาว่าร้านเหล่านั้นไปได้ข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ ของเรามาจากไหนอย่างไร แค่ปิดบัญชี ปิดร้านให้เท่านั้น
แต่… มันก็จบแบบนี้หรอ มันยังมีคำถามที่ค้างคาอยู่มากมาย
- ถ้าเราไม่ได้สั่งของในแอป ก็ไม่น่าจะมีออเดอร์ขึ้นในตระกร้าสินค้า แต่ทำไมถึงมีของมาส่งผ่าน Lazada ได้
- ชื่อ ที่อยู่ของเราไปอยู่ในมือของร้านค้าเหล่านี้ได้อย่างไร?
- ข้อมูลส่วนบุคคลของเราปลอดภัยแค่ไหน?
- นี่คือการปั่นยอดของร้านค้าออนไลน์แบบใหม่?
- ใครเป็นคนรับผิดชอบเหตุการณ์นี้ หรือมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ที่แพลตฟอร์มไม่แคร์ ?
- ถ้าบริษัทส่งทำข้อมูลหลุด ลาซาด้า และช้อปปี้จะช่วยจัดการเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ?
และแน่นอนว่าคำถามเหล่านี้ไม่มีใครให้คำตอบเราได้อย่างชัดเจน
เราได้ทำการค้นข้อมูลพบว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง เป็นระยะเวลาหลายปีจนถึงปัจจุบัน ผ่านช่องทางช็อปปิ้งออนไลน์ แต่ทำไม Shopee และ Lazada ยังคงนิ่งนอนใจ มัวทำอะไรอยู่ ปล่อยให้คนจำนวนมากเสี่ยงข้อมูลหลุด มิหนำซ้ำบางคนทักไปสอบถามแต่ไม่ตอบ แชทถามไม่ได้ โทรไม่ติด
สรุป
เรื่องราวในครั้งนี้ก็ยังคงทำให้เราคลางแคลงใจอยู่ดี เพราะสุดท้ายเราไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการรับของที่ไม่ได้สั่งได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เป็นความผิดพลาดของใคร หรือแท้จริงมิจฉาชีพหาช่องโหว่เพื่อมาฉกฉวยโอกาส? ….ไม่มีใครให้คำตอบเราได้อย่างชัดเจน
ทางเราหวังว่าบทความนี้จะกระตุ้นให้แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ออกมาให้ความชัดเจนกับลูกค้ามากขึ้น รวมไปถึงความปลอดภัยที่เราควรได้รับอยู่แล้วตั้งแต่ต้น เพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มีใครออกมาแก้ไขก็จะเกิดขึ้นวนไปแบบไม่รู้จบนั่นเองค่ะ
ผมก็โดนจากผู้ส่งจากที่อยู่นี้เป๊ะเลย
ด๊อก 96-98 ฉะเชิงเทรา เนี่ย แค่ชื่อคนละบริษัท
แต่กรณีผม เป็นสินค้าที่ผมสั่งใน L มาจากร้านในจีน ซึ่งเป็นสินค้าที่โพสต์ไว้ใช้รูปซ้ำกันกับร้านอื่น
แล้วรูปนี้ใช้ซ้ำกันเป็นสิบร้านเลย และเป็นรูปถ่ายแบบถ่ายเอง ไม่ใช่รูปจากเจ้าของแบรนด์สินค้า และรูปนี้ก็มีร้านใช้ในอีกแอพคู่แข่งด้วย
สาเหตุที่ผมสั่งเพราะมันราคาต่ำมาก แต่มันยังดูเป็นราคาที่เป็นไปได้ เพราะร้านอยู่ในจีน อาจได้ราคานี้ ก็ลองสั่งมา
เมื่อพัสดุมาถึง ผมรู้ทันทีว่านี่สินค้าปลอม เพราะของอันนี้ผมเคยซื้อมาก่อนจากที่อื่น มันต้องเป็นกล่องใหญ่ แต่พัสดุที่มาส่งมันเป็นซองเล็กๆเอง ผมไม่ต้องแกะก็ทราบทันที
และอีกอย่างที่กล้าสั่งลองซื้อ เพราะแอพนี้รับคืนสินค้าถึงบ้าน ก็เลยลองดู
แต่ที่อยู่มิจฉาชีพในโพสต์นี้ กับของผม ตรงกัน ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลเรารั่วไปได้ไง?และแอพปล่อยให้มีร้านแบบนี้ได้ยังไง?
ผมเข้าไปเช็คตอนนี้มันก็ยังอยู่ สินค้าตัวนี้มันก็ยังขาย แถมคอมเม้นท์รีวิวที่ผมเขียนก็ถูกลบด้วย
กรณีทื่เจ้าของโพสต์โดน มันเป็นวิธีปั๊มยอดขายครับ พวกร้านจีนโนเนมชอบใช้วิธีนี้ คือเอา Account หลุมไปซื้อ แต่ถ้าซื้อแล้วไปลงที่อยู่เดิมๆก็จะโดนแบน เลยต้องเอาไปลงบ้านใครก็ไม่รู้ ชื่อใครก็ไม่รู้ ของที่ส่งให้ก็จะเป็นของถูกๆ เช่นปากกา ผ้าเช็ดหน้า เพราะถ้าไม่ส่งของจริงๆ จำนวนการขายมันไม่ขึ้นบนแอป