เปิดตัว Snapdragon 4 Gen 2 ชิปน้องเล็ก 4nm แรงกว่าเดิม 10% รองรับ RAM LPDDR5x และ ROM UFS 3.1

Qualcomm ประกาศเปิดตัวชิปซีรีส์ระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุด Snapdragon 4 Gen 2 อย่างเป็นทางการ มาพร้อมชิปโมเด็มรุ่นใหม่ Snapdragon X61 รองรับ 5G เวอร์ชั่นใหม่มาตรฐาน 3GPP Release 16 เป็นครั้งแรกของซีรีส์ นอกจากนี้ยังรองรับชนิดหน่วยความจำทั้ง RAM และ ROM ที่แรงขึ้นกว่าเดิมด้วย

Snapdragon 4 Gen 2 ได้เปลี่ยนมาผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตรเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ระดับเริ่มต้น มาพร้อม CPU คอร์ประสิทธิภาพตัวใหม่ที่ Clock Speed เยอะกว่าเดิมเล็กน้อย 2.2 GHz จำนวน 2 คอร์ + คอร์ประหยัดพลังงาน (2.0 GHz) 6 คอร์ ทำให้ชิปตัวนี้แรงกว่าในรุ่นเดิมถึง 10% ส่วน GPU นั้นใช้ Andreno ที่ยังไม่มีการระบุรุ่นออกมา

ด้านหน่วยความจำในรุ่นนี้อัปเกรดให้รองรับ RAM และ ROM เวอร์ชั่นใหม่กว่าเดิม โดยจะรองรับ RAM LPDDR5x (สูงสุด 3,200MHz) และ ROM UFS 3.1 (2-lane) รองรับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงสุด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 3.2 Gen 1 มีเทคโนโลยีชาร์จ Quick Charge 4+ ชาร์จแบตเตอรี่ 2,750 mAh จาก 0 – 50% ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น

ส่วนสเปคการถ่ายภาพ Snapdragon 4 Gen 2 มีการลดหน่วยประมวลผลภาพ ISP เหลือแค่ 2 ตัว (รุ่นก่อน 3 ตัว) รองรับฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบใหม่ Multi-Camera Temporal Filtering ช่วยลด Noise ในงานวิดีโอได้ดีขึ้น รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30FPS พร้อมรองรับการกันสั่นแบบ EIS

ชิปรุ่นนี้จะรองรับความละเอียดกล้องสูงสุด 108MP หรือสูงสุด 32MP เพื่อการถ่ายแบบ Zero Shutter Lag ไร้ความหน่วงหลังกดถ่าย และทำให้ระบบ Auto Focus ทำงานได้ไวขึ้น (หรือจะใช้กล้องคู่ 16MP + 16MP ก็ได้)

สำหรับสเปคการเชื่อมต่อ มาพร้อมชิปโมเด็ม Snapdragon X61 รองรับ 5G เวอร์ชั่นใหม่มาตรฐาน 3GPP Release 16 ที่ทำให้การเชื่อมต่อ 5G เร็วแรง และเสถียรกว่าเดิม รองรับ 4×4 MIMO ดาวน์โหลดได้สูงสุด  2.5Gbps และอัปโหลดสูงสุด 900Mbps แถมยังช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานด้วย นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 5 (ac), Bluetooth 5.1 รองรับการถอดรหัสเสียง aptX และ NFC เหมือนเดิม

มือถือรุ่นแรกที่จะใช้ชิป Snapdragon 4 Gen 2 คาดว่าจะเปิดตัวเร็วสุดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 นี้ โดยตัวเต็งอันดับ 1 ที่จะได้ใช้งานก่อนใครคือ Redmi Note 12R ซึ่งก็มีรูปตัวเครื่องหลุดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมี vivo ที่รอใช้อยู่ด้วยเช่นกัน

ที่มา: Qualcomm, GSMArena