หูฟังซีรี่ส์ใหม่ของ Sony ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่องาน IFA ตอนนี้เดินหน้าเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น WI-1000XM2 และ h.ear 3 ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ พร้อมกับ WALKMAN ซีรี่ส์ใหม่ NW-A100 บนระบบ Android 9.0 เลือกฟังได้ทั้งเพลงแบบ Hi-Res หรือจะสตรีมออนไลน์ก็ได้

Sony WALKMAN NW-A100 series

WALKMAN® NW-A105 เครื่องเล่นเพลงพกพาระดับ Hi-Res มาพร้อมการออกแบบอย่างมีสไตล์โดดเด่นด้วยสีสันสุดล้ำ มาพร้อมเทคโนโลยีเสียงชั้นเยี่ยมและฟังก์ชั่นการฟังเพลงที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ในตัวเครื่องมากมาย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการถ่ายทอดเสียงเพลงที่คมชัดแบบ Superior Sound หรือเสมือนได้ฟังจากสตูดิโอที่ศิลปินกำลังบรรเลง นอกจากนี้ สะดวกมากขึ้นด้วยการสตรีมมิ่งเพลงผ่านระบบ Android 9.0 รวมถึงการเชื่อมกับบลูทูธ 5.0 หรือ Wi-Fi เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงในทุกที่ โดยมาพร้อมหน้าจอขนาด 3.6 นิ้ว ความจำในตัวเครื่อง 16GB โดยสามารถเล่นเพลงเสียงไฟล์ Hi-Res Audio ได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 26 ชั่วโมง และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีแดง, สีดำ, สีเขียว, สีน้ำเงิน และสีส้ม ทยอยวางจำหน่ายช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ ในราคา 10,990 บาท

WALKMAN® NW-A106HN มาพร้อมกับหูฟังตัดเสียงรบกวน IER-NW510N เพิ่มคุณภาพเสียงที่คมชัดแบบ Superior Sound หรือเสมือนได้ฟังจากสตูดิโอที่ศิลปินกำลังบรรเลง นอกจากนี้ ยังสะดวกมากขึ้นด้วยการสตรีมมิ่งเพลงผ่านการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบ Android 9.0 รวมถึงการเชื่อมกับบลูทูธ 5.0 หรือ Wi-Fi เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงได้ในทุกที่ โดยมาพร้อมหน้าจอขนาด 3.6 นิ้ว ความจำในตัวเครื่อง 32GB แบตเตอรี่สามารถใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 26 ชั่วโมง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C  รุ่น NW-A106HN  มีจำหน่ายเฉพาะสีดำ วางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 14,990 บาท

WALKMAN® NW-ZX507 เป็นสุดยอดเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพาระดับพรีเมี่ยมของตระกูล Walkman มีน้ำหนักเบาเพียง 164 กรัม ออกแบบมาเพื่อ Real Sound , Real Enjoyment ตัวเครื่องผลิตจากแท่งอะลูมิเนียมตันขึ้นรูป ป้องกันสัญญาณรบกวนจาก Electrical Noise และให้ได้เสียงเบสทรงพลังคมชัดทุกโน้ต ผสานชิ้นทองแดงกลึงช่วยลดค่าความต้านทาน มีการปรับปรุงระบบกราวนด์และตัวเก็บประจุ FT CAP II ที่พัฒนาขึ้นใหม่ (High Polymer Capacitor) เพิ่มกำลังขับให้ภาคขยายแอมปลิไฟเออร์มีช่วงเสียงร้องที่กว้างและเพิ่มพลังเสียงเบส รวมถึง S-Master HX ที่รองรับไฟล์ DSD แบบ native (11.2 MHz) ฟังก์ชั่นการฟังเพลงที่ปรับปรุงขึ้นใหม่มากมาย Direct Source, 10 Band Equalizer, DSEE HX, DC Phase Linearizer, Dynamic Normalizer, Vinyl Processing ทำงานบน Android 9 เลือกฟังเพลงสตรีมมิ่งก็ได้รองรับบลูทูธ 5.0 (SBC, LDAC, aptX, aptX HD) และ Wi-Fi โดยมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 3.6 นิ้ว รวมถึงมีช่องหูฟัง 3.5 ม.ม. และสายต่อบาลานซ์ 4.4 ม.ม. ในตัว แบตเตอรี่สามารถใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C ตัวเครื่องมีจำหน่ายเฉพาะสีดำ วางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมศกนี้ ในราคา 25,990 บาท

โปรโมชั่นพิเศษ 40 ปี WALKMAN เมื่อซื้อวอล์คแมนทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ สำหรับรุ่น NW-A105/106 รับเคส CKS-NWA100 มูลค่า 1,490 บาท และรุ่น NW-ZX507 รับเคสรุ่น CKL-NWZX500 มูลค่า 2,490 บาท สิทธิพิเศษเฉพาะในเดือนธันวาคม 2019 และมกราคม 2020 เท่านั้น

 

หูฟัง WI-1000XM2

WI-1000XM2 ซึ่งเป็นหูฟังไฮเรสออดิโอแบบคล้องคอ ที่ต่อยอดมาสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของหูฟังในตระกูล 1000X ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ HD Digital Noise Cancelling Processor QN1 ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่ดียิ่งขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานระหว่างการเดินทาง ขณะเดียวกันยังมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงแบบ Dynamic ขนาด 9 ม.ม. และ Balanced Armature ทำให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดทุกย่านความถี่เสียงได้อย่างคมชัด มีเทคโนโลยี DSEE HX ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพของสัญญาณที่ถูกบีบอัดมาให้ใกล้เคียงกับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Resolution ขณะที่สายคล้องคอได้รับการปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยวัสดุซิลิโคนเพื่อการสวมใส่ที่นุ่มสบาย สามารถฟังหูเพลงได้ยาวนานาตลอดวันโดยไม่เจ็บหู และมีน้ำหนักเบากว่าเดิมเพียง 44 กรัมเท่านั้น โดยแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชม. ในขณะเปิดระบบตัดเสียงรบกวน รวมถึงมีฟังก์ชั่น Google Assistant และ Amazon Alexa ทั้งยังรองรับ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 80 นาที มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีเงิน เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมศกนี้เป็นต้นไป ในราคา 10,990 บาท

 

หูฟัง h.ear series

สำหรับผลิตภัณฑ์หูฟังตระกูล h.ear series มาพร้อมสีสันสดใส และการออกแบบใหม่ที่โดดเด่นกว่าเดิมซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์ของนักฟังเพลงรุ่นใหม่อย่างลงตัวในสีทูโทน โดย h.ear series รุ่นใหม่มาพร้อมกัน 3 รุ่น ครอบคลุมการใช้งานทั้งแบบครอบหู และสอดหู

h.ear on 3 Wireless NC รุ่น WH-H910N เป็นหูฟังไร้สายแบบคาดศีรษะขนาดฟูลไซส์ครอบหูรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมสีสันใหม่สุดนำเทรนด์ โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio ด้วยไดร์เวอร์ขนาดเล็ก 25 มม. ที่ให้เสียงอันทรงพลังเทียบเท่ากับไดร์เวอร์ขนาด 40 มม. พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดียิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเสียงการใช้งานในห้องโดยสารบนเครื่องบิน เสียงการจราจรในเมือง หรือเสียงสนทนาในสำนักงานเพื่อเพิ่มความสะดวกในฟังเพลง มีฟังก์ชั่น Ambient Sound Mode และ Quick Attention Mode ที่เปิดใช้งานได้ทันที เพียงใช้มือวางที่หูฟังด้านขวา ผู้ใช้จะได้ยินเสียงรอบข้างทันที รวมถึงมี Touch Control ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง เลือกเพลง และปรับระดับความดังของเสียงเพลงด้วยระบบสัมผัส หรือควบคุมสั่งงานผ่าน แอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ขณะที่ตัวหูฟังเพรียวบาง น้ำหนักเบาทำให้สวมใส่สบายได้ตลอดวัน ทั้งยังสามารถพับเก็บได้เหมาะกับการพกพาใช้งานเมื่อเดินทาง รวมถึงมีฟังก์ชั่น Voice Assistant โดยแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชม. และมี Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณสามารถจะเพลิดเพลินไปกับฟังเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 2.5 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง และสีน้ำเงิน เริ่มทยอยวางจำหน่ายกลางเดือนธันวาคม ศกนี้ เป็นต้นไป  ในราคา 9,990 บาท

 

h.ear on 3 Mini Wireless รุ่น WH-H810 เป็นหูฟังแบบคาดศีรษะขนาดมินิ ที่ได้รับการออกแบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหูฟังขนาดเล็ก แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res มาพร้อม Touch Control แบบใหม่เพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง เลือกเพลง และปรับระดับความดังของสียงเพลงด้วยระบบสัมผัส หรือควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ตัวหูฟังสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกสบายในการพกพา โดยรองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชม.ทั้งยังรองรับ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 3.5 ชั่วโมง มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ, แดง, สีน้ำเงิน, สีส้ม และสีเขียว เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ศกนี้ เป็นต้นไป ราคา 6,990 บาท

h.ear in 3 Truly Wireless รุ่น WF-H800 มาในสไตล์ Truly Wireless พร้อมไดนามิคไดรเวอร์ขนาด 6 มม เทคโนโลยี DSEE HX เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับคุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงระดับ Hi-Res Audio ที่สุด ตัวหูฟังดีไซน์จากวัสดุที่คัดสรร จึงมีน้ำหนักเบาใส่สบายด้วยการออกแบบหูฟังแบบ Tri-Hold พร้อมจุกหูฟังหลายขนาดเพื่อการสวมใส่ที่กระชับพอดีกับช่องหูของแต่ละคน ลดช่องว่างที่เสียงจากภายนอกที่อาจลอดเข้ามารบกวนจึงฟังเพลงได้เต็มอรรถรส รวมถึงพกพาสะดวกด้วยกล่องบรรจุสำหรับการจัดเก็บและชาร์จไฟในตัว สะดวกด้วยปุ่มปรับเสียงบนหูฟัง หรือควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect รวมถึงฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียงในระบบต่างๆ เช่น Google Assistant ทั้งนี้หูฟังสามารถใช้งานได้นานรวมสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง (8ชม+8ชม) คล่องตัวด้วยระบบ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 70 นาที มีให้เลือก 5 สีคือ สีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน, สีส้ม และสีเขียว จะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ในราคา 6,990  บาท

 

พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้จัดเตรียมเครื่องบันทึกเสียงดิจิตอล Hi-Res Audio แบบพกพารุ่นใหม่ล่าสุด ICD-UX570F ตอบโจทย์ตอบโจทย์ทั้งการบันทึกทั้งเสียงดนตรีและเสียงร้องได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียงบันทึกได้ด้วยโปรแกรม Sound Organize 2 ที่มากับเครื่องที่ช่วยในการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติเพื่อให้ได้เสียงบันทึกที่ชัดเจนและมีความดังเหมาะสม รวมถึงมีฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยให้การบันทึกทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น มาพร้อมหน้าจอ OLED และ UI ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้มีความคมชัดและดูได้อย่างง่ายดาย มีระบบชาร์จไวเพียง 3 นาที โดยสามารถใช้งานได้ 60 นาที และสามารถบันทึกวิทยุ FM และสัญญาณภายนอกผ่านรูปแบบ AUX 3.5 มม.ได้อีกด้วย มาพร้อมหน่วยความจำในตัวเครื่อง 4GB และยังสามารถเพิ่มความจุได้มากกว่า 64GB ด้วย Micro SD Card มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ, สีเงิน และสีทอง           พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 3,990 บาท