เปิดตัวไปเรียบร้อยสำหรับมือถือสุดยอดเรือธง OnePlus 7T ที่รอบนี้ขนสเปคและฟีเจอร์มาอัพเกรดจากรุ่น OnePlus 7 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีแบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก แถมราคายังเปิดมาไม่ถึง 20,000 บาท อีกด้วย ส่วนจะมีอะไรบ้าง แล้วฟีเจอร์แต่ละอันจะว้าวมากกว่าเดิมแค่ไหน มาดูกันเลยครับ

สเปค OnePlus 7T

  • หน้าจอ Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 20:9, รองรับการแสดงผล HDR10+, รีเฟรชเรท 90Hz
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 855+
  • GPU : Adreno 640
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB/256GB ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 3.0 ใส่เมมเพิ่มไม่ได้
  • กล้องหลัง 3 ตัว รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 4K@30/60fps
    • เซนเซอร์หลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, OIS
    • เลนส์ Ultra Wide 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 117 องศา
    • เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, OIS
  • กล้องหน้า : 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, EIS รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080p@30/60fps
  • USB Type-C
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอริโอคู่, Dolby Atmos, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 3,800 mAh รองรับชาร์จไว Warp Charge 30T (5V, 6A)
  • วางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี: สีเทา Frosted Silver และสีฟ้า Glacial Blue
  •  ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10

หน้าจอ 

OnePlus 7T มาพร้อมกับหน้าจอ Fluid Display ค่ารีเฟรชเรทหน้าจอ 90Hz แบบเดียวกับตัวท็อป OnePlus 7 Pro ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ซึ่งทางพิธีกรบนเวทีเอ่ยปากออกมาว่าเขาไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนฟังว่าหน้าจอ 90Hz และ 60Hz มีความแตกต่างกันอย่างไร อยากรู้ต้องลองเอง พร้อมกับปิดท้ายแบบเท่ๆ ว่า มันก็เหมือนกับการตกหลุมรักนั่นแหละ มันไม่สามารถอธิบายได้.. 

ใช้งานโทรศัพท์ในสภาวะแสงแดดจัดๆ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะหน้าจอของ OnePlus 7T มีค่าความสว่างสูงสุดมากถึง 1,000 nits เรียกได้ว่าใช้งานกลางแจ้งในประเทศไทยบ้านเราได้แบบสบายๆ เลย ไม่ต้องเพ่งสายตามาก

นอกจากนี้หน้าจอ Fluid Display ยังรองรับการดูคอนเทนต์ HDR10+ อีกด้วย โดยจะสามารถเลือกรับชมสื่อดังกล่าวได้บนแอป YouTube, Prime Video และ Netflix

สำหรับใครที่เคยใช้งานมือถือ OnePlus จะทราบเป็นอย่างดีว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้อนี้มีฟีเจอร์ Reading Mode ที่มีไว้สำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวนี้จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นหน้าจอขาวดำ ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ปวดเมื่อยสายตามากนักเวลาอ่านสิ่งที่อยู่บนหน้าจอเป็นเวลานานๆ มาครั้งนี้ OnePlus 7T ก็เลยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ Chromatic Reading Mode ซึ่งจะช่วยลดค่า Saturation ซึ่งจะไม่ได้เปลี่ยนให้ทั้งหน้าจอเป็นภาพขาวดำทั้งหมด แต่ยังคงเก็บสีต่างๆ ไว้เหมือนเดิม ทำให้ผู้ใช้งานมีอถรรสมากขึ้นขณะที่อ่านหนังสือหรือกำลังเสพคอนเทนต์อื่นๆ อยู่

กล้องถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอ 

OnePlus 7T ใส่กล้องมาให้ 3 ตัว ประกอบไปด้วยเซนเซอร์หลัก 48 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 117 องศา และเลนส์ Telephoto ซูม Optical ได้ 2 เท่า

สำหรับโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait Mode) รอบนี้ ผู้ใช้งานมือถือสามารถถ่ายโหมดนี้โดยใช้เลนส์ Telephoto ได้แล้ว ทำให้การตัดขอบและเบลอหลังดีกว่าการใช้กล้องจับความลึกธรรมดา

อีกทั้งเลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 117 องศา ที่นอกจากจะเอามาใช้เก็บภาพในมุมมองที่กว้างกว่าปกติแล้ว เลนส์ดังกล่าวนี้ยังสามารถถ่ายโหมด Marco ได้อีก โดยสามารถโฟกัสที่วัตถุได้ในระยะประชิดเพียงแค่ 2.5 มม. เท่านั้น

และโหมดถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือ Nightscape ที่เปิดตัวครั้งแรกบน OnePlus 6T รอบนี้ใน OnePlus 7T สามารถเลือกใช้โหมดดังกล่าวกับใช้เลนส์ Ultrawide ได้แล้ว เรียกได้ว่าสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยแบบมุมกว้างๆ ได้เสียที

มาถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอกันบ้าง ปัจจุบันการ vlogging เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้ทาง OnePlus ใส่โหมดกันสั่นสุดเทพ Super Stable มาให้ OnePlus 7T ที่ใช้เซนเซอร์ Gyroscope และซอฟต์แวร์กันสั่น EIS เข้ามาช่วยให้วิดีโอมีความสมูทยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

ประสิทธิภาพการใช้งาน

OnePlus 7T มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวท็อป Snapdragon 855+ ที่มีค่า clock speed สูงถึง 2.96GHz เรียกได้ว่าการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการเล่นเกมสบายๆ เหลือๆ เลยล่ะ

อีกทั้งหน่วยความจำที่เลือกใช้ใน OnePlus 7T ก็เป็น UFS 3.0 แบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่นท็อปอย่าง OnePlus 7 Pro นั่นเอง ช่วยให้การอ่าน-เขียนไฟล์ต่างๆ และการเปิดแอปที่ไวขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

การชาร์จไวใน OnePlus 7T ใช้เทคโนโลยี Warp Charge 30T ความเร็ว 30 วัตต์เท่าเดิม แต่ด้วยการปรับเปลี่ยนและอัพเกรดอัลกอริทึ่มต่างๆ ทำให้ OnePlus 7T นั้นชาร์จได้ไวกว่า OnePlus 7 Pro ถึง 23% ทำเวลาชาร์จ 0% – 70% เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น

ลำโพงสเตอริโอคู่ + Dolby Atmos 

OnePlus 7T เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่สองของทางค่ายที่มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่ บวกกับระบบเสียง Dolby Atmos เพิ่มความกระหึ่มและอรรถรสในการเสพสื่อและคอนเทนต์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังใส่ Haptic Motor เข้ามาเพิ่มอรรถรสให้การเล่นเกมมันกว่าเดิมด้วย

OnePlus 7T จะเริ่มวางจำหน่ายในอินเดียตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่จะถึงนี้ โดยจะแบ่งออกตามหน่วยความจำ คือ

  • 8GB/128GB : ราคา 37,999 รูปี หรือประมาณ 16,400 บาท
  • 8GB/256GB : ราคา 39,999 รูปี หรือประมาณ 17,200 บาท

สำหรับใครที่สงสัยว่า อ่าว.. แล้วรุ่นท็อป OnePlus 7T Pro หายไปไหน อันนี้ต้องรองานเปิดตัวอีกรอบที่จะจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษในวันที่ 10 ตุลาคมที่จะถึงนี้นะครับ โดยล่าสุดทั้ง OnePlus 7T และ OnePlus 7T Pro ก็ผ่านการรับรองจาก กสทช. แล้วด้วย น่าจะกำลังหาฤกษ์เปิดตัวเคาะราคาที่ประเทศไทยอยู่เป็นแน่