ช่วงนี้การแข่งขันเน็ตบ้านหรือ Fixed Broadband ในประเทศไทยเราเองก็เรียกได้ว่าดุเดือดสุดๆ ต่างคนต่างเริ่มออกโปรกันแบบไม่ยอมใคร ทำให้ความเร็วเฉลี่ยเน็ตบ้านของไทยอันดับดีขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่จากอันดับที่ 30 ตอนเดือนกันยายนปี 2019 จนเดือนเมษายนปี 2020 นี้เองก็ขึ้นแท่นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีความเร็วเฉลี่ยที่ราว 160/126 Mbps เป็นรองแค่สิงคโปร์ และฮ่องกงเท่านั้น

จากรูปบนหน้า Speedtest จะเห็นได้ว่ามีโชว์อันดับทั้งเน็ตมือถือ (Mobile) และเน็ตบ้าน (Fixed Broadband) ซึ่งประเทศไทยได้ความเร็วเน็ตบ้านอันดับที่ 3 โดยมีค่าดาวน์โหลดเป็น 159.87 Mbps และอัปโหลดอยู่ที่ 125.98 Mbps ตามหลังคู่แข่งอย่างสิงคโปร์และฮ่องกงอยู่ราวๆ 17-39 Mbps ด้วยกัน

แต่หากเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ได้ค่าดาวน์โหลด 74.74 Mbps และอัปโหลด 39.62 Mbps แล้วประเทศไทยถือว่าความเร็วเน็ตบ้านสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกเกินเท่าตัวเลยทีเดียว

ซึ่งหากมาดูสถิติย้อนหลัง จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยเองก็เคยอยู่ที่อันดับ 30 ของโลก มีค่าเฉลี่ยในการดาวน์โหลดอยู่ที่ 78.49 Mbps และอัปโหลดอยู่ที่ 56.9 Mbps หลังจากนั้นกราฟก็พุ่งดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบันมาอยู่ที่อันดับ 3 นั่นเอง ซึ่งเน็ต 1Gbps ในบ้านเราตอนนี้สามารถติดได้แล้วในราคาเพียง 590 บาท/เดือนเท่านั้น (ของ 3BB)

ส่วนความเร็วเน็ตมือถือประเทศไทยจะอยู่ที่อันดับ 64 ของโลก ซึ่งอันดับร่วงลงมาจากเดือนก่อนด้วย เหตุน่าจะเพราะว่าช่วงนี้คนทำงาน Work From Home กันเยอะ ทำให้ต้องใช้เน็ตมือถือทำงานมากขึ้น ผนวกกับมีพวกโปรบ้าเลือดจำกัดความเร็วเน็ตแต่ใช้ได้ไม่อั้นที่ช่วงนี้คนหันมาใช้เยอะขึ้นด้วยทำให้สปีดโดยเฉลี่ยลดลง

สำหรับเน็ตมือถือบ้านเราจะมีค่าดาวน์โหลดอยู่ที่ 27.72 Mbps และอัปโหลดอยู่ที่ 15.5 Mbps ซึ่งค่าดาวน์โหลดจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกนิดหน่อย สลับกับค่าอัปโหลดที่ได้สูงกว่าทั่วโลกนิดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามหากวัดใช้ความเร็วเน็ตมือถือแบบวิ่งเต็มสปีดจริงๆ เชื่อว่าเน็ต 4G และ 5G บ้านเราก็ไม่ได้แพ้ชาติใดในโลก วิ่งระดับ 100Mbps+ ได้สบายๆ เหมือนกันนะ (ขึ้นอยู่กับสัญญาณบริเวณที่ทดสอบด้วย)

ที่มา : speedtest

เปรียบเทียบแพ็กเกจเน็ตบ้าน Fiber ปี 2020 ใครคุ้มให้สปีดแรงและราคาน่าติดที่สุด (อัปเดต 3 ธันวาคม 2020)