Amazfit ประกาศเตรียมวางขายตัวแหวนอัจฉริยะที่เอาไว้ตรวจจับสุขภาพอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พ.ค. 2024 นี้ พร้อมเผยราคา 299.99 ดอลลาร์ หรือราว 11,000 บาท ซึ่งแหวนสามารถตรวจจับสุขภาพได้หลากหลาย ทั้ง ตรวจวัดการนอนหลับแบบเชิงลึก, อัตราการเต้นของหัวใจ, การหายใจขณะนอนหลับ และมีมาตรฐานกันน้ำระดับ 10ATM ด้วย
หากจะหาสมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบครบ ๆ ในงบประมาณสองพันบาทปลาย ๆ Amazfit Bip 5 และ Redmi Watch 3 ถือเป็น 2 รุ่นที่มีความน่าสนใจพอสมควร เพราะทั้งสองรุ่นมาในราคาที่ใกล้เคียงกันมาก ๆ และเป็น 2 แบรนด์ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ร่วมชายคากับ Xiaomi และแชร์เทคโนโลยีบางอย่างด้วยกัน แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ใกล้เคียงกัน ทำเอาตัดสินใจยากพอสมควรว่าจะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้ DroidSans ก็จะมาเทียบกันให้ดูไปเลยว่ารุ่นไหน แจ่มกว่ากัน
รีวิว amazfit Bip 5 สมาร์ทวอทช์สำหรับสายคุ้ม เป็นรุ่นล่าสุดจากทาง Amazfit ที่คราวนี้ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะคนที่ยังไม่เคยใช้งาน หรือกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ในราคาประหยัดก็ใช้ได้ และยังตอบรับฟังก์ชันหลากหลายทั้งใช้โทร, วัดออกซิเจน, มีโหมดออกกำลังกาย 120 แบบเป็นต้น แถมน้ำหนักเบา แบตใช้ได้ยาวนานถึง 26 วัน
สมัยนี้ Gadget ประเภท Smartband หรือ Smartwatch สามารถหามาใช้กันได้ไม่ยาก เพราะค่าตัวก็ไม่ได้แรงมากหาซื้อได้ในราคาเริ่มต้นราว ๆ เกือบพันบาทไปจนถึง 2,000 บาท ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละค่ายก็จะมีดีไซน์และฟีเจอร์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดก็จะเน้นไปทางด้านสุขภาพ และออกกำลังกายนั่นเอง…ถ้าใครที่อยากได้สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ ๆ ไว้ใส่เท่ ๆ หรือไว้ใส่ออกกำลังกาย ก็มาดูกันหน่อยว่าในปี 2023 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
Amazfit เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ GTR 4 และ GTS 4 โดยทั้งสองรุ่นมาแม้ว่าจะมีดีไซน์ที่แตกต่างกันแบบคนละแนวไปเลย โดยตัว GTR4 จะใช้ดีไซน์หน้าปัดกลมเหมือนนาฬิกาทั่วไป ดูมีความเคร่งขรึมบึกบึน ส่วน GTS 4 ใช้หน้าปัดแบบสี่เหลี่ยมที่มีดีไซน์อ่อนหวานกว่า แต่ทั้งคู่มีฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาพร้อมใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้สวมใส่ที่ต้องการทั้งความสวยงามและยังต้องการฟีเจอร์เน้นด้านสุขภาพด้วย
หลังจากห่างหายไปนานร่วมปีกว่า ๆ (รุ่นล่าสุดเปิดตัวไปเมื่อกันยายนปีที่แล้ว) ตอนนี้ Amazfit แบรนด์สมาร์ทวอทช์ยอมนิยมก็กลับมาแล้ว รอบนี้มาด้วยกันทั้งหมดสามรุ่น ได้แก่ GTR 3 Pro, GTR 3 และ GTS 3 สเปคดีขึ้น หน้าจอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ขอบบางลง ในราคาเริ่มต้น 5,390 บาท
นับวันสินค้าประเภท Smart Watch จะยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสเปค + ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์กับเหล่าผู้รักสุขภาพ และราคาที่เริ่มจับต้องได้ง่ายขึ้น ล่าสุด Counterpoint Research ออกมาเผยรายงานยอดส่งออกโดยรวมของตลาดสมาร์ทวอทช์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่ามีการเติบโตขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ถึง 27% ซึ่งในอันดับ Top 3 ยังคงนำโด่งโดย Apple อันดับ 2 คือ HUAWEI และตามมาติด ๆ ด้วย Samsung
สมาร์ทวอทช์สายลุยรุ่นใหม่ Amazfit T-Rex พึ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ในงาน CES เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความอึดถึกที่ได้การรับรองมาตรฐานทางทหาร MIL-STD 810G จะใส่ว่ายน้ำ ลุยป่า ฝ่าดง ก็ไม่มีปัญหา แถมยังมีแบตเตอรี่สุดอึดที่ใช้ได้ยาวๆ สูงสุดถึง 3 เดือนเลยทีเดียว
เทคโนโลยี Smart Home เริ่มเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสินค้าเหล่านี้เริ่มมีราคาที่ถูกลงมากแล้ว แต่ปัญหาอย่างนึงที่หลายๆ คนต้องคอยหาข้อมูลกันก่อนที่จะซื้อของเหล่านี้มาใช้ ก็จะมีทั้ง…มันจะใช้กับ Google Assistant หรือ Alexa ได้มั้ย? เชื่อมกับ Smart TV ได้มั้ย? ฯลฯ ซึ่งต่อไปนี้ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป เพราะแบรนด์ IT ยักษ์ใหญ่ทั้ง Google, Apple และ Amazon ได้จับมือกันเพื่อร่วมพัฒนาระบบ Smart Home ให้อยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกันแล้ว
ปีนี้สงครามของอุปกรณ์ในประเภท wearable ส่อแววคึกคักกันตั้งแต่ต้นปี ซึ่งแต่ละค่ายก็ทอยอยเปิดตัวสมาร์ทวอซของตัวเองกันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อไม่นานมานี้ Huami แบรนด์ลูกของ Xiaomi ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทวอซถึง 4 รุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Amazfit Verge , Amazfit Health Watch, Amazfit Bip Lite และ Amazfit Verge Lite
