จากกรณีหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันระดับชาติของบราซิล (CADE) ออกคำสั่งให้แอปเปิลต้องเปิดอิสระระบบชำระเงินภายใน App Store และเปิดอิสระไซด์โหลดแอปจากสโตร์ภายนอก เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว โดย CADE ให้เวลาแอปเปิลปฏิตามภายใน 20 วัน มิเช่นนั้นจะถูกปรับเงินวันละ 250,000 เรอัล – ขณะที่แอปเปิลมองว่ากรอบเวลานี้ไม่สามารถเป็นไปได้ ภายหลังจึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐบาลกลาง
คดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักรจากนักพัฒนากว่า 1,500 คน ในข้อกล่าวหาว่าแอปเปิดใช้อำนาจเหนือตลาด เรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้บน App Store ไม่เป็นธรรม ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดมีความคืบหน้าเพิ่มเติม คือแอปได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์การแข่งขัน (CAT) ให้ระงับคดีชั่วคราว แต่ผู้พิพากษาตีตกคำร้องไปเรียบร้อย เป็นการเปิดทางให้การพิจารณาคดีดำเนินต่อ หลังข้อเสนอจ่ายเงินชดเชยบางส่วนเพื่อยุติคดีก่อนหน้านี้ของแอปเปิล ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน
ในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลาย ๆ ประเทศออกกฎ หรืออยู่ระหว่างเสนอกฎต่อต้านการผูกขาดแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมุ่งเป้าไปที่ยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิลและกูเกิล เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น อินเดีย และอีกหลายประเทศในเครือสหภาพยุโรป ล่าสุดเป็นบราซิลที่ดำเนินตามแนวทางนี้ โดยหน่วยงานกำกับดูแลได้ออกคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) ให้แอปเปิลต้องเปิดอิสระระบบชำระเงินใน App Store ภายใน 20 วัน
หลังจากที่ Google ได้เผยรายชื่อแอปและเกมแห่งปี บน Google Play ประจำปี 2024 ไปแล้ว ก็ถึงคิวของทาง App Store จาก Apple บ้าง ที่ก็มีรางวัลแอปและเกมแห่งปี อย่าง 2024 App Store Awards เหมือนกัน ที่ตอนนี้ ได้ประกาศรายชื่อแอปและเกมที่เข้ารอบสุดท้าย ก่อนจะประกาศรางวัล จะมีแอปและเกมอะไรบ้าง ไปดูกัน
จากการสำรวจคร่าว ๆ โดยสื่อต่างประเทศ พบว่าค่ายพัฒนาเกมชั้นนำในญี่ปุ่น 12 จาก 30 อันดับแรก หรือ 40% บน Google Play และ Apple Store ได้ทยอยเลิกใช้ระบบชำระเงินของกูเกิลแอปเปิลมาได้สักระยะแล้ว โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบจ่ายเงินภายนอกแทน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้บน Google Play และ Apple Store ที่อาจถูกเรียกเก็บสูงถึง 30%
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของอินเดีย (CCI) เรียกคืนรายงานการสอบสวน Apple ในข้อกล่าวหาที่ว่า บริษัทสัญชาติอเมริกันรายนี้ ใช้อำนาจทางตลาด เรียกเก็บส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมกับนักพัฒนา หลังเริ่มการสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจาก Apple ร้องเรียนว่า เอกสารที่ถูกนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดี มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและเป็นความลับหลายอย่าง ส่งผลให้กระบวนการสอบสวนที่แต่เดิมก็ล่าช้าไปมากอยู่แล้ว ยิ่งกินเวลานานขึ้นไปอีก
แม้ช่วงหลังอดขาย iPhone จะเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติมาได้เป็นลำดับ พอให้ Apple ได้หายใจหายคอโล่งขึ้นบ้าง แต่หลังบ้าน Apple ยังคงเผชิญกับเรื่องปวดหัวจากสารพัดคดีการฟ้องร้องต่อไป โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับการผูกขาดที่ Apple มีโจทก์อยู่หลายราย ทั้งสหภาพยุโรป กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ การฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักร และล่าสุดก็มีคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของสเปน หรือ CNMC เข้ามาผสมโรงเพิ่มอีกราย
หลังเมื่อสัปดาห์ก่อนมีวงในออกมาเผยว่า Apple จะโดนคณะกรรมาธิการยุโรปลงโทษเป็นแบรนด์แรกจากฎหมายใหม่ที่มีชื่อว่า Digital Markets Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการผูกขาดทางตลาดดิจิทัลจากเหล่าบริษัท Big Tech ทั้ง Meta, Apple, Google, Amazon และอื่น ๆ โดยทาง EU ได้ระบุว่า Apple ได้พยายามตั้งกฎกีดกันและควบคุมเหล่านักพัฒนาแอป ถึงแม้ว่าจะมีการเปิดระบบแล้วก็ตาม
คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) เตรียมประกาศปรับเงิน Apple โทษฐานพยายามผูกขาดหน้าร้านค้า App Store ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ EU บังคับใช้กฎดังกล่าวกับบริษัทระดับ Big Tech โดยระบุสาเหตุว่า Apple ไม่ยอมทำกฎที่ให้ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาแอป สามารถชี้ช่องทางดาวน์โหลดแอปนอกสโตร์ได้อย่างอิสระ โดยที่ไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรมกับเหล่านักพัฒนา
สื่อต่างประเทศรายงานว่า Apple ทำการถอด WhatsApp และ Threads ที่เป็นแอปในเครือ Meta ออกจาก App Store ในจีน ตามคำสั่งของรัฐบาลแล้ว พร้อมกับแอปแช็ตอีกสองตัวที่โดนไปด้วยในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ Telegram และ Signal โดยหน่วยงานทางไซเบอร์ของจีน ได้ออกคำสั่งต่อ Apple โดยอ้างอิงเหตุผลเกี่ยวกับความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ ซึ่ง Apple ก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี
