ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ‘โจรขโมยพัสดุหน้าบ้าน’ เริ่มก่อเหตุถี่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา ประเด็นน่าสนใจคือ การขโมยเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่ได้เกิดแบบสุ่ม เพราะคนร้ายหลายรายมุ่งเป้าไปที่ iPhone ของลูกค้า AT&T ที่ส่งผ่าน FedEx เป็นหลัก และมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน โดยเตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดีก่อนลงมือ ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาว่าคนในอาจมีเอี่ยวหรือไม่
หน่วยงาน Federal Communications Commission (FCC) หรือ กสทช.สหรัฐฯ ออกคำสั่งปรับเงิน 4 ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือยักษ์ใหญ่ คือ AT&T, Sprint, T-Mobile และ Verizon รวมกันเกือบ 200 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 7,400 ล้านบาท โทษฐานที่นำข้อมูลพิกัด (location) ของลูกค้าไปขาย – ส่งต่อ ให้กับบริษัทภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอม อีกทั้งยังไม่มีมาตรการด้านการรักษาข้อมูลส่วนตัวที่ดีพอ
หลังจาก Apple ได้ทำการเปิดตัวฟีเจอร์ App Tracking Transparency หรือ ATT ให้โอกาสยูเซอร์สามารถเลือกได้ว่าจะให้แอปพลิเคชั่นไหน Track ข้อมูลหรือไม่ เพื่อนำไปใช้ทำโฆษณาต่อไป ล่าสุดมีการรายงานจาก the Financial Times ว่า Tech Gaints อย่าง Meta (Facebook), Twitter, Snapchat และ YouTube ต่างสูญเสียรายได้ไปเกือบ ๆ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 3.33 แสนล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยมีผลพวงมาจากฟีเจอร์ ATT ของ Apple นี่แหละ
ดูเหมือนการก้าวขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งของโลกสมาร์ทโฟนในปี 2020 ของ Huawei นั้นจะเจออุปสรรคแต่หัววันซะแล้ว เพราะการบุกมาเจาะตลาดสหรัฐอเมริกาอาจไม่ง่ายอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะอยู่ดีๆ เครือข่ายมือถืออันดับ 2 อย่าง AT&T ที่เจรจาตกลงกันว่าจะวางจำหน่าย Mate 10 Pro ในวันที่ 10 มกราคมนี้กลับถอนตัวไปซะดื้อๆ โดยไม่รู้สาเหตุ
