แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนนั้น แน่นอนว่ายิ่งเยอะยิ่งดี เพราะเราเองก็ใช้งานมันอยู่ทุกวันจนขาดไม่ได้ การที่แบตเตอรี่หมดระหว่างวันแล้วไม่มีที่ชาร์จคือเซ็ง ล่าสุดทาง Samsung ได้พบเทคนิคใหม่ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่บนมือถือนั้นมีความจุเพิ่มขึ้น ในขนาดพื้นที่เท่าเดิม
Xiaomi ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ High-Silicon สำหรับมือถือ ความจุมากขึ้น 10% ในขนาดเท่าเดิม จากการเพิ่มความหนาแน่นของซิลิคอนเป็นสามเท่าเมื่อเทียบกับแบต Li-ion ทั่ว ๆ ไป พร้อมทั้งการออกแบบโมดูล PCM ใหม่ วางวงจรในมุม 90 องศา ช่วยลดพื้นที่ด้านยาวลงมาได้อีกเล็กน้อย โดยมีกำหนดจะขึ้นสายการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2565
เอาจริง ๆ แบรนด์ที่ผลิตทุกอย่างตั้งแต่สากเบือยันเรือรบจริง ๆ อาจจะไม่ใช่ Xiaomi นะ แต่เป็น Samsung ต่างหาก เพราะนอกจากจะมีมือถือ คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จอแสดงผล เซ็นเซอร์กล้อง หรือชิปเซ็ตฯ ทางบริษัทฯ ยังได้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดอีกด้วย
ปัจจุบันทุกคนน่าจะคุ้นชินกับแบตเตอรี่ในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Lithium-ion (Li-ion) หรือตัวพัฒนาขึ้นเพิ่มเติมอย่าง Lithium-Polymer (Li-Polymer) กันเป็นอย่างดี แม้พวกมันจะพลิกโฉมประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน แต่ด้วยความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น และข้อจำกัดที่ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้คิดค้นแบตเตอรี่ยุคใหม่อย่าง Solid-state battery ขึ้นมา แต่มันจะดีกว่าเดิมอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง เราจะนำมาเล่าให้ได้ทราบกัน
Xiaomi ประเทศจีนเตรียมเปิดให้นำสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Mi และ Redmi รวม 21 รุ่น ไปเปลี่ยนแบตเตอรี่กับทางศูนย์ฯ ได้ในราคาสุดถูก แค่ประมาณ 49 หยวน หรือตีเป็นเงินไทยราว 200 บาท เท่านั้น แถมยังเป็นราคาที่รวมค่าแรงแล้วอีกด้วยนะ จะถูกไปไหนเนี่ย
หากใครยังจำได้ มือถือทั่วๆ ไป รวมถึง Android รุ่นแรกๆ สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ไม่ต้องพึ่งพาบริการจากศูนย์หรือช่างเลย แค่ถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตใหม่ จากแบต 0% ก็กลายเป็นเต็ม 100% ง่ายๆ แค่สลับแบต แต่สมัยนี้สมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่น ผู้ใช้กลับไม่สามารถถอดแบตเปลี่ยนเองได้แล้ว เพราะสมาร์ทโฟนทุกรุ่นนั้นถูกดีไซน์ให้ไม่สามารถแกะหรือถอดฝาหลังเองได้ แต่ล่า่สุดมีข่าวว่าสหภาพยุโรปหรือ EU กำลังเตรียมหาทางออกกฎบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกรุ่น สามารถเปลี่ยนแบตได้ง่ายขึ้น เพื่อลดปริมาณขยะอิเล็คทรอนิคส์ลง
งานนี้เรียกว่าดราม่าส่งท้ายปีกันอีกแล้ว สำหรับ Tech Giants ระดับโลกอย่าง Apple – Google – Microsoft – Tesla – Dell ที่ล่าสุดถูกองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการสนับสนุนให้เกิดการละเมิดสิทธิเยาวชนด้วยการใช้แรงงานและทารุณกรรมเด็กภายในเหมืองแร่ Cobalt ที่นำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่ จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
วงจรไฟฟ้าต่างๆ ย่อมมีความแปรผันระหว่างประสิทธิภาพในการทำงานกับอุณหภูมิแวดล้อม ซึ่งปกติแล้วถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งสูงขึ้น อีกอย่างก็จะสูงตามไปด้วย แต่ไม่ใช่กับกรณีของแบตเตอรี่ที่ไม่ว่าอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำจนเกินไปจะส่งผลให้เซลล์แบตเสียหายได้ ตัวซอฟแวร์จึงต้องคอยปรับอัตราการชาร์จเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ Apple ที่มีปัญหากับแบตเตอรี่ซะแล้ว เมื่อผู้ใช้งาน Samsung บางรายพบว่าเมื่อเขาใช้งาน Galaxy Note 8 จนแบตหมดเกลี้ยงจนลงไปอยู่ที่ 0% จะไม่สามารถเปิดเครื่องได้อีกเลย!
หลังจากที่ Apple ออกมายอมรับว่ามีการปรับลดความเร็วของ iPhone เครื่องที่แบตเสื่อมสภาพลงและมีกลุ่มผู้ใช้รวมตัวกันฟ้องบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โต จนบริษัทต้องออกมาแถลงการณ์เพื่อเยียวยาสิ่งที่เกิดขึ้น ล่าสุดทางสื่อต่างประเทศอย่าง TheVerge และสำนักต่างๆ ก็ได้สอบถามไปยังผู้ผลิต Android อย่าง Samsung, LG, HTC และ Motorola ว่าเคยมีการปรับลดประสิทธิภาพการทำงานของมือถือรุ่นเก่าๆ ที่แบตเตอรี่เสื่อมหรือไม่ ซึ่งทั้ง 4 ค่ายก็ตอบว่าไม่เคยมีการกระทำแบบนั้น
