ไมโครซอฟท์ทยอยเลิกแถมอะแดปเตอร์แปลงไฟมาในกล่อง Surface Pro 11 ที่วางจำหน่ายในประเทศในเครือสหภาพยุโรป หรือ EU แล้ว พร้อมเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่เป็นกล่องที่มีขนาดบางลง (ขายในราคาเดิม) คาดว่าความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการกระทำเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามแนวทาง common charging ภายใต้กฎ Radio Equipment Directive ของ EU ที่จะมีผลบังคับใช้กับสินค้ากลุ่มแล็ปท็อปในเดือนเมษายนปีหน้า
เราอาจเคยได้ยินข่าวลือว่าแอปเปิลต้องการพัฒนา iPhone ไร้พอร์ตมานานหลายปีแล้ว และประเด็นนี้ได้วนกลับมาบนหน้าสื่ออีกครั้งเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อมาร์ก เกอร์แมน นักข่าวคนดังแห่ง Bloomberg ให้ข้อมูลว่า เดิมทีแอปเปิลจะตัดพอร์ต USB-C ออกจาก iPhone 17 Air เพื่อรีดตัวเครื่องออกมาให้บางที่สุด แต่สุดท้ายล้มเลิกไปเพราะ ไม่เกรงจะมีปัญหากับ EU ที่กำหนดให้ USB-C เป็นมาตรฐานกลาง
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission – EC) ส่งผลการพิจารณาการสอบสวน Digital Markets Act (DMA) ให้ Alphabet บริษัทแม่กูเกิล 2 ชุดในวันนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า คณะกรรมาธิการฯ วินิจฉัยในเบื้องต้นว่า บริการ Google Search และ Google Play ของกูเกิลไม่ปฏิบัติตามกฎ DMA
กฎหมาย Common Charger Directive ของสหภาพยุโรปเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันเสาร์ หลังผ่านการอนุมัติจากสภามาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมของ 2 ปีก่อน ส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอุปกรณ์วิทยุ (radio equipment) ที่มีการชาร์จด้วยสาย ที่จะวางจำหน่ายในประเทศเครือสหภาพยุโรป ต้องมาพร้อมพอร์ต USB-C ตามมาตรฐานกลาง
Apple ได้กล่าวหาว่า Meta คุกคามความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ผ่านการร้องขอการเข้าถึงซอฟต์แวร์ iPhone มากเกินไป ซึ่งข้อพิพาทนี้เน้นย้ำถึงการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งสอง โดยทาง EU กล่าวว่า จะต้องให้ข้อเสนอแนะภายในวันที่ 9 มกราคม ก่อนจะตัดสินอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคมข้างหน้านี้
มีรายงานว่าแอปเปิลจะเลิกจำหน่าย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปภายในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ ทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ พร้อมกันกับ iPhone SE (รุ่นที่ 3) และอุปกรณ์เสริมอีกบางส่วนที่ยังมีพอร์ตเป็น Lightning อยู่
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission (EC)) ออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ ระบุว่าคณะกรรมาธิการฯ ได้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวน Corning ว่าอาจมีพฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาด ในการผูกขาดธุรกิจกระจกหน้าจอมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ภายใตแบรนด์ Gorilla Glass แล้ว
ศาลกลางแห่งสหภาพยุโรป ออกคำตัดสินให้การเรียกเก็บค่าปรับ 1,500 ล้านยูโร (ประมาณ 55,400 ล้านบาท) ที่คณะกรรมาธิการยุโรปมีต่อกูเกิลเป็นโมฆะ ในคดีการผูกขาดธุรกิจโฆษณาที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2019 หลังกูเกิลยื่นอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้ แม้ศาลจะเห็นด้วยกับข้อกล่าวหาส่วนใหญ่ตามที่คณะกรรมาธิการฯ ฟ้องร้องก็ตาม
ศาลกลางแห่งยุโรป ยืนยันโทษปรับ Qualcomm ในคดีผูกขาดตลาดที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2019 ตามเดิม หลัง Qualcomm ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินเมื่อเดือนมีนาคมปีกลาย โดยศาลมองว่า ข้อโต้แย้งเกือบทั้งหมดของ Qualcomm ไม่มีน้ำหนักมากพอ ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือ ‘การคำนวณค่าปรับ’ ที่พอมีมูลอยู่บ้าง ศาลจึงยอมลดค่าปรับให้เล็กน้อย จาก 242 ล้านยูโร เหลือ 238.7 ล้านยูโร
ทางศาลสูงสุด EU ได้ยืนยันสั่งปรับ Google เป็นเงินจำนวน 2.4 พันล้านยูโร ในกรณีผูกขาดการจัดอันดับสินค้าที่เป็นคดีความขึ้นมาในปี 2017 ซึ่ง Google Shopping แสดงเนื้อหาเปรียบเทียบสินค้าได้เหนือกว่าเว็บไซต์อื่น ทำให้ทราฟิกเว็บของเว็บอื่น ๆ ลดลง หลังจากนั้น Google ก็ได้มีการปรับแนวทางตลอดจนยื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวแต่ไม่เป็นผล
