Uber ในไทยนั้นก็ยังคงตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องโดยการจัดโปรโมชันนั่งรถ UberX ฟรีตามเงื่อนไข โดยได้วนจัดเป็นย่านมหาวิทยาลัยมาหลายมหาวิทยาลัยแล้ว ล่าสุดก็ถึงคิวของคนพื้นที่ย่านจุฬาฯ และละแวกใกล้เคียงที่จะได้นั่งฟรีกันแล้ว
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (17 ส.ค.) นี้หลายๆ ท่านน่าจะได้ทราบข่าวเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ที่รุนแรงมาก ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลใกล้เคียงก็ได้รับผู้บาดเจ็บไปรักษา และทางสภากาชาดก็ได้ชี้แจงการจำหน่ายเลือดให้แต่ละโรงพยาบาลผ่านทางหน้าเพจเฟสบุ๊ก พร้อมทั้งประกาศเชิญชวนให้ไปบริจาคเลือด (ทางเพจบอกว่ายังไม่ขาดเลือดนะครับ แค่เชิญชวน)
Hugo Barra รองประธานกรรมการบริษัท Xiaomi ประกาศจับมือกับบริษัทขนส่งสาธารณะอย่าง Uber เปิดบริการจัดส่งสมาร์ทโฟน Xiaomi ถึงบ้านผ่าน Facebook โดยจับเอารุ่นเรือธงอย่าง Xiaomi Mi Note มาเป็นรุ่นประเดิมในบริการเดลิเวอรี่
หลังจากที่ Uber ได้ออกโปรฉีกหน้าแท็กซี่สุวรรณภูมิกรณีอื้อฉาวไม่รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งการกระทำนี้ดูเหมือนจะไปกระตุกหนวดเสือทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิกวดขัน กีดกันไม่ให้ Uber เข้าไปให้บริการในสนามบินซะแล้ว เมื่อทางคุณ Elcid Vergara ได้โพสต์เฟซบุ๊คว่าถูกทางเจ้าหน้าที่สนามบินล้อมรถ และไล่ให้ไปขึ้นแท็กซี่ของสนามบินที่ต้องเสี่ยงดวงวัดคุณภาพกัน โดยจนท.ให้เหตุผลว่า "ผิดกฎหมาย รถป้ายเขียวต้องเป็นรถทัศนาจรที่จองมาล่วงหน้าเท่านั้น"
ข่าวดีสำหรับคนที่ต้องเดินทางและฉลองคริสมาสต์ในวันนี้ เมื่อทาง UberX มีการเปิดให้นั่งได้ฟรีวันนี้จนถึงตี 1 (01.00น.) ของเช้าวันที่ 25 ธันวาคม เป็นจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 700 บาท รวมค่าทางด่วนแล้ว (คือถ้ารถไม่ติดบัดซบก็วิ่งจากกรุงเทพฯไปอยุธยาได้เป็นอย่างน้อยอ่ะ!!) งานนี้ไม่ต้องใส่ Code ใดๆแค่กดเข้าแอพ Uber เพื่อเรียกรถกันได้ทันที! งานนี้ไม่รวมถึง Uber Black ที่เป็นรถลิมูซีนป้ายเขียวนะ
หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้มีคำสั่งให้ทาง Uber หยุดให้บริการแท็กซี่ป้ายดำ (Uber X) และจำกัดพื้นที่แท็กซี่ป้ายเขียว (Uber Black) มีการจับผู้ขับให้บริการกันไปหลักสิบราย ทางไทยรัฐก็เอาแถลงการณ์ของ Uber ออกมาเปิดเผยพร้อมพาดหัวว่ายอมจำนนแบบงงๆ1 มาวันนี้ก็ยังเห็น Uber เปิดให้บริการตามเดิมทั้งสองแบบให้เราๆใช้บริการได้ฟินๆเช่นเดิมไม่หายไปไหนเลยจ้า*ภาพประกอบด้านบนเป็นการ capture screen จากแอพ uber เช้าวันที่ 16 ธันวาคมนี้
มีรายงานว่าบริษัทสืบค้นข้อมูลยักษ์ใหญ่แห่งประเทศจีนรายหนึ่งกำลังจะทุ่มเงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราวๆ สองหมื่นล้านบาท) เพื่อลงทุนใน Uber บริการรถรับส่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วและกำลังเป็นกระแสในบ้านเราว่าจะโดนแบนไม่โดนแบนอย่าง Uber ซึ่งบริษัท Search Engine ยักษ์ใหญ่ที่ว่านั้น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก Baidu ตู้.. ตู้.. ตู้ว.. ว.. ว.. (กรุณาทำเสียงสะท้อนในหัวเพื่อเพิ่มมิติและอรรถรสในการอ่านข่าว)Baidu มีกำหนดแถลงข่าวการร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้ารายใหม่ในวันพุธที่จะถึงนี้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าจะเป็นบริษัทไหน แต่จากข่าวที่จะเติมเงินให้ Uber ถึง 600 ล้านเหรียญนั้น ก็คาดว่างานแถลงข่าวที่จะถึงนี้คงเป็นใครที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก Uber แน่นอน
จากข่าวเก่าที่กรมขนส่งทางบก(ขบ.)เรียกเจ้าของแอพเรียกแท็กซี่ทั้ง 3 เจ้า2คือ Uber, Grab Taxi, และ Easy Taxi เข้าไปหารือ มาวันนี้ได้ข้อสรุปออกมาชัดเจนแล้วว่า ขบ. สั่งให้ Uber X หยุดให้บริการแบบเด็ดขาดแล้วเนื่องจากผิดกฎหมายตามที่ได้เคยเสนอไปก่อนหน้า3 ส่วน Uber Black ที่เป็นลิมูซีนป้ายเขียวยังให้บริการต่อได้ แต่ก็ถูกจำกัดพื้นที่ให้บริการตามกฎของป้ายเขียวขาว ออกมาวิ่งรับผู้โดยสารตามเดิมไม่ได้ ส่วน Grab Taxi และ Easy Taxi ที่ทำงานร่วมกับแท็กซี่ป้ายเหลืองไร้ปัญหา ให้บริการต่อไปได้
ในช่วงนี้ Uber Taxi เหมือนจะเป็นประเด็นที่ร้อนแรงซะเหลือเกิน ร้อนจนต้มมาม่าสุกไปหลายซองแล้ว เมื่อหลายวันที่ผ่านมาก็เพิ่งจะมีข่าว Uber Black โดนจับฐานเอารถป้ายแดงออกให้บริการ ซึ่งล่าสุดกรมขนส่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งเรียก Uber Taxi, Grab Taxi, และ Easy Taxi เข้ามาชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และยังมีการเปิดเผยว่า ทางกรมฯกำลังพัฒนา Application ที่คล้ายกับ Uber Taxi ที่ทางกรมขนส่งร่วมมือกับสมาคมแท็กซี่อีกด้วย
หลังจากที่กรมขนส่งฯได้มีประกาศออกมาให้จับคนที่ขับรถให้บริการ Uber ทั้ง Black และ X เมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม) ก็ได้มีการจับไปแล้ว 1 คัน จากข้อหาเอารถป้ายแดงออกมาให้บริการเป็นเงิน 2,000 บาท แต่กลับไม่โดนข้อหาตามที่ได้ประกาศออกมาก่อนหน้าแต่อย่างไร ซึ่งทางไทยรัฐก็ไม่ได้เสนอข่าวนี้โดดๆแต่จับคู่มาตีแผ่ถึงคุณภาพรถแท็กซี่ที่นำมาตรวจวัดคุณภาพแล้วผ่านแค่เพียง 25% คิดเป็น 20,000 คัน จาก 80,000 คันเท่านั้น ระงับการขึ้นค่าบริการแท็กซี่ที่จะปรับขึ้นในเดือนนี้ เพราะมียอดรถผ่านคุณภาพต่ำกว่าเป้าที่ต้องการ 85%ไปอ่านข่าวเต็มๆได้ที่ thairath.co.th
