สัปดาห์นี้มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับบริการ iCloud ในสหราชอาณาจักร เมื่อแอปเปิลได้ประกาศถอดฟีเจอร์ Advanced Data Protection ออก ซึ่งเป็นฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูลจากต้นทางสู่ปลายทาง (E2EE) ตามแรงกดดันจากรัฐบาลที่เป็นประเด็นต่อเนื่องมาหลายปี โดยความเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลทันทีกับผู้ใช้ใหม่ ส่วนผู้ใช้เดิมจะทยอยถูกปิดฟีเจอร์ไปตามลำดับ
คดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักรจากนักพัฒนากว่า 1,500 คน ในข้อกล่าวหาว่าแอปเปิดใช้อำนาจเหนือตลาด เรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้บน App Store ไม่เป็นธรรม ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดมีความคืบหน้าเพิ่มเติม คือแอปเปิลได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์การแข่งขัน (CAT) ให้ระงับคดีชั่วคราว แต่ผู้พิพากษาตีตกคำร้องไปเรียบร้อย เป็นการเปิดทางให้การพิจารณาคดีดำเนินต่อ หลังข้อเสนอจ่ายเงินชดเชยบางส่วนเพื่อยุติคดีก่อนหน้านี้ของแอปเปิล ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน
ช่วง 1 – 2 ปีมานี้ Apple ต้องเผชิญกับสารพัดคดีฟ้องร้องและการตรวจสอบที่เข้มข้นจากหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ จากหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือ คดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักรจากนักพัฒนากว่า 1,500 คน เมื่อกลางปี 2023 ในข้อกล่าวหาว่า Apple เรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่เป็นธรรม โดยมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 785 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ แม้ Apple จะเสนอจ่ายเงินชดเชยบางส่วนขอเพื่อยุติคดี แต่ผู้พิพากษาปฏิเสธคำขอดังกล่าว และจะดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรได้ผ่านร่างกฎหมายใหม่ Online Safety Bill ที่ช่วยปกป้องเยาวชนจากคอนเทนต์ไม่พึงประสงค์ แต่ดูเหมือนว่าจะยังติดขัดในเรื่องของวิธีคัดกรองอายุผู้ใช้งานอย่างไร ไม่ให้ไปกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ล่าสุดทางนักออกกฎหมายก็ได้เสนอแนวทางใหม่ โดยการใช้ AI มาช่วยในการคัดกรองอายุก่อนเข้าถึงสื่อต่าง ๆ
รัฐสภาสหราชอาณาจักรผ่านร่างกฎหมายใหม่ Online Safety Bill ที่ช่วยปกป้องเยาวชนจากคอนเทนต์ไม่พึงประสงค์ เช่นสื่อลามกอนาจาร หรือการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ และเตรียมบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นกฎหมายที่ดี แต่เหล่าผู้ให้บริการแอปต่าง ๆ กลับไม่เห็นด้วย เพราะอาจทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานตกอยู่ในความเสี่ยงได้
เค้าว่ากันว่า OPPO กำลังหาช่วงออกห่างจากตลาดโซนนอกประเทศอยู่ จากการที่เรือธง OPPO Find X6 Series ก็วางขายแค่เฉพาะในจีน ล่าสุดมีข่าวว่าทั้ง OPPO และ OnePlus เตรียมถอนธุรกิจออกจากบางประเทศในโซนยุโรปด้วย ทั้งนี้ทาง Official ก็ออกมาตอบปัดข่าวลือ ระบุว่าจะยังคงมุ่งหน้าทำการตลาดในแต่ละประเทศต่อไป
แอปวีดีโอสั้นยอดฮิตอย่าง TikTok ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าพอเป็นที่นิยมจนผู้ใช้งานเพียบขนาดนี้ ก็ต้องถูกจับตามองในเรื่องของข้อมูลความปลอดภัยเป็นธรรมดา อย่างก่อนหน้านี้ที่สหรัฐได้แบน TikTok ไปในสมัยรัฐบาลของประธานาธิปดี โดนัล ทรัมป์ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อประเทศ ล่าสุดยังโดนรัฐบาลอังกฤษออกมาเตือนเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเด็กและเยาวชนอีก โดยอาจโดนค่าปรับหนักถึง 27 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
ตั้งแต่โดนใส่ชื่อเข้าไปไว้ในบัญชีดำ (Entity List) ของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน ต้องบอกว่า Huawei เจอกับปัญหาแบบรอบทิศเลยก็ว่า ไล่ตั้งแต่ไม่สามารถเข้าถึงบริการและแอปต่างๆ ของ Google ได้ ไปจนถึงโดนบางประเทศหันหลัง ไม่ใช้อุปกรณ์เครือข่ายที่ผลิตขึ้นโดยพวกเขา ล่าสุดเหมือนว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง หลัง Donald Trump แพ้เลือกตั้ง
Ren Zhengfei ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลกอย่าง Huawei ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sky News ไว้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา แสดงท่าทีมั่นใจว่าสหราชอาณาจักรจะร่วมมือในการเปิดใช้งานโครงข่ายสัญญาณ 5G อีกทั้งยังกล่าวขอบคุณประธานาธิบดี Donald Trump อีกด้วย ที่ช่วยโฆษณาแบรนด์ให้ฟรีๆ จากกรณีข้อพิพาทสงครามการค้าหรือ Trade War
ดูเหมือนคำกล่าวหาและโจมตีเรื่องความปลอดภัยจากการใช้งานอุปกรณ์ของ Huawei จากสหรัฐอเมริกานั้นจะเริ่มไม่เป็นผล แม้แต่กับพันธมิตรรายใหญ่อย่างสหราชอาณาจักร ที่ล่าสุดสภาความมั่นคงแห่งชาติของอังกฤษ ซึ่งนายกรัฐมนตรีหญิง Theresa May เป็นประธาน ได้มีการประกาศอนุมัติให้ Huawei Technologies เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างระบบเครือข่าย 5G แล้ว เรียกว่าหักหน้าพี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯ กันสุดๆ
