หลังจากที่ Donald Trump ออกคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และจากจีน 10% ไป ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะทำให้สินค้าไอทีมีราคาที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ กำลังหาทางปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายฐานการผลิตหรือการส่งต่อต้นทุนไปยังผู้บริโภคผ่านราคาสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นสูงกว่า 46% เลยทีเดียว
Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% โดยให้เหตุผลเรื่องปัญหาการอพยพผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเสพติด นโยบายดังกล่าวส่งผลให้ทั้งแคนาดาและเม็กซิโกประกาศตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีของตนเองทันที ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างประเทศคู่ค้าในอเมริกาเหนือและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลก
ใกล้วันขีดเส้น 19 มกราคมนี้แล้ว ที่กฎหมายแบนแอปฯ TikTok ในสหรัฐอเมริกาจะมีผล ซึ่งทำให้ ByteDance บริษัทแม่เจ้าของแอปฯ ทำการตลาดในสหรัฐฯ ไม่ได้ และมีข่าวว่า ByteDance เตรียมพิจารณาขาย TikTok ให้กับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของแพลตฟอร์ม X เป็นคนดูแลแทน แต่ TikTok ก็ออกมาโต้ข่าวลือทั้งหมด ว่าไม่เป็นความจริง
รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนเราเตอร์ TP-Link เนื่องจากกังวลด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกรณีที่แฮกเกอร์จีนกลุ่ม "Salt Typhoon" ถูกกล่าวหาว่าใช้เราเตอร์ TP-Link ในการโจมตีทางไซเบอร์และขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และองค์กรในยุโรป รายงานของ Microsoft และหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ยังระบุว่าเราเตอร์ TP-Link เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายบอตเน็ตที่ใช้โจมตีเจาะระบบหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น สถาบันวิจัยและผู้ผลิตอาวุธทั้งหลาย
รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดเก่า ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตชิปในประเทศในชื่อ 'CHIPS Act' ซึ่งได้มอบเงินลงทุนให้กับ Samsiung กว่า 4,745 ล้านดอลลาร์ และบริษัทเท็กซัส อินสตรูเมนต์ส์ (Texas Instruments) กว่า 1,610 ล้านดอลลาร์ เป็นวงเงินลงทุนรวมมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความสนับสนุนให้ TikTok สามารถดำเนินการต่อไปได้ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างถึงยอดผู้เข้าชมหลายพันล้านครั้งบนแพลตฟอร์มดังกล่าวในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยในงาน AmericaFest ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ทรัมป์ได้แสดงจุดยืนคัดค้านการที่ TikTok อาจต้องออกจากตลาดสหรัฐฯ ซึ่งจุดยืนนี้แน่นอนว่าจะขัดแย้งกับการตัดสินใจของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายน ที่กำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ต้องขายหุ้นแอปฯ ดังกล่าวเนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ
วุฒิสภาสหรัฐฯได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการอนุญาตการป้องกันประเทศ หรือ National Defense Authorization Act (NDAA) ซึ่งเป็นร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศประจำปี ที่แม้จะยังไม่ทำให้โดนแบนจากสหรัฐฯในทันที แต่ก็อาจถูกแบนได้ ถ้าไม่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ภายใน 1 ปี
หลังจากที่ CrowdStrike สร้างความวุ่นวายให้กับระบบคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วโลกเมื่อเดือนที่ผ่านมา จากการที่ได้ปล่อยอัปเดตจนเกิด Error เป็นวงกว้างกระทบ ระบบธนาคาร ระบบเช็กอินของสายการบิน ล่าสุดสายการบินอย่าง Delta Airline รวมถึงนักเดินทางได้รวมตัวกันฟ้องบริษัท เพราะทำให้เกิดเที่ยวบินต้องดีเลย์ และยกเลิกจนเกิดเป็นความเสียหายอย่างหนัก
ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ตัดสินว่า Google ได้พยายามละเมิดกฎหมายด้วยการพยายามผูกขาดตลาด Search Engine โดยมีกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ เป็นผู้ยื่นฟ้อง พร้อมกล่าวอ้างว่า Google ได้จ่ายเงินให้กับแบรนด์สมาร์ทโฟนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple และ Samsung กว่า 2 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อให้ระบบของตัวเองเป็นระบบมาตรฐานของการค้นหา กีดกันคู่แข่งทางการค้าอื่น ๆ
Donald Trump ได้ให้มภาษณ์ Bloomberg ว่าประเทศเราเองก็ไม่ต่างกับบริษัทประกันเลย ไต้หวันไม่เคยจ่ายอะไรให้เราแม้แต่แดงเดียว แต่ยังคงรวยขึ้นทุกวัน ๆ ที่ไต้หวันรวยได้ขนาดนี้เพราะเอาธุรกิจผลิตชิปของเราไปหมด จริง ๆ แล้วเราไม่ควรจะให้เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้ง และผลักดันนโยบายนี้ ก็อาจจะทำให้โลกในเกิดความระส่ำระสายอีกครั้งก็ได้ เพราะอย่างที่เราทราบกันว่าไต้หวันเป็นที่ตั้งของ TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก
