Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% โดยให้เหตุผลเรื่องปัญหาการอพยพผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเสพติด นโยบายดังกล่าวส่งผลให้ทั้งแคนาดาและเม็กซิโกประกาศตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีของตนเองทันที ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างประเทศคู่ค้าในอเมริกาเหนือและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลก

การขึ้นภาษีดังกล่าวสร้างความกังวลอย่างมากต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก ขณะที่แคนาดาและเม็กซิโกมีบทบาทสำคัญในซัพพลายเชนของสินค้าเทคโนโลยีที่ส่งเข้าสหรัฐฯ โดยตรง การเพิ่มต้นทุนในการนำเข้าจะส่งผลต่อราคาสินค้าต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญ และอาจทำให้ราคาสินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ มาตรการภาษีใหม่อาจทำให้ราคาสินค้าไอทีสูงขึ้นอย่างมาก เช่น โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตอาจแพงขึ้นถึง 46% เครื่องเกมคอนโซล 40% และสมาร์ทโฟน 26% นอกจากนี้ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เช่น การ์ดจอ ซีพียู และแรม อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีแนวโน้มว่าราคาจะเพิ่มขึ้น 15-30% ภายในปีแรกของการบังคับใช้ภาษีใหม่

ไม่เพียงแค่ธุรกิจไอทีเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ อุตสาหกรรมรถยนต์ที่พึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนจากเม็กซิโกและแคนาดาก็อาจได้รับผลกระทบอย่างหนัก ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Ford และ General Motors อาจเผชิญต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคารถยนต์ใหม่ปรับตัวขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นักลงทุนและผู้บริโภคต่างกังวลว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายมองว่าหากไม่มีการยกเลิกหรือปรับลดภาษีลงในอนาคต สินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์อาจมีราคาสูงขึ้นในระยะยาว และผู้บริโภคจะต้องเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา : wccftech กรุงเทพธุรกิจ