นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง หรือ “อัยการหนุ่ย” ได้โพสต์ผ่าน Facebook กรณีคลิปไวรัลของครูรายหนึ่งใน TikTok ได้ถ่ายคลิปรื้อสมบัติฝ่ายกิจการโรงเรียน พบว่ามีโทรศัพท์มือถือของนักเรียนที่ยึดมาตั้งแต่สมัยปี 2555 หรือย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว และไม่ได้ส่งคืนให้กับเจ้าของ โดยอัยการคนดังกล่าวได้เปิดเผยว่า เคสนี้อาจเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ คุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคลิปไวรัลของครูสาวผู้ใช้งาน TikTok รายหนึ่ง ได้ถ่ายคลิปเปิดสมบัติฝ่ายกิจการโรงเรียน พบว่ามีโทรศัพท์มือถือของนักเรียนที่ถูกยึดมาตั้งแต่สมัย 9 ปีที่แล้วอยู่หลายเครื่อง จนถูกหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า ยึดแล้วทำไมไม่คืน เพราะราคาโทรศัพท์มือถือในสมัยก่อนก็ไม่ได้ถูก ๆ แม้จะยังไม่ได้เป็นสมาร์ทโฟน เหมือนเฉกเช่นทุกวันนี้ก็ตาม

Nokia 3310 รุ่นเกมงูสุดฮิต ก็เป็นอีกหนึ่งมือถือในลิสต์ที่ครูยึดเด็กมาแล้วไม่คืน 

ต่อมาไม่นาน ครูคนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงว่า พยายามคืนโทรศัพท์กับนักเรียนแล้ว แต่ไม่มีใครมารับคืน อีกทั้งก่อนเปิดเทอม ทางโรงเรียนก็มีปฐมนิเทศบอกกฎระเบียบไปแล้วทีนึงว่าห้ามเอาโทรศัพท์ติดตัวมาโรงเรียน จะเอามาทำไมในเมื่อสมัยนั้นมันไม่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลได้ (เพราะยังไม่เป็นสมาร์ทโฟน) ส่วนถ้าจะโทรคุยกับผู้ปกครองหลังเลิกเรียน ก็มีตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญให้อยู่แล้ว

แม้ว่าบางสถานศึกษาจะออกกฎระเบียบข้อบังคับเอาไว้อย่างชัดเจน ห้ามมิให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือติดตัวมาโรงเรียน หากถูกจับได้ จะถูกยึด ซึ่งจะคืนให้อีกทีตอนปิดเทอม หรือให้ผู้ปกครองมาติดต่อขอรับคืนด้วยตนเอง โดยในส่วนนี้ทาง อัยการหนุ่ย ได้ออกความเห็นว่า ระเบียบของโรงเรียน (แม้ว่าผู้ปกครองจะเคยตกลงยอมรับด้วย) ก็ไม่ได้ใหญ่หรือเหนือไปกว่ากฎหมายอาญาของประเทศ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้มอบอำนาจให้ครูไปยึดทรัพย์สินของเด็กแล้วไม่คืน ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ปกครองมีสิทธิ์ไปแจ้งความคดียักยอกทรัพย์สินเอาผิดครูที่เกี่ยวข้องได้

 

 

ที่มา: ข่าวสด | kapook