ช่วงนี้เราจะได้เห็นสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีเจอปัญหาสินค้าขาดตลาด และมีการแจ้งปรับขึ้นราคากันบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเจอพบกันในอุตสาหกรรมนี้ โดยต้นเหตุของปัญหาก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมที่วัตถุดิบสำคัญอย่างชิปเซตขาดตลาดจากกำลังการผลิตไม่พอ และปัญหาสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย แหล่งผลิตทรัพยากรสำคัญก็ดูจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้หนักเข้าไปอีก

โดยข้อมูลจากทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า รัสเซียเป็นแหล่งผลิตและส่งออกพาลาเดียมราว 40% ของทั้งโลก ส่วนยูเครนก็ผลิตและส่งออกนีออนราว 70% ของทั้งโลกเช่นกัน ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตชิปต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั้งรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่สมาร์ทโฟน สงครามที่เกิดขึ้นก็มีผลต่อห่วงโซ่อุปทาน ซ้ำเติมปัญหาที่มีอยู่แล้วขึ้นไปอีก

คาดการณ์ว่าราคาขายสินค้าเหล่านี้ในไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นในอนาคต แต่เป็นการปรับตามราคาตลาดโลก เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมักจะไม่ได้เป็นคนกำหนดราคาได้เอง ปัจจุบันสินค้าบางตัวอาจมีสต็อกเดิมอยู่ในคลังทำให้ราคายังไม่ปรับเพิ่ม รวมถึงการแข่งขันกันทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ ก็อาจจะมีการจำกัดการปรับขึ้นของราคาในประเทศในระยะสั้นได้อยู่

ความเห็นผู้เขียน อย่างไรก็ดีเราได้เห็นการทยอยปรับราคาของสินค้าในกลุ่มไอทีอย่างสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค มอนิเตอร์ หูฟัง และแก๊ดเจทต่างๆ กันไปบ้างแล้ว ซึ่งการขึ้นในรอบที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ใช่ผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน แต่เป็นการขาดแคลนวัตถุดิบอย่างแรร์เอิร์ธ และความต้องการเซมิคอนดักเตอร์และแบตเตอรี่สูงขึ้นมาก มีการดึงสินค้าไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จนมีการแย่งซัพพลายกัน สินค้าบางชนิดไม่ต้องการดันราคาสูงขึ้นไปจากเดิมอีก ก็อาจจะพบว่ามีปัญหาของขาด เช่น ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่สั่งไปอาจจะต้องจองแล้วรอกันหลายเดือนได้ และคาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราอาจได้เห็นราคาสินค้ากลุ่มไอทีปรับตัวกันขึ้นอีก ทั้งรุ่นใหม่ที่ออกมา หรือรุ่นเดิมที่ปัจจุบันยังขายอยู่ก็อาจจะปรับราคาให้สูงขึ้นได้ ถ้าใครลังเลจะซื้อแก๊ดเจทต่างๆอยู่ การรีบซื้อในช่วงนี้ก็อาจจะเป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นในทันที 🤪

 

Tips #1 พาลาเดียมและนีออน ไม่จัดอยู่ในกลุ่มแร่แรร์เอิร์ธ ซึ่งมีทั้งหมด 17 ชนิด

Tips #2 พาลาเดียมใช้ในเซนเซอร์ต่างๆและหน่วยความจำบางชนิด ส่วนนีออนแก๊สใช้กับเลเซอร์ในกระบวนการดีไซน์เซมิคอนดักเตอร์, source: WSJ