TECNO เป็นแบรนด์มือถือที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการชูจุดเด่นสเปคคุ้มในราคาที่ไม่แพงมาก ที่ผ่านมาจะวางขายมือถือที่มีราคาตั้งแต่ 1,000 – 7,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาเข้าถึงง่าย โดยทางแบรนด์จะมีการออกสินค้ามาขายแยกเป็น 5 ซีรีส์ ได้แก่ CAMON, POVA, SPARK, POP, และ Phantom V ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป และหากต้องการเลือกซื้อมือถือ TECNO สักรุ่นควรเลือกรุ่นไหน เราอธิบายไว้ให้ในบทความนี้
ซีรีส์มือถือ TECNO ทั้งหมด
- TECNO Camon
- TECNO POVA
- TECNO SPARK
- TECNO POP
- TECNO Phantom V
TECNO Camon – มือถือระดับกลางเน้นกล้อง
TECNO Camon ถือเป็นตระกูลกลางบนของค่าย TECNO โดยจะเน้นจุดเด่นเป็นเรื่องกล้องถ่ายภาพและวิดีโอ ที่มีการเน้นสเปคตัวกล้องและเซนเซอร์ อย่างใช้กล้องที่มีระบบกันสั่น OIS และ EIS รวมถึงซอฟต์แวร์ประมวลผลภายในที่พัฒนามาเป็นพิเศษ มีฟีเจอร์ถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืน เป็นต้น ทั้งนี้สเปคโดยรวมยังถือว่าเป็นมือถือระดับกลาง ทำให้ราคาไม่สูงมาก อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 7,000 บาท (้ท่าที่วางขายในไทย)
ทั้งนี้ รุ่น TECNO Camon ไม่มีวางขายในไทยมาสักพักแล้ว มีรุ่นสุดท้ายที่เข้ามาเป็น Tecno Camon 19 Pro เมื่อปี 2565 ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง TECNO Camon 20 นั้นไม่มีวี่แววว่าจะนำมาวางขายในไทยครับ
TECNO POVA – มือถือสายเกม อัดสเปคเน้น ๆ
TECNO POVA เป็นรุ่นยอดฮิตที่ขายดีพอสมควร ด้วยจุดเด่นเจาะตลาดเกมมิ่งโฟน มากับสเปคทั้งชิปเซ็ต หน้าจอ หน่วยความจำ แบตเตอรี่ และการชาร์จ ที่จัดเต็มรอบด้าน เพื่อรองรับประสบการณ์การเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่ถึงจะเน้นเป็นมือถือเล่นเกม ตัวชิปเซ็ตที่ใช้ส่วนใหญ่จะยังเป็นตัวกลางอย่าง Dimensity 6080 / Helio G99 Ultimate ที่ไม่ได้จัดว่าเป็นตัวแรงเป็นพิเศษ จึงเหมาะนำมาเล่นเกมแบบปรับกราฟิกกลาง – ต่ำ มากกว่า
แต่จุดเด่นของซีรีส์นี้อีกอย่างคือมีระบบระบายความร้อนในตัวด้วยแผงกราไฟต์ ทำให้ใช้งานแล้วตัวเครื่องไม่ร้อน กับแบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะเป็นพิเศษจึงเหมาะสมกับการนำมาเล่นเกมนาน ๆ โดยทั่วไปแล้วราคาของรุ่น TECNO POVA จะอยู่ในช่วง 6,000 – 10,000 บาท
TECNO POVA มีการแบ่งรุ่นย่อยตามนี้
- TECNO POVA Pro – รุ่นสูงสุด ได้ครบทุกอย่าง
- TECNO POVA – รุ่นกลาง ปรับสเปคบางส่วนอย่าง ชิปเซ็ต
- TECNO POVA Neo – รุ่นเริ่มต้น ราคาไม่แพง ลดสเปคกล้องและหน้าจอ
TECNO SPARK – รุ่นกลางใช้งานทั่วไป
TECNO SPARK วางตัวเป็นมือถือระดับกลางสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยสเปคจริง ๆ แล้วไม่ต่างกับรุ่น POVA ที่เป็นสายเกมมากเท่าไหร่ จะมีความแตกต่างในด้านดีไซน์ตัวเครื่อง และการที่ไม่มีแผงระบายความร้อนด้านใน นอกจากนี้เรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จก็ถูกปรับลดลงมาเล็กน้อยด้วย ส่วนชิปเซ็ต หน้าจอ และด้านอื่น ๆ ก็ยังมีความใกล้เคียงกันอยู่มาก รุ่น SPARK มีวางขายในราคา 5,000 – 6,000 บาท
TECNO SPARK มีการแบ่งรุ่นย่อยตามนี้
- TECNO SPARK Pro
- TECNO SPARK
- TECNO SPARK Go
- TECNO SPARK T
- TECNO SPARK C
- TECNO SPARK P
TECNO POP – มือถือรุ่นประหยัด ใช้งานพื้นฐาน
TECNO POP เป็นมือถือตัวเริ่มต้นราคาถูกที่สุด มากับสเปคพื้นฐานอย่าง RAM 3GB ความจุ 32GB หน้าจอ HD+ กล้อง 8MP ส่วนชิปเซ็ตอาจใช้เป็นยี่ห้อ Unisoc ที่ความแรงไม่มาก เหมาะใช้เป็นรุ่นที่นำมาใช้งานติดต่อสื่อสารเป็นหลัก หรือเล่นแอปโซเชียลบ้างเล็กน้อย ราคาจะอยู่ที่ 1,000 – 4,000 บาท เท่านั้น
ทั้งนี้รุ่น TECNO POP ไม่ได้มีการนำมาวางขายในประเทศไทยสักพักแล้ว มีรุ่นสุดท้ายที่เข้ามาเป็น TECNO POP 5 LTE เมื่อปี 2565
TECNO Phantom V – มือถือจอพับเรือธง เน้นนวัตกรรม
TECNO Phantom V เป็นมือถือเรือธงของค่ายเทคโน แต่จะเป็นมือถือแบบจอพับหรือ Foldable ส่วนสเปคก็จะจัดเต็มพร้อมสูงกับมือถือตัวท็อปของค่ายอื่น มากับชิป Dimensity 9000 ที่เป็นตระกูลเรือธง จอ AMOLED LTPO กล้องครบสามระยะ ส่วนราคาก็มาแรงอยู่ในเรท 30,000 – 40,000 บาท ต่เท่าที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการนำมาวางขายในประเทศไทย
TECNO Phantom V มีการแบ่งรุ่นย่อยตามนี้
- TECNO Phantom V Fold – จอพับขนาดใหญ่ กางเป็นแท็บเล็ต 7+ นิ้ว
- TECNO Phantom V Flip – จอพับตลับแป้งขนาดเล็ก เน้นแฟชัน
- TECNO Phantom Ultimate – คอนเซปต์มือถือจอม้วน
ทั้งหมดคือข้อมูลซีรีส์มือถือทั้งหมดของ TECNO แต่อาจมีบางรุ่นที่ขาดหายไปเป็นมือถือรุ่นที่ไม่มีการนำมาวางจำหน่ายในไทย หรือรุ่นที่ไม่ได้ผลิตมานานมากแล้ว แต่ข้อมูลเพียงเท่านี้น่าจะทำให้ทุกคนพอเข้าใจ และสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือจากค่ายเทคโนได้ครับ
Comment