หลายๆ คนน่าจะพอเห็นการรีวิว iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ล็อตแรกของเหล่า Tech Bloggers และ YouTubers ของประเทศนอกกันไปบ้างแล้วเมื่อวาน โดยไฮไลท์หลักๆ ของรีวิวครั้งนี้คือมีสื่อนอกทำการทดสอบความอึดแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Pro พบว่าเปิดใช้งาน 5G แล้วกินแบตกว่าเปิด 4G

Tom’s Guide คือสื่อนอกที่เป็นคนทดสอบความอึดแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Pro ในครั้งนี้ ซึ่งวิธีที่พวกเขาใช้ทดสอบในครั้งนี้ก็คือ จะเปิดความสว่างจอของ iPhone 12 Pro เอาไว้ที่ 150 nits และรีเฟรชหน้าเว็บทุกๆ 30 วินาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าแบตจะหมด แน่นอนว่าจะทดสอบทั้งตอนที่เปิดใช้งานแต่ 4G และตอนที่เปิดใช้งานแต่ 5G โดยผลการทดสอบก็ออกมาตามนี้

  • iPhone 12 Pro เมื่อเปิด 4G จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง 6 นาที
  • iPhone 12 Pro เมื่อเปิด 5G จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง 25 นาที

ซึ่งจากผลลัพธ์จะเห็นว่า พอเปิดใช้งาน 5G แล้ว ตัว iPhone 12 Pro จะกินแบตเตอรี่มากกว่าเดิมอยู่ที่ราวๆ 20% เลยทีเดียว และเมื่อไปเทียบกับ iPhone 11 และ iPhone 11 Pro ในการทดสอบแบบเดียวกัน (แต่เป็นแบบเปิด 4G) สมาร์ทโฟนสองรุ่นดังกล่าวจะทำผลงานออกมาได้ดีกว่าที่ 11.16 ชั่วโมง และ 10.24 ชั่วโมง ตามลำดับ

โดย Tom’s Guide รายงานว่า เมื่อไปเทียบกับมือถือเรือธงของฝั่ง Android แล้ว เทคโนโลยี 5G ในเรื่องของการสูบแบตของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ยังตามหลังอยู่ “หนึ่งก้าว” ด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทาง Apple ก็ทราบกับปัญหานี้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาก็ใส่ฟีเจอร์ Smart Data Mode เข้าไปไว้ใน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro โดยฟีเจอร์นี้จะคอยสลับใช้งาน 5G/4G LTE แบบอัตโนมัติ ดูว่าเวลาไหนควรใช้การเชื่อมต่อแบบไหน เพื่อได้มาซึ่งการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุด

นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น จะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับซีรีส์ iPhone 11 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว

 

ที่มา: Tom’s Guide via MacRumors