TikTok แอปคลิปวิดีโอสั้นสุดฮิตของหมู่วัยรุ่นในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่มักจะแชร์คลิปต่างๆ ทั้ง คลิปลิปซิงค์ คลิปตลก หรืออื่นๆ จนกลายเป็นกระแสกันมานักต่อนัก ซึ่งจริงๆ แล้วแอพนี้กำหนดอายุของผู้เล่นขั้นต่ำที่ 13 ปีขึ้นไป เพื่อความเหมาะสมและความปลอดภัยในการรับชมคอนเทนท์ แต่การจำกัดอายุอาจไม่ได้ผลเต็มที่นัก ทาง TikTok ก็เลยใส่ฟีเจอร์ “Family Safety” เพื่อให้ผู้ปกครองได้อุ่นใจ เพราะสามารถควบคุมการใช้งานของลูกๆ ได้ค่ะ

ถึงแม้ว่าแอป TikTok จะกำหนดอายุผู้ใช้งานเอาไว้ที่ 13 ปีขึ้นไป แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีเด็กอายุต่ำกว่ากำหนดเข้ามาเล่นแอปนี้กันมากมายไปหมด โดยการสำรวจครั้งล่าสุดในประเทศอังกฤษพบว่ามีผู้ใช้งานอายุตั้งแต่ 12 – 15 ปี กว่า 13% ในปี 2019 เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ที่ 18% ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายอดห่วงไม่ได้ว่าลูกๆ อาจจะไปเจอคลิปที่ไม่เหมาะสม หรือหนักกว่าคืออาจจะทำคลิปที่ไม่เหมาะสมออกมาเองซะเลย…ทาง TikTiok ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ใส่ฟีเจอร์ Family Safety Mode เข้ามา เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถคัดกรองคอนเทนท์ที่เหมาะสม หรือสามารถคัดกรองการรับ-ส่งข้อความภายในแอปได้ด้วย ซึ่งตัวเลือกต่างๆ ก็มีตามนี้ค่ะ

  • restrict mode ฟังก์ชันอัตโนมัติที่ใช้ Algorithm ในการคัดกรองคอนเทนท์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กออกไป
  • Messages ฟังก์ชันที่สามารถจำกัดการรับข้อความที่มาจากเพื่อนเท่านั้น หรือปิดการรับข้อความทั้งหมดเลยก็ได้
  • Screen Time control ฟังก์ชันที่สามารถกำหนดระยะเวลาในการเล่นแอป TikTok แต่ละวัน

วิธีเปิดโหมด Family Safety

วิธีการเปิดใช้งานก็ง่ายๆ เลยค่ะ อย่างแรก ผู้ปกครองต้องมีบัญชี TikTok อยู่ในมือถือของตัวเองก่อน จากนั้นถึงจะสามารถเชื่อมต่อกับบัญชีของเครื่องลูก เพื่อเข้าไปตั้งค่าความปลอดภัยบัญชีของเครื่องลูกได้จากมือถือตัวเอง โดยเข้าไปที่เมนู “Digital wellbeing” ใน setting และระบุว่ามือถือเครื่องไหนเป็นของผู้ปกครองและเครื่องไหนเป็นของเด็ก จากนั้นให้ใช้มือถือเครื่องลูกก็สแกน QR code จากมือถือผู้ปกครอง และตั้ง Password ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะ โดยเครื่องพ่อแม่จะต้องคอยตั้ง Password ใหม่ทุกๆ 30 วัน ด้วยนะคะ

ในตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวพึ่งเปิดให้ใช้งานได้เฉพาะในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่จะเริ่มปล่อยอัพเดทให้กับประเทศอื่นในอาทิตย์ต่อๆ ไป…ต่อไปนี้พ่อแม่ก็จะโล่งใจไปได้อีกหนึ่งเปลาะแล้วค่ะ ว่าอย่างน้อยลูกๆ ก็จะไม่สามารถเข้าถึงคอนเทนท์ไม่เหมาะสมจากแอปยอดนิยมดังกล่าว ในขณะที่ยังสามารถรับชมคอนเทนท์สร้างสรรค์อื่นๆ ได้อยู่

 

ที่มา: BBC และ CNN