เน็ตมือถือทุกวันนี้ แต่ละค่ายก็มักจะบอกลูกค้าอย่างเราๆว่าบริการ 3G/4G ของค่ายเรานั้นเร็วและดีเป็นที่หนึ่ง แต่การอวดอ้างต่างๆนั้นก็อาจจะฟังดูไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่นัก ซึ่งปัจจุบันก็มีบริการหลายตัวที่เปิดขึ้นมาเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ โดยที่ได้รับความนิยมกันในไทย 2 ตัวก็คือ Ookla Speedtest และ nPerf ซึ่งเพิ่งประกาศผลเครือข่ายเร็วที่สุดไปเร็วๆนี้ แต่น่าสนใจว่าผลของสองค่ายกลับแตกต่างกัน โดย Ookla ให้ AIS เป็นอันดับ 1 ส่วน nPerf ยกให้ TrueMove H ไป

TrueMove H อันดับหนึ่งจาก nPerf

nPerf แอปพลิเคชั่นที่ใช้ทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ดาวน์โหลดได้ฟรีและมีผู้ใช้ทดสอบมากมาย ทั้งเครือข่ายมือถือและผู้ใช้บริการ ซึ่งทาง nPerf ได้ยกให้ TrueMove H เป็นอันดับ 1 ของเครือข่ายมือถือในประเทศไทย มีผลการทดสอบดีที่สุด 4 จาก 6 KPI สำคัญ​ โดยมีคนเข้ามาทดสอบผ่านแอปของ nPerf กว่า 5.5 แสนครั้งตลอดช่วงครึ่งปี 2018 ที่ผ่านมา

อันดับหนึ่งผลการทดสอบในแต่ละด้าน

  • Success ratio (อัตรารับส่งข้อมูลสำเร็จ) : AIS 88.16%
  • Download bitrate (ความเร็วดาวน์โหลดเฉลี่ย) : TrueMove 15.73 Mb/s
  • Upload bitrate (ความเร็วอัพโหลดเฉลี่ย) : TrueMove H 8.41 Mb/s
  • Latency (ความเร็วในการตอบสนอง, ปิง) : AIS 52.50 ms
  • Streaming (ประสิทธิภาพในการดูหนังต่อเนื่อง) : TrueMove 71.26%
  • Browsing(ประสิทธิภาพในการดูท่องเว็บ) : TrueMove 53.18%

จากตารางข้างต้นทำให้เห็นว่าในหลายๆหัวข้อข้างต้นนี้ TrueMove H กับ AIS จะค่อนข้างเฉือนกันพอสมควร แต่ TrueMove H ก็ทำได้ดีกว่าและชนะไป ส่วนดีแทคแม้ว่าจะตามหลังในเรื่องความเร็วเกือบเท่าตัว แต่ก็ยังทำได้ดีในเรื่องของ success ratio และ latency แต่ถ้าจะเอาไปสตรีมดู YouTube ก็อาจจะเจอปัญหาค้างเอ๋อมากกว่าอีกสองค่ายพอดูครับ

AIS อันดับหนึ่งจาก  Ookla Speedtest

มาถึงทางฝั่ง AIS ที่ได้รับรางวัลจาก Ookla Speedtest ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตอันดับ 1 ของโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 100 ล้านรายจาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยในประเทศไทยมียอดดาวน์โหลดกว่า 5 ล้านครั้ง มีคนใช้ประจำกว่า 2.8 ล้านราย โดยในช่วงครึ่งปีแรก มีคนร่วมทดสอบความเร็วเน็ตกับทาง Ookla ไปกว่า 8 ล้านครั้ง หรือเยอะกว่าของทาง nPerf ถึง 16 เท่าเลยทีเดียว

สำหรับปีนี้ AIS ได้รางวัลจากทาง Ookla Speedtest เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้วว่าเป็นเครือข่ายมือถือที่เร็วที่สุดในประเทศไทย และมีค่าเฉลี่ย Latency ต่ำที่สุด โดยทาง AIS ได้เคลมว่าเป็นผลจากการพัฒนาเครือข่ายหลายด้าน รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง MIMO 4×4 with CA, 256 QAM DL/64 QAM UL, LAA (Licensed Assisted Access) และ FDD Massive MIMO 32T 32R แบบครบเซทเลยนั่นเอง

สรุปใช้เครือข่ายไหนดีที่สุด

เรียกว่าเป็นการบลัฟกันระหว่างสองเครือข่ายแบบทันควันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งคนที่อ่วมที่สุดจากผลการทดสอบนี้คงไม่ใช่ใครแต่เป็น dtac ซะมากกว่า และผลการทดสอบนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผลแบบภาพรวมของทั้งประเทศ อาจจะไม่ได้สะท้อนถึงการใช้งานจริงในแต่ละจุดไปนะครับ เพราะในบางพื้นที่ บางราย ผู้ใช้บางคนของดีแทคเองยังมีความสุขดีไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่สำหรับคนที่เดินทางบ่อยๆ เจอปัญหาการใช้งานเรื่อยๆ ยังไงก็ลองเปลี่ยนเครือข่ายกันดูนะ ยังไงก็ย้ายค่ายเบอร์เดิมกันสบายๆอยู่แล้ว อะไรไม่ดีก็ไม่ต้องทนน่อ แต่ก็อาจจะซวยหน่อยในกรณีที่ถ้าย้ายไปแล้วกลายเป็นหนีเสือปะจระเข้ การสอบถามคนในพื้นที่หรือตรวจสอบผ่านแอปก่อนเปลี่ยนได้ก็อาจจะดีที่สุดนะ 😉

 

ที่มาข้อมูล ข่าวประชาสัมพันธ์จาก AIS และ nPerf