จากที่มีประเด็นเรื่องของ Uber X และ Black มานานว่ามันผิดกฎหมายและสามารถวิ่งได้หรือไม่ ซึ่งเราก็เคยเสนอความเห็นของนักกฎหมายไปก่อนหน้าที่ทุกคนชี้แจงตรงกันว่าผิดชัวร์ๆ มาวันนี้มีจดหมายข่าวของกรมขนส่งทางบกฟันธงมาแล้วว่า Uber ผิดแน่นอนใน 3 ประเด็น ได้แก่
- ใช้รถยนต์ผิดประเภท (ทั้งป้ายเขียวและป้ายดำ
- ค่าโดยสารไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
- ผู้ขับไม่มีใบขับขี่สาธารณะ
สำหรับใครที่ยังขับและให้บริการ Uber อยู่ทางกรมขนส่งเตรียมตรวจสอบและลงโทษด้วยการปรับเป็นเงิน 2,000 บาทจากข้อหาใช้รถยนต์ผิดประเภท และอีก 1,000 บาทจากการที่ไม่มีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ
นอกจากนี้ทางกรมขนส่งฯ ยังแสดงความเป็นห่วงผู้ใช้ที่จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตว่าอาจไม่ปลอดภัย และรถที่ให้บริการไม่อยู่ในฐานข้อมูลรถสาธารณะของกรมฯ รวมถึงค่าบริการที่แพงกว่าแท็กซี่ทั่วไป…แต่ทางกรมอาจจะลืมไปว่าผู้โดยสารหลายๆคนโดนแท็กซี่ปล้นจากการที่ไม่มีเงินทอน คนขับหน้าไม่ตรงกับใบอนุญาตที่แปะบนรถ และการโดนโกงมิเตอร์จากแท็กซี่หลายๆราย
ถือว่าเป็นความน่าเสียใจและน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่กรมขนส่งฯเลือกใช้มาตรการนี้แทนการกวักมือเรียกให้เหล่าผู้ให้บริการมาลงทะเบียนและปรับการให้บริการให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมให้บริการต่อได้เหมือนที่ “ประเทศสิงคโปร์”2 เพื่อเป็นทางเลือกแก่เหล่าผู้บริโภค กระตุ้นตลาดให้เกิดการแข่งขัน มีการพัฒนา ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้วพวกเราๆก็คงต้องทนรับกรรมเจอแท็กซี่พฤติกรรมแย่ๆกันต่อไป
สวัสดี
[Updated 4:15pm] @twometre หนึ่งในผู้ขับของ Uber ออกมาทวิตบอกว่าได้รับ SMS จาก Uber ว่าไม่ต้องห่วง มีปัญหาอะไรเราดูแลเอง ขับกันให้เยอะๆเลย!!
Uber ส่ง SMS มาบอกคนขับแล้วนะครับ ว่าอย่าไปกลัว ออกมาขับกันนะ นักข่าวเอาไปทำข่าวนะ pic.twitter.com/LvReALLKjZ
— Vladimir S. (@twometre) November 28, 2014
Uber ต้องปรับตัวครับ ต้องย่อมจ่ายใต้โต๊ะด้วย (แทนการกวักมือเรียกให้เหล่าผู้ให้บริการมาลงทะเบียนและปรับการให้บริการให้ถูกต้องตามกฎหมาย) ผิดหวังอย่างแรง
ใช้คำว่า เหมา ก็รอดแล้วครับ เหมาจากจุด A ไปจุด B
งงๆ ว่า Uber จะดูแลยังไงครับ??
จะส่งทนายมาช่วยเหรอ??
ปล. คิดเองว่า ควรเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส
Dev คนไทย ควรทำ App แบบ Uber ***แต่มีสังกัดอู่***
คราวนี้ ถ้าอู่ไหนบริการไม่ดี คนจะไม่เอาอู่นั้น
เกิดการแข่งขันระหว่างอู่
ยิ่งเป็นแอปแบบนี้ การร้องเรียนคันที่มีปัญหาต่ออู่ก็ทำได้ง่าย
ทำให้อู่เข้มงวดกับ คนในสังกัดมากขึ้น (แต่ก็ต้องระวังการกลั่นแกล้งด้วย)
ปัญหาพื้นฐานอย่าง การไม่รับผู้โดยสาร อ้าง"ส่งรถ" ก็ทำไมได้ เพราะแอปจะระบุเวลาคืนรถอยู่
ฯลฯ
อู่จะเล่นด้วยหรอครับ
ยังไงก็ได้เงินค่าเช่าอยู่แล้ว เขาไม่มาลงทุนลงแรงกับระบบนี้ให้ยุ่งยากหรอกครับ
เราว่ามันเหมาะกับคนที่มีรถเป็นของตัวเองมากกว่า เวลามีปัญหาอะไรก็ตามตัวง่าย
เอามาแข่งกับพวกที่ชอบไม่รับผู้โดยสาร
ไม่ได้ให้อู่ทำครับ
ให้นักพัฒนา App ทำครับ
ทำเสร็จ อู่ไหนสนใจก็มาลงทะเบียนอู่+รถ กับนักพัฒนา
ถ้าไม่มีความชำนาญ นักพัฒนา App ก็มีบริการ ทีมเก็บข้อมูลเข้าไปเก็บข้อมูลให้
เจ้าของอู่จะได้ Acc ที่เอาไว้ monitor รถทั้งหมดของอู่ได้
รับเรื่องร้องเรียนได้ รับรู้รถเสียได้ ฯลฯ
เผลอๆแจ้งเจ้าของอู่ว่า รถกำลังวิ่งออกต่างจังหวัด คนขับอาจโดนปล้นรถไปแล้ว ได้ด้วย
ซึ่งถ้าอู่ไหนไม่เข้าร่วม ก็จะตกขบวน+ซวย เพราะสู้อู่ที่เข้าร่วมไม่ได้ โดยตัวมันเอง
นี่เป็นคอนเซ็ปต์พื้นฐาน ของการพัฒนาจากการแข่งขัน ครับ
เข้าใจนะครับ แต่
"ซึ่งถ้าอู่ไหนไม่เข้าร่วม ก็จะตกขบวน+ซวย"
ตรงนี้แหละที่ยากครับ
ไม่ทราบท่านมีข้อมูลเรื่องธรรมชาติของธุรกิจนี้
ว่าพอจะจับเอาประเด็นไหนมาเป็นเหตุผลให้เรามีลูกค้ากลุ่มแรกได้มั้ยครับ
คือผมไม่เถียงไอเดียเรื่องกดดันว่าตกขบวนนะ
แต่เราต้องมีลูกค้ากลุ่มแรกก่อน ไม่งั้นก็ไม่เกิดแรงกดดัน
เพราะลำพังแค่ monitor + รับร้องเรียน ทุกวันนี้เค้าก็มีของเค้าอยู่แล้ว
แถมถ้าเค้าใส่ใจจริงๆ ก็ทำให้ดีได้ด้วยระบบเดิมไม่ยาก ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเหมือนกับใช้แอพนี้
ที่นึกออกมีทางเดียวคือต้องเล่นประเด็นเรื่อง operate cost ซึ่งก็อย่างที่บอก
ไม่รู้ข้อมูลวงในเลยว่าเค้ามีค่าใช้จ่ายตรงไหนที่พอจะลดได้ หรือเป็นช่องว่างให้ตีตลาด
(หรือถ้าเป็นความลับทางธุรกิจก็ไม่เป็นไร อยากรู้เฉยๆ :p)
ก็ไม่ได้ให้อู่ทำหรอก
แต่หมายถึงอู่จะเอารถมาลงทะเบียนหรอ
เขาได้เงินจากค่าเช่าอยู่แล้ว รับคนได้ไม่ได้อู่สนใจด้วยหรอ
เราว่าระบบแบบนี้ ทำออกมาแข่งกับพวกแท๊คซี่ประจำทางดีกว่า
ดึงให้คนขับมาลงทะเบียน แทนที่จะเป็นอู่รถ
ขอโทษครับ ซ้ำ
แสดงว่า ควรให้ คนขับUber ทำตัวให้ถูกต้อง
ด้วยการ ออกป้ายรถแท๊กซี่ + สอบใบขนส่งสาธารณะ ให้เรียบร้อย
จากนั้น คนขับที่สังกัดอู่ อาจจะตบเท้า ออกมาเป็นอิสระจากอู่ได้ด้วย??
แนวคิดนี้ก็น่าสนนะ กำจัดอู่พ่อค้าคนกลางไปเลย…
สุดยอดความคิดเลย
รถไม่เข้าระบบฐานข้อมูล ถ้าเอาเข้าระบบแล้วปลอดภัยกว่าตรงไหน ในเมื่อปัญหามันอยู่ที่คนขับ
เหมือนกับที่ห้ามสูบบุหรี่บนรถโดยสารสาธารณะ
แต่คนขับรถสามารถสูบได้โดยไม่ผิด
หรือแม้แต่ที่ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ แต่คนขับรถเมล์สามารถใช้ได้
เห็นด้วยเลยกับการที่จะทำให้มันถูกกฏหมาย แต่คงไม่มีทางเป็นไปได้ในบ้านเรา
คงจะมีแต่บ่อนแหละ ที่จะทำให้มันถูกกฎหมายได้
ไว้อาลัยให้กับกฎหมายไทย(โบราณ)อีกกรณี
กฏหมายไทย ออกโดยคนไทย เพื่อคนไทย(บางกลุ่ม กลุ่มไหนไปคิดเอาเองนะ ^ ^)ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะครับ
แต่คิดว่า Uber คงมีทางออกเหมือนกัน จริงๆ เป็นบริการที่จะทำให้บ้านเราพัฒนานะ ยิ่งอ่าน Face ของกลุ่มแท็กซี่นี่รู้เลยว่าการมาของ Uber จะทำให้ประเทศเรามีระบบ Taxi ที่ดีขึ้นเพราะตอนนี้ก็เริ่มร้อนๆ หนาวๆ กันแล้ว เริ่มปรับตัวเองกันขึ้นมา
ปล. ถ้าราคามันใกล้เคียงกันแค่นี้ ผมเลือกบริการมากกว่ามานั่งเสียอารมณ์กับคำว่า "ไม่ไปครับ" จะดีกว่า เร็วๆนี้เรียกไปที่นึง ซึ่งก็ไม่ได้ไกล แต่แม่งเสือกไม่ไปกัน 5-6 คัน เซ็งมาก
ผมเสียวๆ ว่าจะไม่ใช่เรื่องโบราณ แต่เป็นแนวๆ คอรัปชั่นสิครับ
แทนที่จะเปิดให้มีการแข่งขัน จะได้เกิดการพัฒนา
กลายเป็น เตะตัดขาคนที่จะเข้ามาแข่ง แล้วปล่อยระบบแย่ๆแบบเดิมไว้
นั่นน่ะสิครับ
เราอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน ตอนนี้รถ Uber ยังไม่เยอะ อาจยังไม่เห็นปัญหา ลองวันไหนเกิดอาชญากรรมขึ้นกับผู้โดยสารที่ใช้บริการ Uber ดูสิครับ ยังไม่รวมความคุ้มครองตามพรบ.หรือประกันอื่นๆอีกจิปาถะ ถ้าปล่อยให้วิ่งกันตามอำเภอใจ ก็ไม่ต่างกับวินรถตู้เถื่อนหรอกครับ
ทุกวันนี้แท้กซี่โคตรปลอดภัยเลยครับ เอาแค่โทรสับหายตามจากแท๊กซี่ได้มั้ย…ยาก
แต่ถ้า Uber ตามได้เพราะอะไรมันระบุประวัติทุกอย่างตั้งแต่ก่อนขึ้นรถแล้วครับ
เอากฎหมายอาอ้างแบบนี้ขับแท้กซี่รึเปล่าครับ ?
แท้กซี่ที่อ้างว่าปลอดภัยเนี่ยมีกี่คันครับที่เอกสารแสดงตัวคนขับรถตรงกับคนขับจริง ๆ
เอาไปเทียบกับรถตู้เถื่อนคุณรู้จัก Uber ดีแค่ไหนครับ ?
ใครที่สมัครใช้งานครั้งแรก
ผมมีpromotion code สำหรับเป็นเครดิตให้ใช้งานฟรี200บาทครับ
ใส่ในช่องโปรโมชั่นโค้ดว่า f9lv2 จะได้เครดิตมาใช้งานฟรี200บาท
ใช้ได้คนละครั้ง แต่โค้ดหนึ่งจะใช้กี่คนก็ได้ ผมเคยใช้แล้วก็เอามาแบ่งๆกันครับ
ถ้าจำไม่ผิด คนเอาโค้ดนี้ไปใช้ เจ้าของก็จะได้ 200 ด้วยถูกไหมครับ
ทุกวันนี้รถตู้เข้าระบบไหม ??? แล้วยังปลอดภัยอยู่ไหม ??? คนขับแท็กซี่เข้าระบบไหม ??? แล้วยังมีข่าวทางลบที่เกิดโดยคนขับอยู่ไหม ???
อยากให้ตีความคำว่ารถสาธารณะ ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ให้แตกฉานเสียก่อน
เพราะในกรณี Uber มันไม่ได้เป็นรถที่ใครจะนั่งก็ได้ มันต้องลงทะเบียนระบุตัวตน อย่างน้อยก็ผูกกับบัตรเครดิต บัตรเดบิต แล้วในการใช้บริการ ก็ไปแบบ Private คือไม่ได้ไปแชร์รถคันนั้นกับใครเหมือนรถตู้หรือรถเมล์ (แน่นอนว่าเหมือนแท็กซี่ ถ้าไม่รู้จักกันก็ไม่ให้มาคันเดียวกันอยู่แล้ว)
แล้วรถก็มีเจ้าของที่ชัดเจน ก่อนจะขับก็ต้องสมัครกันก่อน ไหนจะเลขที่บัญชีที่ผูกไว้อีกเพื่อรับเงิน ทุกอย่างตรวจสอบได้ มีที่มา
แล้วมันสาธารณะ ตรงจุดไหนบ้าง ??? แล้วที่มันสาธารณะอยู่ตอนนี้ ทำได้ดีแล้วหรือยัง…. -^-
พูดถึงแท็กซี่(ธรรมดา) ช่วงนี้ผมมีโอกาสนั่งแท็กซี่ค่อนข้างบ่อย ขอบอกเลย ว่าเจอแท็กซี่ไม่ยอมจอดรับ รับแต่ชาวต่างชาติ หรือเจอแบบ ไม่ไป อะไรงี้บ่อย เรียกว่าต้องรู้ถิ่น รู้เวลาโบก ถึงได้ไป เมื่อไหร่แท็กซี่จะปรับปรุงตัวเองบ้าง แท็กซี่บางคันทำตัวห่วย ทำให้ดูแย่กันไปทั้งหมดเลย