ช่วง 1 – 2 ปีมานี้ Apple ต้องเผชิญกับสารพัดคดีฟ้องร้องและการตรวจสอบที่เข้มข้นจากหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ จากหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือ คดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักรจากนักพัฒนากว่า 1,500 คน เมื่อกลางปี 2023 ในข้อกล่าวหาว่า Apple เรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่เป็นธรรม โดยมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 785 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ แม้ Apple จะเสนอจ่ายเงินชดเชยบางส่วนขอเพื่อยุติคดี แต่ผู้พิพากษาปฏิเสธคำขอดังกล่าว และจะดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป
เนื้อหาการฟ้องร้องโดยคร่าว ๆ คือ Apple ถูกกล่าวหาว่า ใช้ประโยชน์จากสถานะในปัจจุบันที่เป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดมือถือ ในการกำหนดค่าคอมมิชชันสูงถึง 30% ซึ่งนักพัฒนากลุ่มนี้มองว่าเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป แม้ทนายความของ Apple พยายามโต้แย้งว่า นักพัฒนาเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องเรื่องค่าคอมมิชชันจากการขายแอป เว้นแต่จะถูกเรียกเก็บจากการซื้อแอป หรือการซื้อในแอปในสหราชอาณาจักร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในขณะที่ผู้พิพากษามองว่าข้อแก้ต่างของ Apple นั้นฟังไม่ขึ้น โดยระบุว่าค่าคอมมิชชันที่ถูกเรียกเก็บในสหราชอาณาจักร ย่อมมีค่าเทียบเท่ากับการดำเนินการ หรือการทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ดังนั้นแล้ว นักพัฒนาจึงมีสิทธิ์อย่างชอบธรรมในการฟ้องร้อง
ขณะนี้คดีความข้างตั้งยังอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ กว่าคดีจะถึงจุดสิ้นสุด คงใช้เวลาตัดสินกันอีกนาน และยังไม่มีข้อมูลว่าการพิจารณาคดีครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่สื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่าอาจต้องรอกันถึงปีหน้า
จำนวนเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ที่กลุ่มนักพัฒนาเรียกร้อง อาจเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แต่จะดูน้อยลงไปในทันที เมื่อเทียบกับคดีผูกขาดแอปสตรีมเพลงที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เรียกปรับ Apple เป็นเงิน 1,800 ล้านยูโร หรืออย่างกรณีของ Google ที่โดนฟ้องร้องเรื่องการผูกขาดแอปสโตร์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ โดย Google ยอมจ่ายมากถึง 700 ล้านยูโร เพื่อจบคดี
ที่มา : Reuters
Comment