อัยการจาก 36 รัฐในสหรัฐฯ และวอชิงตัน ดี.ซี. ฟ้องร้อง Google ในข้อกล่าวหาผูกขาดแอปสโตร์บนแพลตฟอร์ม Android เมื่อปี 2021 ซึ่ง Google ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับภาครัฐเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และวันนี้ข้อตกลงดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการแล้ว – สาระสำคัญคือ Google ยอมจ่าย 700 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ผู้บริโภคและกองทุนของรัฐเพื่อยุติคดี

โจทก์อ้างว่า ผู้บริโภคอาจเสียเงินไปกับแอปและบริการต่าง ๆ น้อยลง และมีทางเลือกมากขึ้น หากไม่ใช่เพราะ Google ผูกขาด Google Play ที่บังคับให้นักพัฒนาต้องใช้ระบบชำระเงิน Google Play Billing ซึ่งมีการหักค่าคอมมิชชันสูงสุด 30%

ทาง Epic Games เอง ก็ฟ้องร้อง Google อีกคดีในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2020 และคณะลูกขุนของรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนียพึ่งมีมติตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Google มีความผิดจริง ในขณะที่ Google ไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาของทั้งสองคดี โดยให้การว่า ‘ทำไปเพื่อการแข่งขันกับ Apple ไม่ใช่การผูกขาด’ แต่คำโต้แย้งไม่เป็นผล

สำหรับข้อตกลงระหว่าง Google กับอัยการสูงสุดของรัฐ โดยคร่าว ๆ ที่ Google ชี้แจงในบล็อกโพสต์ มีดังนี้

  • ไม่ปิดกั้นแอปสโตร์ทางเลือก : ผู้ผลิตมือถือสามารถติดตั้งแอปสโตร์อื่นนอกเหนือจาก Google Play ล่วงหน้าจากโรงงานได้อย่างอิสระ ซึ่ง Google มีการปรับปรุง API บางส่วนใน Android 14 ให้แอปสโตร์ภายนอกทำงานได้ดีขึ้นและอัปเดตแอปได้ง่ายกว่าเดิม
  • ทำให้ติดตั้งแอปผ่านการไซด์โหลดสะดวกกว่าเดิม : ปรับปรุง ‘ข้อความ’ ที่แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดาวน์โหลดและติดตั้งด้วยวิธีไซด์โหลดใหม่ โดยยังคงเน้นย้ำถึงความปลอดภัย แต่ไม่แสดงถึงความกีดกัน
  • ขยายตัวเลือกเก็บเงิน User Choice Billing ในวงกว้าง : จากเดิม ตัวเลือกนี้ยังมีให้ใช้งานในวงจำกัดหลังเปิดให้ทดสอบใช้งานครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว แต่เร็ว ๆ นี้จะขยายวงกว้างขึ้นในสหรัฐฯ ทำให้นักพัฒนาสามารถนำเสนอช่องทางชำระเงินอื่น ๆ นอกเหนือจาก Google Play Billing ของ Google ได้
  • อนุญาตให้นักพัฒนาแสดงราคาที่แตกต่างกันในแอป : เพื่อนำเสนอตัวเลือกราคาที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภค และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน โดยแนวทางนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของ User Choice Billing ด้วย
  • จ่ายเงิน 700 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดี : แบ่งเป็น 630 ล้านดอลลาร์เข้ากองทุนระงับคดี ซึ่งจะนำเงินไปมอบให้กับผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าหรือบริการในแอป (in-app purchase) ผ่าน Google Play หลังหักภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และอีก 70 ล้านดอลลาร์เข้ากองทุนของรัฐ แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด

ข้อตกลงทั้งหมดข้างต้น จะมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากที่ศาลอนุมัติข้อตกลงอย่างเป็นทางการแล้ว (แต่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับคดีระหว่าง Epic Games)

ที่มา : Google